หากนึกถึงรถยนต์ซีดานขนาดใหญ่ในกลุ่มเซกเมนต์พรีเมียมตัวท็อป D-Segment ชื่อของ Honda Accord จะต้องปรากฏขึ้นมาอยู่ในลิสต์เป็นลำดับต้นๆ เป็นแน่ เพราะไม่ว่าจะพิจารณาทั้งในแง่ของสมรรถนะและคุณภาพตัวรถ ความสวยงามและดีไซน์ที่หรูหราโอ่อ่าของห้องโดยสาร หรือแม้กระทั่งประสบการณ์และความรู้สึกสุดพิเศษในทุกๆ ครั้งที่คุณได้ขับขี่มัน ทุกๆ องค์ประกอบล้วนแล้วแต่ตอบโจทย์คนที่มองหารถในเซกเมนต์นี้แบบ 100% กินขาด

วันนี้ THE STANDARD ขออาสาพาผู้อ่านทุกคนไปทบทวนความพิเศษของ Honda Accord พร้อมๆ กัน ว่าทำไมยนตกรรมสุดพรีเมียมในกลุ่ม D-Segment จาก Honda คันนี้ถึงโดดเด่นจนพุ่งทะยานขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดของรถยนต์เซกเมนต์นี้ได้สำเร็จ  อะไรคือคุณสมบัติที่หาตัวจับยาก และเป็นองค์ประกอบสำคัญที่คุณไม่อาจได้รับจากยานยนต์ในเซกเมนต์เดียวกันของค่ายอื่นๆ

รูปโฉมภายนอกตัวรถ Honda Accord สุดหรูหรา มาพร้อมกับเครื่องยนต์ e:HEV Powerful Hybrid สมรรถนะสูง

ยนตกรรมสมรรถนะสูงระดับ Flagship จาก Honda

Honda Accord ถือเป็นรถยนต์แบบสปอร์ตพรีเมียมซีดานในระดับ Flagship จาก Honda โดยมาให้เลือกใน 2 รุ่น คือ Honda Accord รุ่น e:HEV มุ่งสู่อนาคตแห่งการขับเคลื่อนกับระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ด้วยระบบ Full Hybrid ที่ให้การขับขี่ที่ทรงพลังและให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING และระบบฟอกอากาศพลาสมาคลัสเตอร์ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับสุขภาพที่ดีและอากาศบริสุทธิ์ในทุกๆ เส้นทางการขับขี่

Honda Accord e:HEV มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ซึ่งจะทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าทรงพลัง 2 ตัว มอบกำลังสูงสุด 215 แรงม้า จากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ทั้งยังให้การตอบสนองต่ออัตราเร่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนขนาด 1.3kWh ที่คงไว้ซึ่งสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ โดยสามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ที่ 24.4 กิโลเมตรต่อลิตร* *ทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ (อัตราการประหยัดน้ำมันขึ้นอยู่กับสภาพถนนและพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล)

ตามมาด้วยรุ่น EL ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์สุดหรู เท่ สปอร์ต แต่แฝงไว้ซึ่งสมรรถนะทรงพลัง มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO มอบสมรรถนะการขับขี่และการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการรองรับพลังงานทางเลือกน้ำมัน E85 

ส่วนดีไซน์ภายนอก (Exterior Design) ปรับแบบใหม่ ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED และท่อไอเสียคู่ พร้อมปลอกท่อไอเสียสเตนเลส เพื่อเพิ่มความสปอร์ตให้กับตัวรถมากขึ้น ซึ่งใน Honda Accord TURBO นี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING อีกด้วย

เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING 

เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยครบครัน จัดเต็มใส่มาให้แบบเต็มสูบ

ข้ามมาดูที่ฝั่งของเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ Honda ใส่มาให้ใน Honda Accord กันบ้าง เริ่มต้นที่ Honda SENSING เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ซึ่งระบบนี้จะผสานการทำงานของเรดาห์กับกล้องด้านหน้า ตรวจจับสภาวะแวดล้อมบนท้องถนน 

ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้คือช่วยแจ้งเตือนผู้ขับและช่วยคุมรถในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับขี่และเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน

ในรุ่น e:HEV TECH ยังมีเทคโนโลยี Multi-view Camera System หรือระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง ที่จะทำงานผ่านกล้องที่ติดตั้ง 4 จุดรอบคัน ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง ด้านซ้าย และด้านขวา โดยสามารถแสดงภาพได้ครบทุกมุมมองหรือภาพจำลองจากมุมสูง เพื่อให้เห็นทุกทิศทางรอบคัน ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน เพื่อช่วยในกรณีถอยจอดหรือในกรณีที่ไม่แน่ใจว่าทัศนวิสัยรอบคันรถมีวัตถุ บุคคล หรือสิ่งอื่นใดมากีดขวางหรือไม่

ภาพตัวอย่างการใช้งานเทคโนโลยี Multi-view Camera System

และสำหรับผู้ใช้งานที่อาจจะไม่ถนัดการถอยจอดในที่จอดรถ ซึ่งต้องใช้ความชำนาญมากเป็นพิเศษ Honda ก็ได้ใส่ Honda Smart Parking Assist System หรือระบบช่วยจอดอัจฉริยะ พร้อมระบบช่วยเบรกมาให้ด้วย โดยความพิเศษของเจ้าระบบนี้คือการที่มันจะช่วยควบคุมพวงมาลัยอัตโนมัติ และคำนวณการถอยจอดให้อย่างง่ายดายและสะดวกสบาย

คนขับอย่างเรามีหน้าที่แค่เปลี่ยนเกียร์เดินหน้าหรือถอยหลังไปตามคำแนะนำและตามตำแหน่งที่ระบุบนหน้าจอเท่านั้น ก็สามารถจอดทั้งแบบถอยเข้าซองหรือจอดแนวขนานเทียบทางเท้าได้ง่ายๆ ทันที

เทคโนโลยีระบบฟอกอากาศพลาสมาคลัสเตอร์ (Plasmacluster Technology) ที่มีมาให้ใน Honda Accord e:HEV 

ส่วนใครที่กังวลเรื่องฝุ่นพิษหรือเชื้อโรคที่ลอยคละคลุ้งฟุ้งอยู่ในอากาศที่เราสัญจรผ่านหรือในถนนเส้นที่รถบรรทุกวิ่งผ่านเป็นจำนวนมาก ก็หมดห่วงได้เลย เพราะใน Honda Accord e:HEV ยังมีเทคโนโลยีระบบฟอกอากาศพลาสมาคลัสเตอร์ (Plasmacluster Technology) ที่จะช่วยฟอกอากาศสะอาดสดชื่นให้ในทุกๆ การขับขี่อีกด้วย จึงมั่นใจในทุกลมหายใจที่คุณสูดรับเข้าปอดจะเป็นอากาศที่บริสุทธิ์เสมอ

หลังคาซันรูฟ พร้อมระบบ One-Touch เปิด-ปิดได้ตามความต้องการในการใช้งานของผู้ขับ

บริการแบบพรีเมียมที่พร้อมดูแลคุณแบบพรีเมียม หมดกังวลในทุกการเดินทาง

ไม่ใช่แค่สมรรถนะตัวรถ ดีไซน์หรูหรา หรือเทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำเท่านั้นที่ทำให้ Honda Accord เป็นรถยนต์ในกลุ่ม D-Segment ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานมายาวนานจากรุ่นสู่รุ่น และสร้างความเชื่อมั่นถึงคุณภาพที่ดี เป็นเพราะอีกหนึ่งจุดขายที่ทาง Honda ให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือ ‘บริการหลังการขาย’

โดยใน Honda Accord ทั้งสองรุ่น จะมอบบริการ Service & Maintenance ที่ครบครันให้รอบด้าน

ทั้งฟรีค่าแรงตามตารางการบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร* (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

ในรุ่น e:HEV รับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดนานถึง 10 ปี และรับประกัน 5 ปีแรกทั้งระบบ ไม่จำกัดระยะทาง* 

พร้อมบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ หายห่วงในทุกๆ การเดินทางกับ Honda Roadside Assistance 24 Hours* โปรแกรมสุดพิเศษที่จะคอยดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ทีมผู้ช่วยจาก Honda ก็พร้อมให้บริการช่วยเหลือคุณถึงที่ 

เท่านั้นยังไม่พอ บริการพิเศษ! ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ Honda ULTIMATE CARE เป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร* (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)

ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นความพิเศษแบบเหนือระดับ ทั้งสมรรถนะเครื่องยนต์ ความหรูหราของตัวรถ และประสบการณ์การขับขี่ บริการหลังการขายที่คุณจะได้รับจาก Honda Accord ตลอดจนการได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและประหยัดค่าเชื้อเพลิงมากกว่าทุกๆ ครั้งผ่าน Honda Accord รุ่น e:HEV

คุณจึงมั่นใจได้เลยว่า ในทุกๆ ครั้งที่กดปุ่มสตาร์ทเครื่องตัวรถยนต์ Honda Accord เส้นทางข้างหน้าของคุณจะเต็มไปด้วยความปลอดภัย ท้ังยังช่วยให้คุณสามารถเดินทางโฉบเฉี่ยวไปถึงทุกจุดมุ่งหมายปลายทางได้อย่างมั่นคง ไร้กังวล

หรือหากสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3_HondaTheAccord

*เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทฯ กำหนด