ฮ่องกงกำลังเผชิญปัญหาที่รุมเร้า ทั้งพายุฝนจนทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ การหั่นคาดการณ์ GDP และแรงกดดันจากเศรษฐกิจจีนที่ซบเซา ซึ่งอาจกลายเป็นปัจจัยที่สกัดกั้นฮ่องกงออกจากความพยายามในการกลับมาเป็นศูนย์กลางทางการเงินของเอเชียที่รุ่งเรืองเหมือนในอดีต
เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ฮ่องกงเผชิญกับพายุฝนที่รุนแรงที่สุดในรอบ 140 ปี จากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น ‘ไห่ขุย’ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหลายแห่ง ขณะที่ตลาดหุ้นฮ่องกงประกาศหยุดการซื้อ-ขายชั่วคราวในวันที่เกิดเหตุ ผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีการคาดการณ์ว่าจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเดียวที่ฮ่องกงกำลังเผชิญ เมื่อผลการสำรวจจาก Bloomberg พบว่า บรรดานักเศรษฐศาสตร์ต่างปรับลดการคาดการณ์การเติบโตทาง GDP ประจำปี 2023 ของฮ่องกง จาก 4.6% เหลือ 4% ถือเป็นตัวเลขที่ลดลงเป็นปีที่ 3
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเลขอาจต่ำกว่านี้ได้หากสถานการณ์ยังคงเลวร้ายอย่างต่อเนื่อง
Heron Lim นักเศรษฐศาสตร์จาก Moody’s Analytics คาดการณ์ว่า GDP ของฮ่องกงในปี 2023 จะเติบโต 3.9% และเตือนว่าการเติบโตในปีนี้ไม่ควรถูกเข้าใจผิดว่าเป็นการฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง แต่เป็นการกลับไปสู่ภาวะปกติ อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกในระดับสูงยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาดูในปีถัดไป และยังคงเป็นสิ่งที่ขัดขวางความพยายามของฮ่องกงในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองและผลกระทบจากโควิด
เศรษฐกิจฮ่องกงยังคงเผชิญความท้าทายจากภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีน อุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนแอ และพฤติกรรมการใช้จ่ายในประเทศที่มีแนวโน้มลดลง ทำให้ฮ่องกงต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อฟื้นฟูความน่าดึงดูดในฐานะศูนย์กลางการค้าขายระดับโลก ซึ่งตอกย้ำความเสียหายจากโรคระบาดที่กินเวลาหลายปี ขณะที่นักท่องเที่ยวไม่ได้เข้ามาเป็นจำนวนมากเหมือนช่วงก่อนการประท้วงในประเทศเมื่อปี 2019
ล่าสุดการลดภาษีซื้อ-ขายหุ้นของจีนได้เพิ่มแรงกดดันให้ฮ่องกงต้องปฏิบัติตาม และกลายเป็นภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกสำหรับทางการฮ่องกงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อรายได้ของประเทศ
ที่ผ่านมานายธนาคารและนักลงทุนในประเทศต่างเรียกร้องให้มีการปรับลดภาษีหุ้นมาโดยตลอด ล่าสุดพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกงได้เข้าร่วมการเรียกร้องให้ฟื้นฟูแนวทางการซื้อ-ขายในตลาดหุ้นฮ่องกง แต่ต้นทุนทางการเงินน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญเนื่องจากรัฐบาลต้องอาศัยรายได้จากการซื้อ-ขายหุ้นประมาณ 9% ของงบประมาณ
ความกังวลต่อเศรษฐกิจที่ถดถอยของจีนส่งผลต่อตลาดหุ้นฮ่องกงอย่างชัดเจน จำนวนหุ้น IPO ในตลาดฮ่องกงลดลงตั้งแต่ปี 2021 ขณะที่การซื้อ-ขายในตลาดฮ่องกงยังคงตกต่ำอย่างต่อเนื่อง โดยการซื้อ-ขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 16% ขณะที่กองทุนรวมตราสารทุนที่ระดมทุนลดลง 35% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 จากปีก่อนหน้า
ตามรายงานของ Morgan Stanley นักลงทุนต่างชาติก็สูญเสียความสนใจในตลาดฮ่องกงเช่นกัน การทำธุรกรรมด้านการลงทุนของสถาบันต่างประเทศลดลงเหลือประมาณ 25% ในตลาดหุ้นฮ่องกง ณ เดือนสิงหาคม จากเกือบ 40% ณ สิ้นปี 2020
อ้างอิง:
- www.bloomberg.com/news/articles/2023-09-11/china-s-abrupt-trading-tax-cut-forces-hong-kong-into-hard-choice?sref=CVqPBMVg#xj4y7vzkg
- www.bloomberg.com/news/articles/2023-09-10/hong-kong-s-economic-growth-forecast-at-risk-survey-shows?sref=CVqPBMVg#xj4y7vzkg
- www.bloomberg.com/news/articles/2023-09-08/hong-kong-s-historic-storm-could-cost-city-at-least-100-million?sref=CVqPBMVg