Heineken ยุติความร่วมมือกับ Kirin ของญี่ปุ่น หลังทำการค้าร่วมกันมาเกือบ 4 ทศวรรษ พร้อมเปลี่ยนชื่อหน่วยธุรกิจเป็น Heineken Japan เตรียมกระจายสินค้าเอง เดินหน้ากลยุทธ์เพิ่มยอดขายเบียร์ พร้อมปรับเป้าทำรายได้-กำไร ปี 2023 โตแบบยั่งยืน
สำหรับ Heineken เตรียมเปลี่ยนชื่อหน่วยกิจการร่วมค้า ภายใต้บริษัทในเครือ ในนามชื่อ Heineken Kirin เปลี่ยนเป็น Heineken Japan ในเดือนเมษายน 2023 Heineken จะถือสัดส่วน 51% ของกิจการร่วมค้า ขณะที่ Kirin เป็นเจ้าของส่วนที่เหลือ
ทั้งนี้ ภายใต้การร่วมทุนกันของทั้ง 2 ค่าย เริ่มมาตั้งแต่ปี 1984 โดย Kirin ทำหน้าที่จัดการการขาย Heineken แบบกระป๋องและบรรจุขวด เพื่อกระจายไปสู่ตลาดผู้บริโภค แต่หลังจากนี้ Heineken จะสานต่อการจัดจำหน่ายในญี่ปุ่นเอง หลังกิจการร่วมค้ายุติลง คาดว่าจะเริ่มในต้นปี 2023
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- หวั่นต้นทุน-ภาษีทำตลาดสะดุด ‘ไฮเนเก้น’ ค้านรัฐรีดภาษีเบียร์ไร้แอลกอฮอล์เพิ่ม เผยต้นทุนยังพุ่งไม่หยุด อาจเล็งปรับราคาเพิ่มอีกรอบ
- ถึงตลาดมีมูลค่า 5.4 แสนล้านก็ไม่อยู่! Carlsberg และ Heineken แท็กมือกันประกาศ ‘ขายธุรกิจ’ เพื่อถอดตัวออกจากรัสเซีย
- ‘ไทยเบฟ’ เปิดศึกชิงเบอร์ 1 ตลาดเบียร์ ส่ง ‘ช้าง อันพาสเจอไรซ์’ ขายในเชียงใหม่-เชียงรายเป็นแห่งแรก เขย่าตลาดเบียร์พรีเมียมครั้งแรกในไทย
โดย Kirin จะยังคงทำธุรกิจผลิตเบียร์ และจำหน่ายให้กับลูกค้าเชิงพาณิชย์ในญี่ปุ่นต่อไปหลังจากการเลิกกิจการ
หากย้อนกลับไปในปีที่ผ่านมา Heineken จำหน่ายผลิตภัณฑ์เบียร์ในญี่ปุ่นได้ 690,000 ลัง โดยปริมาณการขายกว่า 70-80% หลักๆ มาจากความสามารถของ Kirin ล้วนๆ
ต่อจากนี้ ต้องมาดูฝีมือ Heineken ว่าจะสามารถปรับกลยุทธ์ และวางแผนการตลาดเชื่อมความสัมพันธ์กับร้านค้า เพื่อมุ่งเพิ่มยอดขายเบียร์ให้เติบโตได้หรือไม่
ด้าน Dolf van den Brink CEO Heineken เคยกล่าวไว้ว่า ภาพรวมผลประกอบการในครึ่งปีแรกของปี 2022 มีรายได้เติบโตขึ้น 24.3% หรืออยู่ที่ 16,401 ล้านบาท ถ้าเทียบกับปี 2021 อยู่ที่ 11,970 ล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวในเอเชีย-แปซิฟิกและการค้าในยุโรป หลังโควิดคลี่คลายหลายคนเริ่มออกมาทำกิจกรรม และเริ่มเข้ามาใช้บริการที่ร้านอาหารและผับบาร์มากขึ้น
แต่อีกด้านยังมีแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่มีผลต่อการจับจ่ายของผู้บริโภค จึงต้องบริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเข้าชดเชยแรงกดดันของเงินเฟ้อที่มีนัยสำคัญต่อฐานต้นทุนของบริษัท
อย่างไรก็ตาม เรายังคงเผชิญกับภาวะความไม่แน่นอนรอบด้าน จึงต้องดำเนินงานแบบระมัดระวัง และในปี 2023 เราจึงปรับเป้าหมายที่ก่อนหน้านี้จะโฟกัสเรื่องกำไรเพียงอย่างเดียว ไปสู่การสร้างการเติบโตทั้งในแง่ของรายได้และกำไรแบบยั่งยืน
อ้างอิง: