สำนักข่าว BBC รายงานว่า กลุ่มนักกิจกรรมทางการเมืองจำนวน 47 คนจาก 55 คนที่ถูกจับกุมเมื่อเดือนที่แล้ว ถูกสั่งให้ไปรายงานตัวที่สถานีตำรวจเพื่อควบคุมตัวก่อนขึ้นศาลในวันจันทร์ (1 มีนาคม) โดยคนกลุ่มนี้คือนักกิจกรรมประชาธิปไตยที่มีส่วนช่วยในการจัดการเลือกตั้งขั้นต้นแบบไม่เป็นทางการเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว เพื่อคัดเลือกผู้ลงสมัครซีกฝ่ายค้านในการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติซึ่งภายหลังถูกเลื่อนออกไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ทางการของจีนและฮ่องกงระบุว่า การจัดเลือกตั้งขั้นต้นดังกล่าวเป็นความพยายามในการล้มล้างรัฐบาล
ตำรวจฮ่องกงระบุในแถลงการณ์ว่า “ตำรวจได้ตั้งข้อหาต่อบุคคล 47 คน…ด้วยข้อหา ‘สมคบคิดกันบ่อนทำลายการปกครอง’ คนละหนึ่งกระทง” ทั้งนี้ ใน 47 คนนี้แบ่งเป็นชาย 39 คน หญิง 8 คน มีอายุระหว่าง 23-64 ปี และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยที่เป็นที่รู้จักอย่างดีในฮ่องกง
จิมมี ชาม วัย 33 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดการชุมนุมคนสำคัญในปี 2019 ยังคงแสดงท่าทีท้าทายเมื่อไปถึงสถานีตำรวจ “ประชาธิปไตยไม่เคยเป็นของขวัญจากสวรรค์ มันต้องได้มาด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าจำนวนมาก” เขาระบุ “เราจะยังคงแข็งแกร่งและต่อสู้เพื่อสิ่งที่เราต้องการ”
ด้าน กวินเน็ธ โฮ ผู้ประท้วงอีกรายที่มีอายุน้อย ก็โพสต์ข้อความก่อนเข้ารายงานตัวกับตำรวจว่า “ฉันหวังว่าทุกคนจะพบหนทางสู่ความรู้สึกปลอดภัย และก้าวไปข้างหน้าด้วยความตั้งใจที่ไม่ย่อท้อ”
แซม ชาง นักกิจกรรมอีกรายก็ระบุก่อนเข้ารายงานตัวเช่นกันว่า “ฉันหวังว่าทุกคนจะไม่ยอมแพ้ฮ่องกง…(และ) สู้ต่อไป” สำนักข่าว Reuters ยังเผยแพร่ภาพของเขากอดกับภรรยาก่อนเข้ารายงานตัวด้วย
ข้อหานี้มีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต และการประกันตัวนั้นทำได้ยาก เบนนี ไท ซึ่งเป็นนักกิจกรรมอาวุโสที่เข้ารายงานตัวระบุว่า โอกาสของเขา ‘มีไม่มากนัก’
จนถึงขณะนี้มีบุคคลราว 100 คนถูกจับกุมตัวภายใต้กฎหมายความมั่นคง ซึ่งรวมถึง จิมมี หล่าย เจ้าพ่อสื่อชื่อดังและนักวิจารณ์จีนคนสำคัญ ที่ถูกปฏิเสธการให้ประกันตัว และอยู่ระหว่างถูกควบคุมตัวเพื่อรอการพิจารณาคดี
สำนักข่าว BBC รายงานว่ายังไม่มีการพิจารณาคดีเกิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ โดยบุคคลแรกที่คาดว่าจะถูกพิจารณาคือ ตง หยิง คิท ซึ่งถูกกล่าวหาว่าขี่จักรยานยนต์พุ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว เขาปรากฏตัวในศาลในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาและให้การปฏิเสธ และคาดว่าจะถูกพิจารณาโดยผู้พิพากษา 3 คนแทนที่จะเป็นคณะลูกขุน
ขณะที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ระบุว่าการควบคุมตัวนักกิจกรรม 55 คนเมื่อเดือนมกราคมนั้นถือเป็น “การแสดงให้เห็นชัดเจนที่สุดว่า กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติถูกนำมาใช้เพื่อลงโทษใครก็ตามที่กล้าท้าทายผู้มีอำนาจ”
กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่บังคับใช้อยู่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นกฎหมายที่ลดทอนอิสรภาพของฮ่องกง และเปิดทางให้สามารถลงโทษผู้ประท้วงได้ง่ายขึ้น มีการบัญญัติการกระทำที่ถือเป็นอาชญากรรมใหม่ๆ ผู้ที่เข้าข่ายสมคบคิดกับชาวต่างชาติเพื่อกระตุ้นให้เกิด ‘ความเกลียดชัง’ ต่อรัฐบาลจีนหรือทางการฮ่องกงอาจถือเป็นการก่ออาชญากรรม การพิจารณาคดีอาจทำโดยเป็นความลับและไม่มีคณะลูกขุน บางคดีอาจถูกส่งไปพิจารณาในจีนแผ่นดินใหญ่ได้ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของจีนแผ่นดินใหญ่สามารถปฏิบัติงานในฮ่องกงได้อย่างถูกกฎหมายโดยไม่ต้องรับโทษ ซึ่งหลังกฎหมายฉบับนี้เริ่มบังคับใช้ ก็ทำให้กลุ่มที่สนับสนุนประชาธิปไตยจำนวนหนึ่งสลายตัวไปเนื่องจากความกังวลในเรื่องความปลอดภัย
ภาพ: Isaac Wong / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: