ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย ‘ทองหล่อ’ ยังครองตำแหน่ง Prime Location ที่นักลงทุนต้องการครอบครองและผู้อยู่อาศัยต้องการเป็นเจ้าของ เพราะแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบครบวงจร ทั้งร้านอาหารระดับลักชัวรี โรงแรมระดับ 5 ดาว ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาลชั้นนำ โรงเรียนนานาชาติ ไปจนถึงศูนย์การค้าชั้นนำอย่าง The Emsphere ที่กำลังจะมาถึงในอนาคต ส่งผลให้มูลค่าของทำเล (Capital Gain) พุ่งสูงขึ้นในทุกปี และเพิ่มความเนื้อหอมให้กับที่อยู่อาศัยย่านนี้อยู่เสมอ
ยิ่งถ้าโลเคชันที่ว่าอยู่ริมถนนสุขุมวิท ห่างจาก BTS ทองหล่อเพียง 250 เมตร และรายล้อมไปด้วยโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว คงพอเดาได้ทันทีว่าโครงการที่ปักเสาเข็มตรงนี้จะเป็นที่หมายตาขนาดไหน
ทำให้ ‘HYDE Heritage Thonglor’ คอนโดมิเนียมหรูระดับซูเปอร์ลักชัวรี สูง 45 ชั้น จำนวน 311 ยูนิต บนพื้นที่กว่า 2.2 ไร่ โครงการเรือธงของ แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ ที่ร่วมลงทุนกับพาร์ตเนอร์ระดับโลกอย่าง บริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น และ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ถูกยกให้เป็น Talk of the Town ทันทีที่เปิดตัวโครงการ
‘เกินความคาดหมาย’ คือเสียงตอบรับที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่ HYDE Heritage Thonglor เปิดพื้นที่ให้ผู้ที่สนใจเข้าชม อัญชลี เลิศสุวรรณรัชต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายขายและการตลาด บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บอกว่า จนถึงตอนนี้ HYDE Heritage Thonglor ทำยอดขายไปแล้วกว่า 60%
แน่นอนว่า ‘ทำเล’ คือจุดขาย แค่พูดชื่อ ‘ทองหล่อ’ นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ รวมถึงคนที่ต้องการไลฟ์สไตล์เหนือระดับก็พร้อมที่จะเซ็นสัญญาจองทันที แต่ HYDE Heritage Thonglor มีจุดเด่นมากกว่าแค่ทำเลหรือโลเคชันที่รายล้อมไปด้วยโรงแรมระดับ 5 ดาว อย่าง InterContinental, Bangkok Marriott Hotel Sukhumvit และ Ascott Thonglor Bangkok แต่เป็นเบื้องหลังการสร้างคอนโดมิเนียมหรูระดับซูเปอร์ลักชัวรีที่มอบไลฟ์สไตล์สุดเอ็กซ์คลูซีฟต่างหากที่ทำให้ HYDE Heritage Thonglor เป็นโครงการที่ดีที่สุดบนถนนสุขุมวิท
จุดเริ่มต้นของการออกแบบโครงการและบริการระดับโรงแรม 5 ดาว
สิ่งที่ทำให้ HYDE Heritage Thonglor เป็นโครงการที่ดีที่สุดบนถนนสุขุมวิท เพราะได้พาร์ตเนอร์ระดับโลกอย่าง บริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ Top 3 ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอยู่เบื้องหลังไอคอนิกระดับประเทศมากมาย เช่น สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์, ตึก Taipei 101 ไต้หวัน, หรือล่าสุด W350 Tower The Skyscraper Center โครงการที่ทำด้วยไม้สูงที่สุดในโลกถึง 70 ชั้น รวมไปถึงอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรีในประเทศจีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย มาร่วมพัฒนาด้วยการนำเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่นมาใช้ในโครงการ พร้อมการควบคุมมาตรฐานการก่อสร้างให้อยู่ในระดับสากล อีกทั้งความเชี่ยวชาญของ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) พาร์ตเนอร์ที่มีประสบการณ์ด้านการบริหารโครงการบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ เข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่ง
“แกรนด์ แอสเสท เชี่ยวชาญเรื่องการบริหารโรงแรมระดับไฮเอนด์ รวมถึงความเชี่ยวชาญด้าน Hospitality อยู่แล้ว ยิ่งได้ทำงานร่วมกับ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านอสังหา และพาร์ตเนอร์ระดับโลกอย่าง ซูมิโตโม จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้อยู่อาศัยและนักลงทุนอย่างแน่นอน ทั้งเรื่องมาตรฐานการออกแบบ ไปจนถึง Quality Management ทั้งหมดก็เป็นทีมงานเดียวกันกับที่คุมงาน Taiwan 101” อัญชลีกล่าว
นอกจากพาร์ตเนอร์หลักที่กล่าวไป ยังได้ Compass Hospitality ผู้ให้บริการแบบครบวงจรสำหรับธุรกิจการให้บริการทุกรูปแบบ บริหารจัดการโรงแรมอย่างมืออาชีพ มาร่วมออกแบบเซอร์วิสระดับโลกเพื่อมอบบริการเหนือระดับแบบครบวงจรให้แก่ผู้พักอาศัย
“เรามี Concierge Services ทําหน้าที่ให้บริการช่วยเหลือประสานงานในเรื่องต่างๆ ตามความต้องการของลูกบ้าน เช่น Organize Grocery Delivery, Food Delivery Coordination, Meet and Greet Service, Spa Salon and Manicure Booking Service เรียกได้ว่าทุกเรื่องที่ลูกบ้านต้องการ รวมไปถึงบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ On-Demand Service by Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวในเครือของเรา โดยบริการที่ได้รับนั้นจะมีความพิเศษกว่าโครงการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Private Chef มีเชฟมิชลินมาปรุงอาหารถึงที่ เราสามารถจัดเชฟจากโรงแรมในเครือมาให้บริการ จะจัดเป็น Private Dinner หรือ Exclusive Private Party ก็ได้ รวมไปถึงบริการอื่นๆ เช่น Private Spa พร้อม Therapist ส่วนตัว หรือ Personal Fitness Trainer and Yoga Instructor มีเทรนเนอร์ส่วนตัวจะมาช่วยทำให้เป้าหมายการออกกำลังกายของคุณเป็นเรื่องง่าย”
มากไปกว่านั้น HYDE Heritage Thonglor ยังให้ความสำคัญกับ Smart Living ที่ต้องมีมากกว่าความสะดวกสบาย แต่ต้องครอบคลุมไปถึงความปลอดภัย จึงจับมือกับ True Digital นำนวัตกรรมอัจฉริยะ True Smart Living มาใช้กับทุกส่วนภายในโครงการ ครอบคลุม 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่
Smart Building เช่น เข้า-ออกโครงการให้สะดวกและปลอดภัยด้วย Long Range Barrier Gate Bluetooth Easy Pass และ Invitation QR Code หรือ Smart Elevator ลิฟต์ล็อกชั้น ผู้พักอาศัยต้องแตะบัตรก่อนจึงจะขึ้นไปยังชั้นที่พักอาศัยของตนได้ Smart Home เป็นระบบอัจฉริยะภายในห้องพัก ได้แก่ Google Nest, IR Remote Control, Smart Switch, Motion Sensor และ Gateway ควบคุมการเปิด-ปิดไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องด้วยการสั่งงานด้วยเสียงแบบแยกแต่ละส่วนอย่างอิสระ และ Smart Management เช่น Facility Management ระบบจัดการการใช้งานส่วนกลาง ตรวจสอบและเช็กคิวการจองโดยใช้ Facility QR Code ผ่านแอปพลิเคชัน
“True Digital ตั้งใจที่จะทำให้ HYDE Heritage Thonglor เป็นโปรเจกต์ต้นแบบ จึงนำ Digital Solution เข้ามาสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยในรูปแบบ Smart Living ทั้งเรื่องความสะดวกสบายและความปลอดภัยเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส สามารถจองผ่านจอดิจิทัลหน้าห้องหรือจะจองผ่านแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาสำหรับโครงการโดยเฉพาะ รวมถึงระบบ Home Automation ที่ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าและระบบไฟภายในห้อง ระบบจ่ายเงินค่าส่วนกลาง ค่าน้ำ ทุกอย่างสามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านสมาร์ทโฟน ในอนาคตกำลังพัฒนาระบบการจองช่างเพื่อเข้ามาให้บริการงานซ่อมทุกรูปแบบ หรือแม้แต่การจองคิวหมอประจำบ้านที่เราจะจัดเตรียมไว้ให้ลูกบ้านด้วย”
Facilities 28 ฟังก์ชัน ครอบคลุมพื้นที่ 8 ชั้น กว่า 2,000 ตารางเมตร ซึ่งครบครันทุกความต้องการของผู้พักอาศัยและยังเป็นไฮไลต์ของที่นี่ เช่น Private Storage ห้องเก็บสัมภาระส่วนตัว อำนวยความสะดวกให้ผู้พักอาศัยไม่จำเป็นต้องพกพาสัมภาระกลับห้อง เช่น กระเป๋ากอล์ฟ กระเป๋าเดินทาง อุปกรณ์กีฬา ในส่วน Glass House Lounge เรือนกระจกใสดีไซน์หรูหราที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมที่สวยงามของนครนิวยอร์ก เชื่อมต่อกับ HYDE Garden ทำให้สามารถใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว Library และ Co-working Space ให้ผู้พักอาศัยสามารถมาทำงาน เรียน ประชุม ได้ตามต้องการ
ซาวน่าขนาดใหญ่แยกสัดส่วนชาย-หญิง Sky Pool และ Kids Pool สระว่ายน้ำลอยฟ้าแบบ Infinity View of Edge ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไปจนถึง Grand Gym, Yoga Room และ Experiential Golf Simulator
“ฟังก์ชันที่เชื่อว่าไม่มีที่ไหนมีมากเท่าเราแน่นอนคือ EV Charging Station ซึ่งเรามีมากถึง 32 เครื่อง” อัญชลีเล่าว่า HYDE Heritage Thonglor ทำงานร่วมกับ Sharge บริษัทชั้นนำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นโครงการแรกที่สามารถรองรับ EV Charger ได้มากกว่า 32 จุด ตอกย้ำความเป็นโครงการอสังหาแห่งอนาคต
สถาปัตยกรรมระดับไอคอนิกภายใต้คอนเซปต์ ‘Timeless Elegance’ สวย หรู เหนือกาลเวลา
HYDE Heritage Thonglor ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Timeless Elegance’ สวย หรู เหนือกาลเวลา ได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมที่มีความคลาสสิกผสานความโมเดิร์น เลือกวัสดุที่ใช้ระดับพรีเมียมทั้งภายในและภายนอก สำหรับการออกแบบภายในดึงสไตล์แมนฮัตตันในนิวยอร์กมารังสรรค์โดยสถาปนิกและดีไซเนอร์ชื่อดัง เช่น I’LL Design, That’s ITH และ SHMA ที่สำคัญโลเคชันซึ่งตั้งอยู่ตรงข้าม UNESCO จึงตั้งใจที่จะให้ HYDE Heritage Thonglor เป็นไอคอนิกแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ
“ปัจจุบัน คนเมืองต้องการบ้านที่มีสเปซมากขึ้น เห็นความสำคัญของการมีพื้นที่ส่วนตัวในการทำกิจกรรม และมองหาฟังก์ชั่นของบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต รวมไปถึงให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวมากขึ้น โครงการ HYDE Heritage จึงมุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนาโครงการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ ไม่ว่าจะพื้นที่ส่วนกลางที่เราจัดไว้ให้ลูกบ้านกว่า 2,000 ตร.ม. รวม 8 ชั้น 28 ฟังก์ชั่น เพื่อรองรับทุกความต้องการของคนเมือง, การออกแบบบ้านทั้ง 311 ยูนิตให้มีครบทุกฟังก์ชั่นที่สามารถเพิ่มประสบการณ์การอยู่อาศัย โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาเป็นตัวกลางในการเพิ่มความสะดวกสบาย” อัญชลีกล่าว
ความพิเศษสุดท้ายที่ต้องพูดถึงคือ Tenancy Management Services จาก Compass Hospitality ที่เข้ามาช่วยดูแลเรื่องการลงทุนปล่อยเช่าห้องของเจ้าของห้องชุดอย่างครบวงจร
“ผู้ซื้อหลายท่านมองเรื่องการลงทุน ซื้อเพื่อปล่อยเช่า ก็คุยกับทาง Compass ว่าเขามีเซอร์วิสอะไรที่จะซัพพอร์ตได้บ้าง อย่างกลุ่มลูกค้าต่างชาติหรือนักธุรกิจที่ซื้อห้องเพื่อปล่อยเช่า เขามีความกังวลเรื่องอะไร ไม่ว่าจะเรื่องการทำสัญญา เรื่องกฎหมายการเช่าต่างๆ หรือพาเดินชมห้อง ตรวจรับห้อง ดูแลผู้เช่า รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ทาง Tenancy Management Services ดูแลให้ทั้งหมด ไม่ใช่แค่ตอนทำเรื่องเช่าเท่านั้นแต่ยังดูแลตลอดสัญญาเช่า ผู้เช่าสามารถติดต่อผ่านทีม Tenancy Management และทีมจะประสานงานระหว่างผู้เช่ากับเจ้าของห้องให้ เหมือนมีผู้ดูแลส่วนตัวจริงๆ”
ฟังดูเหมือน ‘HYDE Heritage Thonglor’ ได้สร้างวิถีชีวิตคนเมืองระดับซูเปอร์ลักชัวรีแบบที่ใครๆ ก็ใฝ่ฝัน คำถามคือทั้งหมดนี้จะทำให้ที่นี่กลายเป็นต้นแบบของที่อยู่อาศัยระดับ Ultimate Class หรือไม่?
“HYDE Heritage เราออกแบบฟังก์ชันและพัฒนาบริการต่างๆ เพื่อตอบรับพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยในช่วงเปลี่ยนผ่านจากวิกฤตโควิดพอดี อย่างตอนนี้การช้อปปิ้งออนไลน์ การสั่งเดลิเวอรี หรือ Work from Home กลายเป็นวิถีชีวิตแบบใหม่ ฟังก์ชันและบริการต่างๆ ที่เรามีก็พร้อมจะรองรับตรงนี้ แต่ถ้าถามว่าเราจะเป็นต้นแบบของการอยู่อาศัยระดับลักชัวรีเลยหรือไม่ มองว่าขึ้นอยู่กับแนวทางของแต่ละดีเวลลอปเปอร์ว่าโฟกัสเรื่องอะไร อย่าง HYDE Heritage เราโฟกัสสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกบ้านในทุกมิติ มากไปกว่านั้น เราต้องการให้ HYDE Heritage Thonglor เป็นที่จดจำ เวลาคนพูดถึงเราจะนึกถึงมาตรฐานที่เหนือความคาดหมาย ในอนาคตหาก แกรนด์ แอสเสท มีโปรเจกต์ใหม่ ทุกคนจะเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราทำต้องเหนือความคาดหมายแน่นอน” อัญชลีกล่าวทิ้งท้าย
