จักรวาลที่กว้างใหญ่ไพศาล จะมีแสงจากเดือนและดาวประดับระยิบระยับไปทั่วท้องนภา แต่จะมีดวงดาราเพียงหนึ่งที่ส่องแสงประกายจนดูโดดเด่นเป็นที่น่าจับตา ซึ่งดาวดวงนั้นเองเป็นตำแหน่งที่สาวงามทั้ง 30 คน อยากจะอยู่ตรงนั้นในวันที่โอกาสมาถึง ซึ่งทั้งหมดมีคุณสมบัติและความพร้อม เพียงแต่ว่าในค่ำคืนนั้น ใครจะเป็นผู้ที่ ‘เหมาะสม’ มากที่สุด
อมรา อัศวนนท์
สาวไทยคนแรกบนเวที Miss Universe 1954
Miss Universe หนึ่งในการประกวดที่เก่าแก่ของวงการนางงาม ทั้งยังได้รับความนิยมมาโดยตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งประเทศไทยเริ่มส่งนางงามเข้าประกวดในเวทีครั้งแรกในปี 1954 โดย ‘อมรา อัศวนนท์’ รองอันดับสาม นางสาวไทย ปีพุทธศักราช 2496 เป็นสาวไทยคนแรกที่เข้าร่วมการประกวด ถือเป็นผู้เปิดตำนานสายสะพาย THAILAND บนเวทีแห่งจักรวาล ซึ่งเธอเดินทางไปประกวดด้วยทุนทรัพย์ของตัวเอง
ธเนษฐ ลักษณะวิลาศ
หนึ่งในผู้ก่อตั้งเพจ t-pageant.com และกลุ่ม T-Pageant Club FB
ตี๋-ธเนษฐ ลักษณะวิลาศ ผู้ชื่นชอบและติดตามการประกวดนางงามตั้งแต่วัยเยาว์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งเพจ t-pageant.com และกลุ่มเฟซบุ๊ก T-Pageant Club FB และผู้เชี่ยวชาญด้านการประกวดความงาม ได้เล่าเรื่องราวการส่งตัวแทนผู้หญิงไทยไปประกวด Miss Universe ให้เราฟังว่า ตัวแทนสาวไทยในยุคแรกนั้นคือหญิงสาวที่ได้รับตำแหน่ง ‘นางสาวไทย’ ซึ่งจัดการประกวดโดยสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
สำหรับสาวงามตัวแทนประเทศไทยในยุคนี้จะมีบุคลิกที่ดูสง่า สวยงาม และอ่อนหวาน หากจะเปรียบก็เปรียบได้กับดอกไม้ของชาติ ที่สามารถสื่อสารความเป็นไทยให้ทั่วโลกได้ชื่นชมอย่างภาคภูมิ ทั้งรูปร่าง หน้าตา ความสามารถพิเศษ และการแต่งกาย โดยเฉพาะชุดประจำชาติไทยที่มีการออกแบบและตัดเย็บอย่างประณีต ซึ่งขณะนั้น ชาติเชื้อ กรรณสูต นายกสมาคมฯ ปี 1984-1999 และผู้บริหารช่อง 7 เป็นผู้ได้รับลิขสิทธิ์ในการส่งตัวแทนสาวไทยไปประกวด จาก Miss Universe อย่างเป็นทางการในขณะนั้น
ชุดประจำชาติไทยที่คว้ารางวัลในการประกวด Miss Universe
ต่อมาทางกองประกวดนางสาวไทย ได้ย้ายการออกอากาศจากช่อง 7 ไปช่อง iTV ทำให้ แดง-สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ผู้ถือลิขสิทธิ์ Miss Universe ในประเทศไทยต่อจากพี่ชาย ถือโอกาสเริ่มต้นจัดการประกวด Miss Thailand Universe ขึ้นในปี 2000-2011 ซึ่งตัวแทนหญิงไทยที่ไปประกวดในยุคนี้จะพกความสวย พร้อมความมั่นใจ กล้าคิด กล้าพูด รวมถึงอัปเดตชีวิตให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา
ชิชญาสุ์ กรรณสูต – สุรางค์ เปรมปรีดิ์ – ประณม ถาวรเวช
ทีมผู้บริหารกองประกวด Miss Universe Thailand 2012-2018
ต่อมาในปี 2012 ได้มีเปลี่ยนชื่อการประกวดเป็น Miss Universe Thailand ตามนโยบายใหม่ของเวทีแม่ เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์เหมือนกันทุกประเทศ โดยขึ้นต้นด้วยคำว่า Miss Universe แล้วตามด้วยชื่อประเทศ นอกจากนี้ยังได้หลานสาวอย่าง ออน–ชิชญาสุ์ กรรณสูต มาเสริมทัพในตำแหน่งผู้จัดการกองประกวด ทำให้นางงามที่ได้รับตำแหน่งนอกจากจะสวยแล้วนั้น ยังต้องปรับตัวให้ทันยุคทันสมัย อัปเดตข่าวสารและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ รวมถึงต้องกล้าแสดงความคิดเห็น เป็นตัวของตัวเอง พร้อมนำเสนอความเป็นไทยภายใต้ยุคสมัยใหม่ให้ชาวโลกได้เห็นในทุกมิติด้วยตัวของนางงามเอง โดยใช้ตัวนางงามและสิ่งรอบข้างในการพรีเซนต์
ทำเนียบนางงามที่คว้ามงกุฎ Miss Thailand Universe และ Miss Universe Thailand
ครั้งที่ 3 ของประเทศไทยในการได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพการประกวด Miss Universe 2018 โดยมีบริษัท TPN 2018 เป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในการบริหารจัดการ ดูแล และดำเนินการจัดการประกวดทั้งหมด และด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ TPN 2018 ได้รับสิทธิ์ส่งตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประกวด Miss Universe ต่อไปอีก 5 ปี (2019-2023) โดยการประกวดในปีนี้ถือเป็นการยกเครื่องใหม่ เปลี่ยนโฉมการประกวดนางงามไทยให้เทียบเท่าเวทีแม่ โดยเน้นในเรื่องของโปรดักชันในด้านแสง สี เสียง ผนวกรวมกับความคิดสร้างสรรค์ในการทำโชว์ให้ออกมาสนุก ตื่นเต้น น่าติดตาม และยังสามารถอัปเดตชีวิตและกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดการประกวดตั้งแต่ Miss Universe Thailand เปิดรับสมัครยาวไปจนถึงการประกวด Miss Universe เสร็จสิ้นลง
สมชาย ชีวสุทธานนท์ – ปิยาภรณ์ แสนโกศิก – ณรงค์ เลิศกิตศิริ
ทีมผู้บริหาร TPN 2018 ผู้ได้รับสิทธิ์จัดการประกวด Miss Universe 2018
สำหรับนางงามตัวแทนของไทยในยุคของ TPN ค่อนข้างมีความแปลกใหม่ ดูแตกต่างจากที่แล้วมา อันดับแรกคือต้องสวยด้วยความเข้าใจ เพราะทุกคนเกิดมามีลักษณะทางกายภาพที่ไม่เหมือนกัน การรักและเคารพ ตลอดจนภูมิใจในตัวเองถือเป็นเรื่องที่ดี ต่อมาคือเน้นการสร้างสตอรีผ่านการนำเสนอเรื่องราวในสิ่งที่ตนเองสนใจหรือให้การสนับสนุน ทั้งนี้ จะต้องมีทักษะด้านการสื่อสารที่ดี พร้อมเป็นสตรีที่มีภาวะความเป็นผู้นำ เพื่อส่งพลังและความภาคภูมิใจในตัวเราไปยังเพื่อนผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้ พร้อมรับหน้าที่เป็นกระบอกเสียงในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับสังคมโลกต่อไป
ปวีณสุดา ดรูอิ้น อแมนด้า ออบดัม
Miss Universe Thailand 2019 Miss Universe Thailand 2020
สองสาวงามผู้คว้ามงกุฎ Miss Universe Thailand ในยุคของ TPN
และเช่นเดียวกันในปีนี้กับการประกวด Miss Universe Thailand 2021 โดย TPN Global อยากให้ผู้ได้รับการคัดเลือกดำรงตำแหน่งในปีนี้มีคุณสมบัติทั้งหมดตามที่ได้กล่าวมาข้างต้นเป็นพื้นฐาน พร้อมการนำ ‘Passion’ ที่ตัวเองมี แปรเปลี่ยนเป็นพลังในการขับเคลื่อนตัวนางงามไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ให้สำเร็จ โดย ‘ปุ้ย–ปิยาภรณ์ แสนโกศิก’ หนึ่งใน National Director ของ Miss Universe Thailand กล่าวถึงคุณสมบัติของนางงามที่จะเป็นตัวแทนประเทศไทยในปีนี้ว่า อยากได้ผู้หญิงที่สามารถนำเสนอศักยภาพของตนเองออกมาได้อย่างเต็มที่ มีความพร้อมในตัวเอง ทั้งยังทุ่มเทกำลังกายและพลังใจให้กับการประกวด Miss Universe 2021 ที่มีเวลาเตรียมตัวประมาณหนึ่งเดือนเท่านั้น และที่สำคัญคือการนำความเป็นไทยไปเผยแพร่ และแสดงให้ชาวต่างชาติได้เห็น ทั้งในด้านของจิตวิญญาณพลังของนักสู้ ความมุ่งมั่นตั้งใจ และไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ
ทั้งนี้ สิ่งที่องค์กร Miss Universe ตามหาจากสาวงามผู้เข้าประกวดทั่วโลก นั่นก็คือการเป็นผู้สื่อสารที่ดี ทั้งการเป็นกระบอกเสียงที่ทรงพลัง สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นในสังคม หรือเป็นการนำเสนอสินค้าและบริการของผู้สนับสนุนการประกวดเพื่อแทนคำขอบคุณ และที่สำคัญคือการบอกเล่าเรื่องราวความสามารถ และศักยภาพของตนให้อีกหลายคนได้รับรู้ เพื่อเปิดโอกาสและนำพาสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต
(ซ้าย) ปิยาภรณ์ แสนโกศิก
National Director, Miss Universe Thailand
(ขวา) ปุณิกา กุลสุนทรรัตน์
Manager, Miss Universe Thailand 2021
พรฟ้า-ปุณิกา กุลสุนทรรัตน์ นางงามรุ่นพี่ผู้ปิดตำนานและแขวนส้นสูงบนเวที Miss Universe Thailand 2020 โดยปีนี้รับหน้าที่ผู้จัดการกองประกวด Miss Universe Thailand 2021 พร้อมควบตำแหน่ง Runway Coach ได้กล่าวถึงเป้าหมายในการรับหน้าที่เบื้องหลังครั้งนี้ว่า เธอมีธงปักอยู่คืออยากให้วงการนางงามไทยมีการพัฒนาในด้านต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ และมีระเบียบแบบแผนที่ชัดเจน ด้วยเหตุผลนี้เอง เธอจึงผันตัวจากผู้เข้าประกวดเบื้องหน้า สู่บุคลากรเบื้องหลัง ทั้งนี้ เธอมีแผนในการส่งต่อองค์ความรู้ที่ได้สั่งสมมาตลอดชีวิตการประกวดนางงาม รวมถึงทักษะต่างๆ มาถ่ายทอดให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษาตามความถนัด พร้อมเผยถึงคุณสมบัติของ Miss Universe Thailand คนใหม่ว่า ต้องเป็นคนรักษาวินัย ตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ทำงานร่วมกับบุคคลอื่นได้ สุดท้ายคือต้องมีความรับผิดชอบ
สำหรับสาวงามผู้เข้าประกวดบางคนที่มีข้อกังวลเกี่ยวกับการตัดสินในปีนี้ ผู้จัดการกองประกวดฝากมาบอกว่าไม่ต้องกังวลใจ เพราะทางกองประกวดมีสูตรในการคัดเลือกสาวงาม นั่นก็คือ 50:50 คือตัวผู้เข้าประกวดเองอาจไม่ต้องพร้อมเต็มร้อย อาจจะมีเพียง 50 หรือมากกว่า ที่เหลือทางกองประกวดจะเพิ่มในส่วนที่ขาด เสริมในจุดที่พลาด และเติมเต็มไม่ให้มีข้อผิดพลาด เพื่อวาดความฝันของทุกคนในการคว้ามงสามให้เป็นจริง โดยพรฟ้าได้ฝากเคล็ดลับถึงสิ่งที่ผู้เข้าประกวดทุกคนควรจะมีและปฏิบัติคือ การคิดบนพื้นฐานการตัดสินใจของตัวเอง การวางแผนกลยุทธ์ที่ดี มีแบบแผนชัดเจน และทักษะพื้นฐานในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
ฐิติพงษ์ ด้วงคง
Speech Content, Miss Universe Thailand 2021
ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการด้านสตรีศึกษาและลาตินอเมริกาฯ
ผู้ฝึกสอนอแมนด้าในหัวข้อสตรีศึกษา และปัญหา Global Issue ทั้งยังเป็นผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการด้านสตรีศึกษาและลาตินอเมริกา อย่าง ‘อาจารย์ธง-ฐิติพงษ์ ด้วงคง’ ที่ในปีนี้ รับหน้าที่ดูแลสาวงามผู้เข้าประกวดในทักษะที่เกี่ยวกับ Speech Content ได้ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD POP ถึงรายละเอียดการสอนและเทรนด์ในปีนี้ไว้ว่า จากกระแสตอบรับรอบคีย์เวิร์ด ทำให้กองประกวดเล็งเห็นถึงความสำคัญในการเรียนรู้ถึงประเด็นและปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมไทย รวมถึงสังคมโลก โดยเนื้อหาที่ได้เรียนรู้และทำความเข้าใจทั้งหมดจะเป็นพื้นฐานของคำตอบในรอบคีย์เวิร์ดและรอบตอบคำถาม ซึ่งต้องอธิบายให้เกิดความกระจ่าง จับประเด็นในแต่ละจุดที่สำคัญ เพื่อนำมาสรุปรวมกันเป็นใจความสำคัญของคำตอบ
ในส่วนของคลาส Speech Content อาจารย์ธงและครูออมจะมา Edutaining เล่าความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นไปพร้อมกับการฝึกสอนทักษะที่เกี่ยวกับการคิดและการพูด เพราะฉะนั้น จะมาเป็นเวทีนางงามเหมือนเดิมไม่ได้ เวทีนี้ให้ความรู้ มีกระบวนการคิด มีฝึกการพูด มีสูตรการตอบคำถามให้คุณ
กษมวัชร เขตวิทย์
หนึ่งในผู้ก่อตั้งเพจ Pageant Insider และกลุ่ม Pageant Insiders Fan Club
หากจะให้เลือกชื่อของกูรู อินฟลูเอนเซอร์ ผู้เชี่ยวชาญและผู้ติดตามการประกวด หรือแฟนนางงาม ที่เป็นเหมือนตัวแทนพี่น้องชาวไทยในการส่งกำลังใจให้กับตัวแทนสายสะพาย THAILAND บนเวที Miss Universe แบบเกาะติดชิดขอบเวทีตั้งแต่ปี 2012 จนถึงปัจจุบัน คงมีชื่อเดียวที่เรานึกถึงนั่นคือ อาร์ตี้-กษมวัชร เขตวิทย์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งเพจนางงาม Pageant Insiders ที่มีผู้ติดตามกว่า 120,000 บัญชีรายชื่อ และกลุ่มเฟซบุ๊ก Pageant Insiders Fan Club โดยอาร์ตี้เก็บวันลาตลอดทั้งปีไว้ใช้ในช่วงที่มีการประกวด Miss Universe และกิจวัตรประจำวันคือการนั่งบริเวณล็อบบี้ของโรงแรม และไลฟ์รอนางงามเดินลงมาจากห้องพัก พร้อมกล่าวทักทายและชื่นชมในลุคการแต่งตัวของนางงามผู้เข้าประกวดทุกวัน สำหรับเขาการเห็นผู้หญิงที่ได้รับการคัดเลือกว่าสวยที่สุดในแต่ละประเทศตามรูปแบบและมาตรฐานความงามที่แตกต่างกัน ถือเป็นโบนัสความสุขในแต่ละปี
จากประสบการณ์ในการดูนางงามตลอดชีวิตของอาร์ตี้ ทำให้เขาได้ค้นพบว่า ผู้หญิงที่จะคว้ามงกุฎและตำแหน่ง Miss Universe ได้นั้น จะต้อง Full Package มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีใจให้องค์กร และสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหา โดยทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ Miss Universe Thailand ตามหาเช่นกัน โดยเขาได้วิเคราะห์ถึงคุณสมบัติที่กองไทยและกองจักรวาลหาร่วมกันนั่นก็คือ Miss Universe Quality ที่ต้องมีความสวยเป็นอันดับแรก ตามมาด้วยความอดทน และเป็นคนที่สามารถทำงานให้กองประกวดได้
Steve Harvey
ผู้ดำเนินการประกวด Miss Universe 2018 Bangkok, Thailand
จากการสัมภาษณ์บุคคลที่ทำงานและเกี่ยวข้องในวงการนางงามทั้งหมด สิ่งหนึ่งที่ทุกคนคิดและพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันคือ อยากให้วงการนางงามไทยได้รับการพัฒนาและต่อยอดอย่างมีระเบียบแบบแผน สร้างความยั่งยืนให้กับตัวนางงามได้ตลอดชีวิต บางคนที่เคยอยู่เบื้องหน้า เมื่อหมดเวลาและวาระก็อาจผันตัวไปเป็นคนเบื้องหลัง ส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กับนางงามรุ่นใหม่ต่อไป หากแต่จะพูดถึงการประกวด Miss Universe Thailand นั้น หนึ่งสิ่งที่ทุกคนเห็นตรงกันคือ การส่งเสริมและสนับสนุนตัวแทนประเทศไทยให้ได้มาซึ่งตำแหน่งและมงกุฎ Miss Universe ครั้งที่ 3 ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าอีกไม่นานคนไทยจะได้เห็นช่วงเวลาของการประกาศผลการประกวดที่ Steve Harvey ได้เปล่งเสียงด้วยประโยคที่ว่า
‘And the New Miss Universe is Thailand’
ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร
