กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( IMF ) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกสำหรับปีนี้ลงอีก 0.7% สู่ระดับ 4.2% โดยการเติบโตที่คาดนี้ต่ำกว่าการเติบโตเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน IMF ยังได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตสำหรับปี 2023 ลงมาเหลือ 4.5% ลดลง 0.6% จากคาดการณ์เดิมเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
สาเหตุสำคัญของการปรับลดคาดการณ์การเติบโตรอบนี้ยังมาจากปัญหาหลายๆ ด้านที่ส่งผลตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นภาวะสงครามในยูเครน การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และการปรับขึ้นดอกเบี้ยทั่วโลก
Krishna Srinivasan ผู้อำนวยการฝ่ายภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ระบุเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า “ความเสี่ยงต่างๆ ที่เราหยิบยกมาตั้งแต่เดือนเมษายนยังคงไม่ได้หายไปไหน ซึ่งก็รวมไปถึงการคุมเข้มทางการเงินและปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากสงครามในยูเครน นอกจากนี้การเติบโตในเอเชียยังถูกซ้ำเติมจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว”
ทั้งนี้ IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนน่าจะเติบโตลดลงเหลือ 3.3% จากเดิมที่คาดไว้ 4.4% ก่อนที่จะฟื้นตัวได้ในปีหน้าในระดับ 4.5% แต่ก็เป็นคาดการณ์ที่ลดลงจากเดิมที่คาดไว้ 5.1% กดดันจากทั้งนโยบาย Zero-COVID และวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์
สำหรับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ อีกสองเศรษฐกิจขนาดใหญ่ซึ่งค่อนข้างสัมพันธ์กับห่วงโซ่อุปทานของโลกและจีน มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงจากอุปสงค์ที่หดตัวและปัญหาห่วงโซ่อุปทาน
อย่างไรก็ดี IMF มองว่าเศรษฐกิจของบางประเทศมีแนวโน้มจะฟื้นตัวได้หลังจากที่ปัญหาโควิดเริ่มคลี่คลาย นำไปสู่การเดินทางที่เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ
“ภาคการผลิตที่ยังแข็งแกร่งและการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว สนับสนุนให้ประเทศอย่างมาเลเซีย ไทย และประเทศที่เป็นเกาะ ค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมาได้”
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP