แฟนหนังไซไฟคงรู้จัก ‘Jarvis (จาร์วิส)’ AI อัจฉริยะผู้ช่วยมือดีของ โทนี สตาร์ก ที่คอยช่วยเหลือเขาทุกอย่างตั้งแต่เรื่องหนักๆ อย่างวิเคราะห์คู่ต่อสู้ วิเคราะห์วัตถุตรงหน้าว่าเป็นอัตรายหรือไม่ ไปจนถึงเรื่องทั่วไป เช่น วัดค่าเลือด ค่าออกซิเจน บันทึกระยะเวลาการนอน ใครที่ดูเรื่องนี้ร้อยละ 99.9 ต้องคิดเหมือนกันว่า คงจะดีถ้าเรามีผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Jarvis  

อันที่จริง AI อยู่รอบตัวเรามานานและค่อยๆ เขยิบเข้าใกล้ตัวจนแทบจะหลอมรวมไปกับไลฟ์สไตล์มากขึ้นเรื่อยๆ อยู่ในแก็ดเจ็ตต่างๆ รอบตัว ที่เห็นได้ชัดคือ ‘สมาร์ทวอทช์’ จากเดิมที่นาฬิกามีไว้เพื่อดูเวลา ก็ขยับความสามารถมาเป็นนาฬิกาที่รับโทรศัพท์ ส่งข้อความได้ ตอนนี้สมาร์ทวอทช์ต้องเพิ่มฟังก์ชันและอัปเกรดความสมาร์ทเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ โดยเฉพาะยุคแห่งการดูแลสุขภาพเป็นเรื่องใหญ่  หลายแบรนด์เลยขยับตัวตาม ปรับรูปแบบการทำงานของสมาร์ทวอทช์ให้เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัว ดูแลสุขภาพรอบด้าน อย่าง Huawei Watch 3 Series ทั้ง Huawei Watch 3 และ Huawei Watch 3 Pro ที่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ จนแทบจะไม่ใช่สมาร์ทวอทช์ธรรมดาๆ แต่แทบจะเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะคนหนึ่ง

7 ฟีเจอร์ตรวจวัดค่าสำคัญของร่างกาย ‘สุขภาพดีหรือไม่’ Huawei Watch 3 Series รู้!
ใน Iron Man ภาค 3 ฉากที่ ‘Jarvis’ AI อัจฉริยะของ โทนี สตาร์ก รายงานว่า สภาพร่างกายเขาปกติดี แต่อาการป่วยที่เขารู้สึกนั้นน่าจะมาจากความเครียด ไม่ใช่แค่ฉากในหนังไซไฟที่เราได้แค่ดูอีกต่อไป เมื่อ Huawei Watch 3 Series มาพร้อมฟีเจอร์ฉลาดล้ำวัดได้ตั้งแต่ค่าสำคัญต่างๆ ที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป เช่น การทำงาน การออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร การสัญจร หรือแม้แต่ระดับความเครียด ประมวลและแสดงผลบนแอปพลิเคชัน Huawei Health ที่อยู่ในสมาร์ทโฟนของ Huawei (สามารถดาวน์โหลดได้ตามปกติสำหรับระบบปฏิบัติการอื่นๆ)  

แม้ว่าข้อมูลการตรวจวัดที่ได้จาก Huawei Watch 3 Series ไม่ได้มีเป้าหมายที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อวินิจฉัยรักษา และป้องกันโรคหรือภาวะใดๆ แต่ค่าสำคัญที่ได้ก็เพื่อให้ผู้ใช้งานรับรู้สภาพร่างกายของตนเองและดูแลตนเองได้อย่างถูกวิธี และนี่คือ 7 ฟีเจอร์ที่ Huawei Watch 3 Series รู้ และคุณเองก็ควรต้องรู้  

1. ติดตามกิจกรรมที่ทำระหว่างวัน: เริ่มจากฟีเจอร์พื้นฐานตามติดกิจวัตรประจำวัน เช่น เดินกี่ก้าว ลุกยืนเป็นเวลานานเท่าไร เผาผลาญแคลอรีเท่าไร โดยสมาร์ทวอทช์จะใช้เซ็นเซอร์เร่งความเร็ว (Acceleration Sensor) และเซ็นเซอร์ไจโรสโคป (Gyro Sensor) คอยตรวจจับการเคลื่อนไหวและการออกกำลังกายได้โดยอัตโนมัติ คนที่กำลังไดเอตน่าจะชอบฟีเจอร์นี้ เพราะสามารถติดตามผลงานการลดปริมาณแคลอรีได้
   
   2. ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย: สามารถเช็กอุณหภูมิร่างกายและบอกค่าเป็นองศาฟาเรนไฮต์และองศาเซลเซียส เพียงเข้าไปที่ Skin Temperature แล้วกด Measure นาฬิกาจะวัดอุณหภูมิจากผิวข้อมือของเราทันที อย่าลืมว่านี่เป็นเพียงฟีเจอร์สำหรับตรวจเช็กร่างกายเบื้องต้น หากจะอิงผลเพื่อการรักษาทางการแพทย์คงต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์ร่วมด้วย
   
   3. ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างออกกำลังกาย: สายคาร์ดิโอน่าจะชอบฟีเจอร์นี้ เพราะการออกกำลังกาย Cardioactive จะทำให้หัวใจเต้นเร็ว ซึ่งหากอัตราการเต้นของหัวใจต่ำเกินไปการออกกำลังกายก็อาจไม่ได้ผลเท่าที่คิดไว้ แต่ถ้าหัวใจเต็วเร็วเกินไปก็อาจเป็นอันตรายได้ จึงจำเป็นต้องรู้อัตราการเต้นของหัวใจระหว่างออกกำลังกายตลอดเวลา ถ้าอัตราการเต็นของหัวใจเกิน 100 ครั้งต่อนาที ถึงเวลาต้องหยุดพักแล้ว
   
   4. ตรวจวัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (SpO2): ด้วยเทคโนโลยี Huawei TruSeen™ 4.5+ จึงสามารถติดตามค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดได้ตลอด 24 ชั่วโมง แค่กด Measure เมื่อปัดหน้าปัดไปทางขวาจนถึงเมนู SpO2 ซึ่งค่าปกติควรอยู่ที่ 95% ขึ้นไป อย่างไรก็ตามการวัดนี้ไม่ได้เป็นการวัดค่าที่แน่นอน ไม่สามารถใช้ในทางการแพทย์ได้ แต่เพื่อให้เราทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าร่างกายปกติหรือมีความเสี่ยงต่อโรคใดๆ หรือไม่ จะได้เข้ารับการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์ได้ทันท่วงที
   
   5. ตรวจวัดความเครียด: เทคโนโลยี Huawei TruRelax™ สามารถวัดระดับความเครียด จัดเก็บสถิติอย่างเป็นระบบ รวมถึงมีฟีเจอร์แนะนำวิธีฝึกกำหนดลมหายใจเพื่อคลายความเครียดและควบคุมอารมณ์ได้ในเวลาที่เหมาะสม
   
   6. ติดตามคุณภาพการนอนหลับ: ปริมาณการนอนกับคุณภาพการนอนแตกต่างกัน เทคโนโลยี Huawei TruSleep™ จะเก็บข้อมูลการนอนของคุณว่าหลับไปนานแค่ไหน และคุณภาพการนอนหลับอยู่ในระดับ Deep Sleep และระดับต่างๆ เป็นเวลานานเท่าใด แล้วซิงก์ข้อมูลไปเก็บไว้บน Huawei Health แสดงเป็นกราฟที่อ่านง่าย และเห็นพัฒนาการชัดเจนในแต่ละวัน สัปดาห์ หรือเดือน
   
   7. ตรวจจับการหกล้มอัตโนมัติ นี่เป็นฟีเจอร์ที่อาจช่วยให้คุณพ้นจากความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย เมื่อไรก็ตามที่นาฬิกาตรวจพบการหกล้มของผู้ใช้และปราศจากการตอบสนองนาน 1 นาที นาฬิกาจะมีข้อความถามว่าให้ขอความช่วยเหลือหรือไม่ หากต้องการให้กดปุ่มขึ้นห้าครั้งติดต่อกันเพื่อเรียก SOS ตามหมายเลขติดต่อฉุกเฉินตามที่ตั้งค่าไว้ โดยจะตรวจจับการหกล้มอัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง เหมาะกับคนที่ชอบทำกิจกรรมแอ็กทีฟ หรือผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลใกล้ชิดเป็นพิเศษ แต่ถ้าจะใช้งานต้องตั้งค่าผ่านแอปพลิเคชัน Huawei Health เท่านั้น 

ช่วยดูแลความฟิตด้วยโหมดออกกำลังกายกว่า 100 โหมด เหมือนมีเทรนเนอร์ส่วนตัว
Huawei Watch 3 Series ยังพัฒนามาเพื่อเอาใจสายสุขภาพแบบครบลูป ด้วยโหมดการออกกำลังกายให้เลือกกว่า 100 โหมด มีโหมดโปรถึง 19 โหมดทั้งในร่มและกลางแจ้ง และยังปรับแต่งโหมดได้เองกว่า 85 โหมดกีฬา สามารถเข้าโหมดออกกำลังกายให้แบบอัตโนมัติกว่า 6 ชนิดกีฬา ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายพร้อมผ่อนคลายอย่างโยคะ สนุกสนานอย่างแบดมินตัน แข่งกับเวลาอย่างการว่ายน้ำ หรือสายเอ็กซ์ตรีมที่ชอบกีฬาผาดโผน เช่น ปีนเขา ก็มีแอปฯ ที่ช่วยตรวจจับสภาพความกดอากาศ และวัดความสูงให้ด้วย ทั้งหมดนี้สามารถเก็บข้อมูลและประสิทธิภาพการเล่นกีฬาของตัวเองเพื่อดูพัฒนาการหรือฝึกช้อมเทคนิคต่างๆ

Huawei Watch 3 Series ยังรองรับการใช้งาน eSIM โทรเข้า-ออกผ่านสมาร์ทวอทช์ทันที รวมถึงดาวน์โหลดและจัดการแอปพลิเคชันบทสมาร์ทวอทช์ด้วย Huawei AppGallery ที่ติดตั้งมาในตัวเครื่อง คราวนี้จะออกไปวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือออกกำลังกาย ก็ไม่จำเป็นต้องพกสมาร์ทโฟนอีกต่อไป มีแค่ Huawei Watch 3 Series ก็ช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างสะดวก คล่องแคล่ว ไม่พลาดทุกการติดต่อ (หมายเหตุ โปรดตรวจสอบเครือข่ายผู้ให้บริการที่จุดประชาสัมพันธ์ ณ ร้านค้า Huawei Experience Store และตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ สำหรับเครือข่าย TrueMove H พร้อมให้บริการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 สำหรับเครือข่าย AIS พร้อมให้บริการตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564)

Huawei Watch 3 Series วางจำหน่าย 2 รุ่น ได้แก่ Huawei Watch 3 มีสายให้เลือก 2 แบบ สายสปอร์ตที่ชอบความเรียบ สวย เหมาะกับ Fluoroelastomer ราคา 12,990 บาท ส่วนใครที่อยากได้ลุคเรียบหรู สมาร์ท หน้าปัดสเตนเลสสตีลจับคู่กับสายหนัง Classic Edition ราคา 14,490 บาท Huawei Watch 3 มาพร้อมแบตเตอรี่ 450 mAh จึงใช้งานต่อเนื่องในโหมด Smart ได้นาน 3 วัน

ในขณะที่ Huawei Watch 3 Pro ตอบโจทย์คนที่รักความหรูหรา มาพร้อมกรอบไทเทเนียม สายหนัง ตัวเรือนด้านหลังทำด้วยเซรามิก ราคา 21,990 บาท ใช้งานต่อเนื่องในโหมด Smart นาน 5 วัน ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 790 mAh

พรีออร์เดอร์ Huawei Watch 3 Series ทั้ง 2 รุ่นวันนี้ ฟรี Huawei Steel Strap* และบริการ Huawei Music VIP นาน 3 เดือน รวมมูลค่า 10,377 บาท เมื่อซื้อสินค้าที่ Huawei Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้ถึง 22 กรกฎาคม 2564 หรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ Huawei Online Store, Shopee, Lazada และ JD Central