กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกว่าจะหดตัว 4.9% ในปี 2020 จากที่ประมาณการในเดือนเมษายนว่าจะติดลบ 3% เนื่องจากมีแนวโน้มที่วิกฤตการระบาดของโควิด-19 จะส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอยรุนแรงและฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ในตอนแรก
IMF คาดการณ์ว่าการหดตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในปีนี้จะมีความรุนแรงมากที่สุดนับจากยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในทศวรรษ 1930 หรือ Great Depression
ส่วนในปี 2021 คาดว่า GDP ทั่วโลกจะขยายตัวเพียง 5.4% จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 5.8% ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังเลวร้ายกว่าที่คาด และยังต่ำกว่าการขยายตัวช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ประมาณ 6.5 จุด อย่างไรก็ตาม อัตราการฟื้นตัวยังขึ้นอยู่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลหลายประเทศทั่วโลกได้ประกาศแผนอัดฉีดและเยียวยาเศรษฐกิจด้วยเครื่องมือทางการคลังแล้วเกือบ 11 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
IMF ระบุในรายงานฉบับล่าสุดว่า โรคระบาดครั้งนี้ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกหดตัวในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยตลาดแรงงานทั่วโลกได้รับผลกระทบในระดับที่เรียกว่า ‘หายนะ’ ขณะที่บริษัทต่างๆ ได้ลดการลงทุน เพื่อป้องกันความเสี่ยง เช่นเดียวกับการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคก็หดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ
“โควิด-19 สร้างผลกระทบเชิงลบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วนการฟื้นตัวก็มีแนวโน้มช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้” IMF ระบุ
นอกจากนี้ IMF ยังเตือนเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการทำนายแนวโน้มเศรษฐกิจ เนื่องจากตัวเลขส่วนใหญ่มาจากการสมมติฐาน
ด้านหนี้สาธารณะทั่วโลกต่อ GDP คาดว่าจะสูงถึง 101.5% และ 103.2% ในปี 2020 และ 2021 ตามลำดับ สืบเนื่องจากผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทั่วโลก
สำหรับสหรัฐฯ ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกนั้น IMF คาดว่า GDP ปี 2020 จะติดลบถึง 8.0% จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัว 5.9% ส่วนยูโรโซนติดลบเพิ่มเป็น 10.2% จากเดิม -7.5%
ตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจของ IMF ถือว่าดีกว่าทั้งธนาคารโลกและองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ซึ่งก่อนหน้านี้คาดว่า GDP ทั่วโลกจะหดตัว 5.2% และ 6% ในปี 2020 ก่อนที่จะฟื้นตัวดีขึ้นในปี 2021
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: