×

รมว.สธ. เตือนประชาชน-กลุ่มเสี่ยง งดกิจกรรมกลางแจ้ง หลังค่าฝุ่น PM 2.5 สูงพบพื้นที่สีแดง 15 จังหวัด

โดย THE STANDARD TEAM
02.12.2025
  • LOADING...
รมว.สธ. เตือนประชาชน-กลุ่มเสี่ยง งดกิจกรรมกลางแจ้ง หลังค่าฝุ่น PM 2.5 สูงพบพื้นที่สีแดง 15 จังหวัด

วันนี้ (2 ธันวาคม) พัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปีต่อเนื่องจนถึงต้นปี ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA พบว่า ช่วงนี้ค่าฝุ่น PM 2.5 เริ่มสูงขึ้นในหลายพื้นที่ โดยตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 หลายจังหวัดมีค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ (มากกว่า 37.6 มคก./ลบ.ม.) และเพิ่มเป็นระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ (มากกว่า 75 มคก./ลบ.ม. ขึ้นไป) เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและอีก 4 จังหวัด

 

ล่าสุดเช้าวันนี้มี 15 จังหวัดที่ค่าฝุ่นอยู่ระดับสีแดง ได้แก่ สมุทรสาคร นนทบุรี นครปฐม กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ปทุมธานี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง ราชบุรี จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี สมุทรสงคราม และเพชรบุรี

 

ทั้งนี้ ค่าฝุ่นรายชั่วโมงของกรุงเทพมหานคร สูงสุดอยู่ที่เขตหนองแขม 102.5 มคก./ลบ.ม. และยังมีอีก 25 จังหวัดที่ค่าฝุ่นสูงในระดับสีส้ม จึงขอให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ที่อาจเจ็บป่วยหรือได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากฝุ่น PM 2.5 รุนแรงกว่าประชาชนทั่วไป ตรวจสอบคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ผ่านแอปพลิเคชัน Air4Thai, AirBKK, Life D หรือ เช็คฝุ่น และปฏิบัติตนตามคำแนะนำตามค่าสีฝุ่น

 

พัฒนากล่าวต่อว่า การปฏิบัติตัวเมื่อค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีส้ม กลุ่มเสี่ยงให้จำกัดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก, หากจำเป็นต้องออกนอกอาคารให้สวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นทุกครั้ง, สังเกตอาการผิดปกติ โดยประเมินอาการและรับคำแนะนำเบื้องต้นผ่าน 4HealthPM2.5 หรือคลินิกมลพิษออนไลน์

 

หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์, อยู่ในอาคารหรือห้องปลอดฝุ่น, ผู้ที่มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็น และลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่นในบ้าน แต่หากค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีแดง ขอให้ประชาชนทุกคนงดกิจกรรมกลางแจ้ง

 

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์ ได้แก่

 

1.การสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ โดยติดตามสถานการณ์และประชาสัมพันธ์เชิงรุก เน้นการสื่อสารและแจ้งเตือนผ่านระบบดิจิทัล เช่น Platform หมอพร้อม, SMART อสม.

 

2.การลดและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง โดยเฝ้าระวังและติดตามผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจาก PM2.5 จัดทำห้องปลอดฝุ่นในสถานบริการและพื้นที่เสี่ยง และสนับสนุน ‘มุ้งสู้ฝุ่น’ รวมถึงพิจารณาใช้มาตรการ Work From Home สำหรับกลุ่มเปราะบางเมื่อค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

 

3.การจัดบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยขยายเครือข่ายบริการดูแลสุขภาพให้ครอบคลุม ทั้งคลินิกมลพิษทางอากาศ คลินิกเวชกรรมสิ่งแวดล้อม ให้คำปรึกษาคลินิกมลพิษออนไลน์ จัดระบบนัดหมายคลินิกมลพิษผ่านระบบหมอพร้อม และจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่/ทีมปฏิบัติการดูแลสุขภาพกลุ่มเปราะบาง เช่น ชุมชน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานดูแลผู้สูงอายุ โรงเรียนประจำ เป็นต้น

 

และ 4.เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ โดยหากสถานการณ์รุนแรงให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินในทุกระดับ และส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ใช้ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ในการควบคุมต้นกำเนิดฝุ่น

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising