ทางการญี่ปุ่นสั่งอพยพประชาชน 1.09 ล้านคนใน 2 จังหวัดของเกาะคิวชูเมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) หลังมีแนวโน้มว่าจะเกิดฝนตกหนักในวันเดียว คิดเป็นปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเกือบ 1 เดือนในวันนี้ โดยจังหวัดที่เผชิญอิทธิพลมรสุมหนักสุดคือ จังหวัดคาโกชิมะ ซึ่งมีการสั่งอพยพประชาชนทั้งหมดใน 3 เมือง เนื่องจากมีความวิตกว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในบางพื้นที่
รายงานระบุว่า เมืองซัตสึมะเซนได จังหวัดคาโกชิมะ มีปริมาณน้ำฝนสูงถึง 755.5 มิลลิเมตร เมื่อวานนี้ ขณะที่เมืองคาโกชิมะในจังหวัดเดียวกันมีปริมาณน้ำฝนสูงเป็นประวัติการณ์ โดยวัดได้ถึง 460 มิลลิเมตรใน 24 ชั่วโมง ส่วนเมืองคาโนยะวัดปริมาณน้ำฝนได้สูงถึง 81 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) เตือนว่า หลายพื้นที่ในจังหวัดดังกล่าว ซึ่งมีประชากรจำนวน 1.6 ล้านคน อาจเสี่ยงเผชิญกับอุทกภัยและดินถล่ม
ส่วนในวันนี้ เกาะคิวชูซึ่งมีประชากรอาศัย 13.3 ล้านคน มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยสูงกว่า 300 มิลลิเมตรในหลายพื้นที่ ซึ่งเกือบเท่าปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยตลอดทั้งเดือนกรกฎาคมที่ 319 มิลลิเมตร
มิตาโซโนะ ซาโตชิ ผู้ว่าการจังหวัดคาโกชิมะ เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทางจังหวัดได้ตัดสินใจขอให้กองกำลังป้องกันตนเองส่งทหารมาช่วยผู้ประสบภัย เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภัยพิบัติขั้นรุนแรง
โดยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีอาเบะ ชินโซ ได้ทวีตข้อความแจ้งว่า กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นได้ส่งเจ้าหน้าที่ 14,000 คน ไปให้ความช่วยเหลือประชาชนแล้ว
ทั้งนี้ ทางการระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย จากเหตุดินถล่มในเมืองคาโกชิมะเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ขอให้ประชาชนอพยพออกนอกพื้นที่เสี่ยง แต่จนถึงขณะนี้มีการประมาณการว่า มีประชาชนเพียง 1,700 คน จากกว่า 1 ล้านคน ที่อพยพไปยังที่ปลอดภัยตามคำแนะนำของทางการ
เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 200 ราย จากภัยพิบัติน้ำท่วมและดินถล่ม ซึ่งนับเป็นหนึ่งในภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในปี 2011
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: