ผู้ประท้วงชาวฮ่องกงนับแสนคนรวมตัวกันชุมนุมบริเวณถนนชาเตอร์และสวนสาธารณะชาเตอร์ การ์เดน เพื่อเรียกร้องให้สหรัฐฯ ผ่านกฎหมายว่าด้วยสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง ซึ่งอาจนำไปสู่การลงโทษผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนฮ่องกง
กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้สโลแกน ‘ร่วมต่อสู้กับฮ่องกง ให้ความยุติธรรมกับเหยื่อของเรา’ โดยผู้ประท้วงพร้อมใจกันโบกธงชาติสหรัฐฯ เพื่อขอให้รัฐบาลวอชิงตันเข้ามาแทรกแซง ขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสมีกำหนดกลับมาประชุมอีกครั้งหลังจากที่พักการประชุมไปในช่วงฤดูร้อน ซึ่งหนึ่งในวาระสำคัญคือการพิจารณาลงมติรับรองร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง (Hong Kong Human Rights and Democracy Act) ภายในสัปดาห์นี้
กฎหมายฉบับนี้หากผ่านความเห็นชอบจะมอบอำนาจแก่รัฐบาลสหรัฐฯ ในการออกมาตรการลงโทษเจ้าหน้าที่ฮ่องกงและรัฐบาลจีนที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของฮ่องกง ซึ่งรวมถึงการอายัดทรัพย์สินของบุคคลเหล่านั้นในสหรัฐฯ หรือปฏิเสธการออกวีซ่าให้กับบุคคลที่ต้องการเดินทางไปยังสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังกำหนดให้รัฐบาลวอชิงตันต้องพิจารณาสถานการณ์สิทธิพลเรือนในฮ่องกง เพื่อดูว่าฮ่องกงจะได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าและเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ ภายใต้กฎหมายนโยบายสหรัฐฯ-ฮ่องกง ฉบับปี 1992 ต่อไปหรือไม่
สำหรับการชุมนุมที่ชาเตอร์ การ์เดน บรรยากาศค่อนข้างตึงเครียด โดยตำรวจวางกำลังคุมเข้มบริเวณสถานีรถไฟใต้ดินเซ็นทรัล ในขณะที่ผู้ประท้วงเดินขบวนไปยังจุดนัดพบ
ผู้จัดการชุมนุมประมาณการว่ามีผู้เข้าร่วมประท้วงครั้งนี้มากถึง 1.3 แสนคน ขณะที่ตำรวจระบุว่ามีจำนวนหลักหมื่น โดยระหว่างการชุมนุมมีกิจกรรมต่างๆ เช่น เชิญนักร้องมาร้องเพลง Glory to Hong Kong ซึ่งได้กลายเป็นเพลงประจำของกลุ่มผู้ประท้วง นอกจากนี้ โจชัว หว่อง เลขาธิการพรรค Demosisto และแกนนำเรียกร้องประชาธิปไตย ก็ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีพร้อมกับแกนนำนักกิจกรรมและนักการเมืองฝ่ายเสรีนิยมอย่าง แอนดี้ ชาน และซันนี่ ชุง ด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: