ดูเหมือนว่าความสำเร็จของ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ผู้นำด้านธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เจ้าของแบรนด์เครื่องดื่ม ‘เป๊ปซี่’ และมันฝรั่งทอดกรอบ ‘เลย์’ ที่สามารถคว้ารางวัลนายจ้างดีเด่นจาก Top Employers Institute สถาบันจัดอันดับนายจ้างที่มีชื่อเสียงระดับโลก ติดต่อกัน 4 ปีซ้อน ทำให้หลายองค์กรอยากรู้ว่า เคล็ดลับความสำเร็จในการบริหารทรัพยากรบุคคลที่ดีขององค์กรระดับบิ๊กไซส์คืออะไร
ผลลัพธ์ที่ดีต้องเริ่มที่เมล็ดพันธุ์ที่ดีและรากฐานที่มั่นคง
การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ดีด้วยการคัดสรรบุคลากรที่มีแนวคิดและทักษะที่ตอบโจทย์ทิศทางขององค์กร แม้จะเป็นหลักคิดที่หลายองค์กรนำไปใช้ แต่เมื่อลงลึกไปถึงกลยุทธ์ในแต่ละองค์กร ก็มีรายละเอียดที่ต่างกัน
อย่างที่เป๊ปซี่โค นอกจากจะคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ดีแล้ว องค์กรเองต้องวางรากฐานที่มั่นคงตั้งแต่ต้น ซึ่งรากฐานที่ว่าก็คือพันธกิจ (Mission) ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างสำหรับพนักงานและองค์กร กลายเป็น 1 ใน 4 กลยุทธ์ที่ทำให้เป๊ปซี่โค ประเทศไทย คว้ารางวัลนายจ้างดีเด่นต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน และถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือ ‘Iconic Brands and Innovators’ หรือการนำเสนอถึงความท้าทายในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกระดับ ด้วยการนำเสนอนวัตกรรมในการคิดค้น การใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และกระบวนการผลิตที่ทันสมัย เพื่อที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์
กลยุทธ์ต่อมาคือ ‘Meaningful Opportunities’ ที่ผ่านมาเป๊ปซี่โคได้รับการยอมรับในเรื่องการพัฒนาด้านต่างๆ ผ่านการออกแบบโปรแกรมสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง เพื่อให้พนักงานทุกระดับปลดล็อกศักยภาพของตัวเอง
อาทิ ‘Human-Centric Leadership’ โปรแกรมพัฒนาผู้นำระดับโลกที่มุ่งเน้นที่จะผสานรูปแบบการพัฒนาผู้นำระดับโลกเข้ากับแนวคิดคืนสู่ธรรมชาติ เพื่อให้ความสำคัญกับความสามารถทางธุรกิจและการใส่ใจในเรื่องของคนเป็นอันดับแรก หรือ ‘Talent Glasshouse’ โปรแกรมที่ช่วยให้พนักงานได้เรียนรู้การทำงานของผู้บริหารระดับสูงอย่างใกล้ชิด แลกเปลี่ยนประสบการณ์และแรงบันดาลใจในการทำงาน รวมทั้งเปิดโอกาสให้กับพนักงานภายในองค์กรหมุนเวียนตำแหน่งงาน หรือโยกย้ายไปทำงานที่สาขาอื่นๆ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชนผ่านโปรแกรม Internship และ Campus Visit ที่ส่งเสริมทักษะและประสบการณ์ให้นักศึกษา
อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญคือ ‘Inclusive Community’ หลักการที่ทำให้เป๊ปซี่โคมีทีมงานที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม อายุ และเพศสภาพ และนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ โดยบริษัทเปิดกว้างและสนับสนุนการจ้างงานอย่างเท่าเทียมทั่วโลก รวมไปถึงการจัดกิจกรรมให้กับพนักงาน สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อทุกความหลากหลาย และสวัสดิการที่ครบครัน
อาทิ กิจกรรม Woman Coaching ให้คำปรึกษาและคำแนะนำสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ หรือการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานร่วมกันระหว่างเจเนอเรชัน การปฏิบัติต่อเพศทางเลือกในที่ทำงาน การแต่งงานของคู่รักเพศหลากหลาย โอกาสเติบโตสำหรับผู้หญิงในฐานะผู้นำ ไปจนถึงพนักงานที่มีครอบครัวที่ต้องรักษาสมดุลระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัว โดยมีนโยบายส่งเสริมให้พนักงานมีความยืดหยุ่นในการทำงานมากยิ่งขึ้น โดยพนักงานสามารถเลือกที่จะเข้าไปทำงานที่สำนักงานอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ ส่วนที่เหลือสามารถมีความยืดหยุ่นในการทำงานจากบ้าน (Work From Home) หรือที่อื่นๆ ได้
และกลยุทธ์สุดท้ายคือ ‘Positive Impact’ อาจเรียกว่าเป็นวิสัยทัศน์ของ ‘เป๊ปซี่โค’ ก็ไม่ผิด ที่ทำให้วันนี้องค์กรสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกในธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม ผ่าน pep+ (PepsiCo Positive) ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์อย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ในทุกส่วนของธุรกิจ กลยุทธ์นี้ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่การทำกำไรอย่างเดียว แต่ยังนำเรื่องความยั่งยืนและคนเข้าไปรวมอยู่ในยุทธศาสตร์ของธุรกิจ
โดยจะผลักดันภายใต้ 3 โครงการหลักที่จะเกิดขึ้นภายในปี 2573 ได้แก่
- การเกษตรเชิงบวก (Positive Agriculture) โดยทำงานร่วมกับเกษตรกรในทุกส่วนภายใต้ระบบพันธสัญญา เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร
- ห่วงโซ่คุณค่าเชิงบวก (Positive Value Chain) เป้าหมายหลักคือก้าวสู่ Net Zero Carbon Emission ภายในปี 2583 และ Net Positive Water การนำน้ำไปใช้ประโยชน์ให้มากที่สุดและไม่มีเหลือทิ้ง ภายในปี 2573 รวมไปถึงการตั้งเป้าหมายในการใช้บรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ลดการใช้พลาสติกใหม่ และเปลี่ยนมาใช้วัสดุรีไซเคิลในบรรจุภัณฑ์พลาสติกมากขึ้น
- ทางเลือกเชิงบวก (Positive Choices) ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพให้แก่ผู้บริโภคมากขึ้น ลดองค์ประกอบที่ไม่จำเป็นต่อสุขภาพ เช่น ไขมัน โซเดียม และน้ำตาล แต่เพิ่มสารอาหารต่างๆ เข้าไปแทน
ทั้งนี้ ทุกกลยุทธ์ในการบริหารบุคลากรของเป๊ปซี่โค ล้วนสอดแทรกรายละเอียดเล็กๆ ที่สร้างความสุขให้กับพนักงาน เมื่อพนักงานเกิดความสุข ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่อยากจะส่งต่อความสุขให้กับผู้อื่นเช่นกัน ซึ่งสอดคล้องไปกับเป้าหมายหลักขององค์กรที่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลง เพื่อส่งมอบความสุขไปสู่ทุกๆ คนบนโลกใบนี้อย่างแท้จริง
และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเป๊ปซี่โคจึงคู่ควรกับรางวัลนายจ้างดีเด่น 4 ปีซ้อน จนกลายเป็นที่ยอมรับในวงการนายจ้างทั่วโลก สำหรับเป๊ปซี่โค รางวัลที่ได้รับไม่เพียงแสดงถึงการยอมรับจากสถาบันชั้นนำระดับโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันว่าองค์กรให้ความสำคัญและใส่ใจในการพัฒนาพนักงานให้พร้อมเติบโตไปกับองค์กรอย่างแท้จริง
ปีหน้าเป๊ปซี่โคจะคว้ารางวัลเป็นปีที่ 5 ได้หรือไม่ต้องติดตาม แต่ที่แน่ๆ ผู้บริโภคอย่างเราจะได้ลิ้มลองสินค้าใหม่ๆ ที่ดีและมีคุณภาพจากแบรนด์นี้อย่างแน่นอน เพราะเขาประกาศแล้วว่า
“เป๊ปซี่โคจะเติบโตขึ้น และเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมที่ท้าทายนี้”