มีรายงานว่า Hermès ลงทุนเงินไปเกือบ 300 ล้านยูโร หรือราวๆ 1.1 หมื่นล้านบาท ในการซื้อร้านที่ตั้งอยู่บนถนน Rue de Sèvres ในเขตที่ 7 แห่งกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยก่อนหน้านี้เพิ่งมีการรายงานว่า CHENEL เข้าซื้อตึกเลขที่ 42 บนถนน Avenue Montaigne โดยไม่ได้เปิดเผยราคาซื้อขาย ซึ่งตึกดังกล่าวเป็นที่ตั้งของร้านบูติกรวมไปถึงออฟฟิศของแบรนด์อยู่แล้วตั้งแต่ปี 1983
เช่นเดียวกับ CHANEL ทาง Hermés ก็เปิดสโตร์อยู่บนเลขที่ 17 ของถนน Rive Gauche มาอยู่แล้วตั้งแต่ปี 2010 โดยพื้นที่ 1,300 ตารางเมตร ในตึกสไตล์ Art Deco อันเป็นที่ตั้งของร้าน Hermès แห่งนี้ ได้รับการบูรณะซ่อมแซมใหม่แบบยกเครื่องในปี 2021 และเป็นที่ตั้งของโรงแรม Lutheria อันเป็นโรงแรมที่มีสระว่ายน้ำเป็นของตัวเองในช่วงยุค 1930-1970 และได้รับการออกแบบให้มีความโดดเด่นด้วยเพดานสูงโปร่ง และเฉลียงที่ครั้งหนึ่งเคยเอาไว้รองรับเหล่านักอาบแดด ซึ่งทาง CFNEWS IMMO รายงานว่า Hermès ไม่ได้ทุ่มทุนซื้อตึกทั้งหลัง หากแต่ซื้อที่เพียงตั้งของร้านจาก Sylvain Fargeon เจ้าของคนก่อนที่ครอบครองพื้นที่ดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2005
เมื่อปีก่อน Hermès เพิ่งลงทุนครั้งใหญ่ในด้านอสังหาริมทรัพย์ไป โดยการซื้อตึกเลขที่ 11-15 บนถนน Rue d’Anjou แห่งกรุงปารีส มาจาก Covivio ในราคา 230 ล้านยูโร หรือราว 8.4 พันล้านบาท ซึ่งมีการรายงานว่าทางแบรนด์กำลังจะเปิดร้านโชว์เคสแห่งใหม่ที่ทางตะวันออกของกรุงปารีสเร็วๆ นี้บนเลขที่ 102 ของถนน Rue de Charonne หากแต่ครั้งนี้จะเป็นการเช่าพื้นที่เท่านั้น
Hermès ได้รับการก่อตั้งครั้งแรกเมื่อปี 1837 และขณะนี้กลายเป็นแบรนด์ลักชัวรีระดับไฮเอนด์ที่มี 295 ร้านใน 45 ประเทศทั่วโลก โดยโปรดักต์ของแบรนด์ได้รับการผลิตจากโรงงานของ Hermès เองทั้งหมด 55% และกำลังมีแพลนที่จะเปิดโรงงานผลิตเครื่องหนังอีก 3 แห่งภายระหว่างปี 2025-2027 ที่เมือง Charente, Gironde และ Ardennes ของประเทศฝรั่งเศส
ภาพ: Hermès
อ้างอิง:
