×

เปิดโผตัวเต็งรับตำแหน่งระดับสูงในคณะรัฐบาลไบเดน

โดย THE STANDARD TEAM
14.11.2020
  • LOADING...
โจ ไบเดน

โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ เตรียมประกาศรายชื่อบุคคลที่จะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงในคณะรัฐบาลของเขาในอีกไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยกระบวนการเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังสำนักงานที่ดูแลการเปลี่ยนผ่านตำแหน่งประธานาธิบดีของไบเดน ประกาศชื่อ รอน เคลน หนึ่งในที่ปรึกษาทีมหาเสียงที่ไบเดนไว้วางใจมากที่สุด ให้รับตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว

 

นอกจากนี้ไบเดนยังต้องเลือกเจ้าหน้าที่ระดับสูงในคณะรัฐบาลอีกหลายตำแหน่ง รวมถึงรัฐมนตรี 15 กระทรวง ผู้อำนวยการสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ผู้อำนวยการสำนักงานงบประมาณและการจัดการ เอกอัครราชทูตผู้แทนการค้า ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ และผู้อำนวยการสำนักงานวิสาหกิจขนาดย่อม

 

โดยสำนักข่าว CNN เปิดเผยรายชื่อบุคคลที่คาดว่าเป็นตัวเต็งที่อาจได้รับเลือกในตำแหน่งเหล่านี้ จะมีใครบ้างและโปร์ไฟล์แต่ละคนเหมาะสมกับตำแหน่งแค่ไหน

 

  1. หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว

 

รอน เคลน (ประกาศชื่อแล้วเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน)

– เป็นผู้ช่วยไบเดนมายาวนานและเป็นที่ปรึกษาสูงสุดในทีมหาเสียงของไบเดน

– อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและผู้ช่วยอาวุโสของประธานาธิบดี บารัก โอบามา

– อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของรองประธานาธิบดี อัล กอร์ และ เจเน็ต เรโน อัยการสูงสุด

– เคยได้รับการแต่งตั้งจากโอบามา เป็นผู้ประสานงานรับมืออีโบลาของทำเนียบขาวในปี 2014

– เป็นที่ปรึกษาด้านการเตรียมตัวสำหรับการดีเบตของไบเดน, โอบามา, บิล คลินตัน, อัล กอร์, จอห์น เคอร์รี, ฮิลลารี คลินตัน

 

  1. เจ้าหน้าที่อาวุโสทำเนียบขาว

 

เซดริก ริชมอนด์

– ทีมหาเสียงและทีมเปลี่ยนผ่านตำแหน่งประธานาธิบดีของไบเดน

– ส.ส. พรรคเดโมแครตจากรัฐลุยเซียนา

– อดีตประธานสมาชิกสภาผิวสี (Congressional Black Caucus)

 

  1. รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ

 

ซูซาน ไรซ์

– อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติและที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในยุครัฐบาลโอบามา

– เป็นหนึ่งในตัวเลือกคู่ชิงรองประธานาธิบดีของไบเดน

– เคยถูกมองว่าจะเป็นตัวแทน ฮิลลารี คลินตัน ในการรับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ

– เคยตกเป็นเป้าวิจารณ์จากพรรครีพับลิกัน กรณีแสดงความเห็นปกป้องรัฐบาลโอบามาในการรับมือกับเหตุโจมตีและสังหารทูตและชาวอเมริกัน 3 คน ที่สถานกงสุลในเมืองเบนกาซีของลิเบีย

– อดีตผู้อำนวยการองค์การระหว่างประเทศและการรักษาสันติภาพของสภาความมั่นคงแห่งชาติ

– อดีตผู้ช่วยเลขาธิการสำนักกิจการแอฟริกันของกระทรวงการต่างประเทศ

– อดีตผู้อำนวยการอาวุโสด้านกิจการแอฟริกันของทำเนียบขาว

– อดีตผู้ช่วยพิเศษของประธานาธิบดี บิล คลินตัน

 

แอนโทนี บลินเคน

– อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยุครัฐบาลโอบามา

– อดีตผู้ช่วยประธานาธิบดีโอบามา

– อดีตรองประธานที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติยุครัฐบาลโอบามา

– อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของรองประธานาธิบดีไบเดน 

– สมาชิกอาวุโสศูนย์การศึกษายุทธศาสตร์และการต่างประเทศ

– อดีตผู้อำนวยการอาวุโสด้านการเขียนสุนทรพจน์และวางแผนยุทธศาสตร์

– ผู้อำนวยการเจ้าหน้าที่พรรคเดโมแครตในคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ต่างประเทศของวุฒิสภา 

– อดีตสมาชิกสภาความมั่นคงแห่งชาติในยุครัฐบาลคลินตัน

– อดีตผู้ช่วยพิเศษของประธานาธิบดีคลินตัน 

– อดีตผู้อำนวยการอาวุโสด้านกิจการยุโรป

 

วุฒิสมาชิก คริส คูนส์

– ปัจจุบันดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกรัฐเดลาแวร์

– สนิทสนมกับไบเดนมายาวนาน

– เป็นหนึ่งในสมาชิกสภาคองเกรสกลุ่มแรกที่สนับสนุนการลงสมัครชิงประธานาธิบดีของไบเดน 

– เคยดำรงตำแหน่งคณะกรรมาธิการในวุฒิสภาหลายชุด ทั้งคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะกรรมาธิการการจัดสรร คณะกรรมาธิการตุลาการ คณะกรรมาธิการวิสาหกิจและผู้ประกอบการขนาดย่อม และคณะกรรมาธิการจริยธรรม

– เป็นที่รู้จักจากการทำงานกับกลุ่มการเมืองทุกฝ่าย มีความสัมพันธ์อันดีกับสมาชิกระดับสูงของพรรครีพับลิกันหลายคน ที่มีแนวทางและความสนใจในการทำงานร่วมกัน

 

  1. รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง

 

เลล เบรนาร์ด

– ปัจจุบันดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะผู้ว่าการธนาคารกลางของสหรัฐฯ

– อดีตปลัดกระทรวงการคลัง

– อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงการคลังในยุครัฐบาลโอบามา

– เคยรับหน้าที่ผู้แทนสหรัฐฯ เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังของกลุ่ม G20 และ G7

– อดีตสมาชิกคณะกรรมการเสถียรภาพทางการเงินในยุครัฐบาลคลินตัน

– รองที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและรองผู้ช่วยประธานาธิบดีคลินตัน

– ผู้แทนส่วนตัวของประธานาธิบดีคลินตัน เข้าร่วมการประชุม G7/G8

– หากได้รับเลือก จะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลังหญิงคนแรกของสหรัฐฯ

 

ซาราห์ บลูม ราสกิน

– อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังในยุครัฐบาลโอบามา

– อดีตผู้ว่าการคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ

– อดีตกรรมาธิการกฎระเบียบทางการเงินของรัฐแมรีแลนด์

– เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับกลุ่มสมาชิกหัวก้าวหน้าในพรรคเดโมแครต

 

  1. รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม

 

มิเชล เฟลอร์นอย

– หากได้รับเลือก จะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมหญิงคนแรกของสหรัฐฯ

– อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ดูแลด้านนโยบายในรัฐบาลโอบามา

– เคยรับหน้าที่หัวหน้าทีมเปลี่ยนผ่านกระทรวงกลาโหมของโอบามา

– อดีตรองผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมด้านยุทธศาสตร์และการลดภัยคุกคาม

– อดีตรองผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมด้านยุทธศาสตร์

– ร่วมก่อตั้งศูนย์ความมั่นคงใหม่ของชาวเมริกัน

– ร่วมก่อตั้งบริษัทให้คำปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ WestExec Advisors 

– อดีตที่ปรึกษาอาวุโสศูนย์การศึกษายุทธศาสตร์และการต่างประเทศ

 

  1. รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ

 

อเลฮานโดร มายอร์กาส์

– อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิยุครัฐบาลโอบามา

– อดีตผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติ (USCIS)

– ระหว่างดำรงตำแหน่งใน USCIS เขาเคยกำกับดูแลโครงการคุ้มครองเยาวชนผู้อพยพเข้าประเทศที่ไม่มีเอกสาร ไม่ให้ถูกเนรเทศ 

 

ลิซา โมนาโก

– มีบทบาทสำคัญในการดำรงตำแหน่งคณะกรรการคัดเลือกของรองประธานาธิบดีไบเดน

– อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งมาตุภูมิและการต่อต้านก่อการร้ายในยุครัฐบาลโอบามา

– อดีตผู้ช่วยอัยการสูงสุดด้านความมั่นคงแห่งชาติของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ

– อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่และที่ปรึกษาของโรเบิร์ต มุลเลอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯในยุครัฐบาลโอบามา

 

  1. อัยการสูงสุด (รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม)

 

ดัก โจนส์

– วุฒิสภาจากรัฐแอละแบมา (เพิ่งพ่ายในการเลือกตั้งให้แก่ ทอมมี ทูเบอร์วิลล์ จากรีพับลิกัน)

– เคยได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดี บิล คลินตัน ให้ดำรงตำแหน่งอัยการเขตเหนือของรัฐแอละแบมา 

– เคยเป็นผู้นำการฟ้องร้องสมาชิกกลุ่มชาตินิยมผิวขาว Ku Klux Klan ในคดีวางระเบิดโบสถ์ Street Baptist ที่ 16

– มีส่วนร่วมในการดำเนินคดี อีริก รูดอล์ฟ ผู้ก่อการร้ายชาวอเมริกัน ที่ก่อเหตุโจมตีคลินิกทำแท้งและสังหารตำรวจในเมืองเบอร์มิงแฮม 

 

แซลลี เยตส์

– ถูกประธานาธิบดีทรัมป์ไล่ออกจากตำแหน่งรักษาการอัยการสูงสุด หลังมีข่าวว่าเธอเป็นผู้แจ้งต่อคณะทนายความของกระทรวงยุติธรรม ไม่ให้ดำเนินการโต้แย้งทางกฎหมายเพื่อปกป้องคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีทรัมป์ เรื่องการห้ามประชากรจาก 7 ชาติมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐฯ เป็นเวลา 90 วัน และระงับการรับผู้ลี้ภัยทั้งหมดเป็นเวลา 120 วัน และระงับโครงการรับผู้ลี้ภัยจากซีเรียแบบไม่มีกำหนด ซึ่งต่อมาคำสั่งพิเศษดังกล่าวถูกผู้พิพากษาศาลปัดตก ก่อนที่ศาลสูงสุดจะพิจารณาสนับสนุนคำสั่งพิเศษในฉบับปรับแก้เนื้อหา

 

  1. รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย

 

ส.ส. เด็บ ฮาแลนด์

– สมาชิกสภาคองเกรสหญิงจากรัฐนิวเม็กซิโก

– รองประธานคณะกรรมการทรัพยากรธรรมชาติของสภาผู้แทนราษฏร

– คณะอนุกรรมการอุทยานแห่งชาติป่าไม้และที่ดินสาธารณะ

– เป็นหนึ่งในหญิงชนพื้นเมืองอเมริกันที่ได้รับตำแหน่งในสภาคองเกรส 

– ไบเดนเคยบอกว่า ต้องการให้คณะรัฐบาลของเขามีความคล้ายกับประเทศ

– หากได้รับเลือกเป็นรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย จะถือเป็นรัฐมนตรีชนพื้นเมืองอเมริกันคนแรก

 

  1. รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน

 

ซารา เนลสัน

– ประธานระหว่างประเทศของสมาคมพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน – CWA

– โดดเด่นจากภาพลักษณ์ดาวรุ่งในการออกมาเคลื่อนไหวด้านแรงงานระหว่างที่เกิดการชัตดาวน์รัฐบาล ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2018 – มกราคม 2019 ซึ่งเธอให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์และใช้โซเชียลมีเดียเตือนอันตรายจากการไม่จ่ายค่าแรงพนักงานสนามบิน และเรียกร้องให้มีการประท้วงของกลุ่ม AFL–CIO ซึ่งเป็นสหพันธ์สหภาพแรงงานที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ

 

วุฒิสมาชิก เบอร์นี แซนเดอร์ส

– วุฒิสมาชิกจากรัฐเวอร์มอนต์ตั้งแต่ปี 2007 – ปัจจุบัน

– ลงสมัครชิงตัวแทนพรรคเดโมแครตสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016 และ 2020

– ระหว่างการหาเสียงชิงตัวแทนพรรคเดโมแครตลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดี แซนเดอร์สพยายามเรียกเสียงสนับสนุนจากกลุ่มแรงงาน แต่ยังถูกมองว่ายากจะเอาชนะไบเดน และได้รับเสียงสนุนจากกลุ่มผู้นำแรงงานบางส่วน 

– แซนเดอร์สให้สัมภาษณ์ต่อ CNN เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (11 พฤศจิกายน) ว่าหากไบเดนขอให้เขารับตำแหน่งรัฐมนตรีแรงงาน เขาจะยอมรับตำแหน่ง พร้อมระบุว่าหากผลงานของเขาทำให้เขาสามารถยืนหยัดต่อสู้เพื่อครอบครัวแรงงานได้ เขาก็จะทำ

 

มาร์ตี วอลช์ นายกเทศมนตรีบอสตัน

– นายกเทศมนตรีเมืองบอสตัน

– ได้รับการสนับสนุนจากประธานสหพันธ์สหภาพแรงงาน AFL-CIO ให้รับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ถือเป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่อาจก่อให้เกิดการหารือในพรรคเดโมแครต

– เกิดในครอบครัวสหภาพแรงงานและเป็นผู้นำสหภาพแรงงานบอสตัน ก่อนจะได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรี

 

แอนดี เลวิน ส.ส. รัฐมิชิแกน

– เป็นที่นิยมในฐานะ ส.ส. หัวก้าวหน้า และเติบโตทางการเมืองด้วยฐานเสียงสนับสนุนจากผู้นำแรงงานหลายกลุ่ม

– มีบทบาทการจัดการในกลุ่มสหภาพแรงงาน

– ได้รับความน่าเชื่อถือในฐานะนักเคลื่อนไหวด้านสภาพภูมิอากาศ จากการช่วยผลักดันโครงการ Green Jobs Initiative หรือการจ้างงานที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

  1. รัฐมนตรีกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์

 

วิเวก เมอร์ธี

– แพทย์อายุรศาสตร์

– ประธานร่วมในคณะกรรมการที่ปรึกษาโควิด-19 ของไบเดน

– อดีตเจ้ากรมแพทย์ทหารยุครัฐบาลโอบามา แต่ลาออกในปี 2017 หลังจากการร้องขอของรัฐบาลทรัมป์

 

  1. รัฐมนตรีกระทรวงการเคหะและพัฒนาเมืองสหรัฐฯ

 

ไคชา แลนซ์ บอตทอมส์ นายกเทศมนตรีแอตแลนตา

– นายกเทศมนตรีแอตแลนตา และดาวรุ่งของพรรคเดโมแครต

– เป็นที่จับตามองจากทั่วประเทศ หลังจากที่ออกมาประณามการก่อจลาจลในแอตแลนตา ภายหลังการประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมให้ จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีที่เสียชีวิตในมินนิแอโปลิส จากการถูกตำรวจใช้เข่ากดคอ

– อดีตผู้พิพากษาและสมาชิกสภาเมือง

– เคยได้รับการพิจารณาเป็นคู่ชิงรองประธานาธิบดีสหรํฐฯ คู่กับไบเดน

 

  1. รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ

 

แรนดี ไวน์การ์เทน

– ประธานสหพันธ์ครูอเมริกัน

– สมาชิกสหพันธ์สหภาพแรงงาน AFL-CIO

– มีบทบาทผลักดันการปฏิรูปการศึกษา

– อดีตประธานสหพันธ์ครู

– อดีตกรรมาธิการปฏิรูปการศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนจาก แอนดรูว์ คัวโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก

– อดีตประธานคณะกรรมการแรงงานเทศบาลนครนิวยอร์ก

 

  1. ผู้อำนวยการสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม

 

เจย์ อินส์ลี

– ผู้ว่าการรัฐวอชิงตัน

– อดีต ส.ส. รัฐวอชิงตัน ของพรรคเดโมแครต

– ลงสมัครชิงตัวแทนพรรคเดโมแครตสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2020

– อุทิศตนแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญหาสิ่งแวดล้อม และชูนโยบายสิ่งแวดล้อมเป็นนโยบายหลักในการหาเสียง

– เคยทำหน้าที่คณะกรรมาธิการด้านพลังงานและการพาณิชย์ และคณะกรรมาธิการด้านพลังงานและภาวะโลกร้อน ของสภาผู้แทนราษฎร 

 

  1. ทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ

 

พีต บุตติเจจ 

– อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเซาท์เบนด์ รัฐอินดีแอนา

– ลงสมัครชิงตัวแทนพรรคเดโมแครตสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2020 เป็นผู้สมัครอายุน้อยที่สุด และเป็นชาว LGBTQ คนแรกที่ประกาศตัวชิงตำแหน่งประธานาธิบดี

– ทลายกำแพงด้วยการเป็นผู้สมัครเกย์คนแรกที่เอาชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรคเดโมแครตที่รัฐไอโอวาและนิวแฮมป์เชียร์

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X