สารคดี Not So Pretty ของ HBO Max ที่ว่าด้วยเรื่องสุดอินไซด์ของอุตสาหกรรมความงามที่มักจะมีจุดอ่อนและด้านมืดมานำเสนอได้อย่างน่าสนใจ โดยให้ความรู้เกี่ยวกับสารเคมีบางชนิดที่แฝงตัวอยู่ในครีมบำรุงผิวของเรา น้ำหอมกลิ่นโปรด รวมถึงทรีตเมนต์ผม และยาทาเล็บ ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงมากมาย รวมถึงเป็นอันตรายต่อความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์และระบบทางเดินหายใจด้วย ในสารคดีนี้มีการตระเวนสัมภาษณ์นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญมากมาย ซึ่งชี้ให้ผู้คนตระหนักถึงอันตรายที่แอบแฝงอยู่ในเครื่องสำอางมากขึ้น
บรรดานักวิจัยด้านสุขภาพสิ่งแวดล้อม นักธรณีวิทยา และนักระบาดวิทยา ที่ถูกสัมภาษณ์ในสารคดีนี้ ได้เปิดเผยถึงอีกด้านที่แบรนด์ความงามมักไม่สื่อสารออกมาตรงๆ ทำให้การชมสารคดี Not So Pretty ช่วยพาผู้ชมไปเปิดโลกอีกด้านของอุตสาหกรรมความงามในเวลา 30 นาทีในแต่ละตอน (มีทั้งหมด 4 ตอน) จะโฟกัสไปที่หมวดหมู่ความงามที่แตกต่างกัน เช่น เส้นผม เล็บ การแต่งหน้า และผิวหนัง โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญมาอธิบายและชี้ให้เห็นว่าเครื่องสำอางบางชนิด บางผลิตภัณฑ์ อาจเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยได้ ทั้งนี้ บนแพลตฟอร์ม TikTok มีฟีดแบ็กเป็นวิดีโอของผู้ชมที่ได้ดูสารคดีเรื่องนี้ และนำเครื่องสำอางของตัวเองออกมาทิ้ง จนกลายเป็นกระแสไวรัลอีกด้วย
Dr.Lucky Sekhon แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อและภาวะการมีบุตรยากของ Reproductive Medicine Associates หรือ RMA ในนิวยอร์ก กล่าวหลังจากได้ดูซีรีส์สารคดี Not So Pretty ว่า หลังจากดูแล้ว นี่ไม่ใช่การกลัวไปเอง แต่สารที่สามารถส่งผลกระทบกับต่อมไร้ท่อนั้นมีอยู่จริง เรามีการใช้ประโยชน์จากข้อเท็จจริงเหล่านี้ในทางการแพทย์ เพื่อรักษาปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น อย่างเช่น กรณีของ Johnson & Johnson ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนแรงที่น่าสนใจ ซึ่งมีการฟ้องร้องเกี่ยวกับคนกลุ่มหนึ่งที่ใช้แป้งฝุ่นแล้วเป็นมะเร็งรังไข่ แต่ขณะที่อีกหลายๆ คนก็ใช้แป้งมาทั้งชีวิตเหมือนกัน แต่กลับไม่มีปัญหาเลย บางครั้งสภาพแวดล้อมหรือความผิดปกติทางพันธุกรรมก็เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดปัญหาเหล่านั้นได้เหมือนกัน เธอจึงคิดว่ารายการนี้ช่วยให้เกิดการศึกษาและการตระหนักรู้ที่มากขึ้น ทำให้ผู้คนได้คิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาบริโภคหรือทาผลิตภัณฑ์ต่างๆ กับร่างกายของพวกเขา ซึ่งสิ่งที่เธอมักจะสื่อสารกับคนไข้ของเธออยู่เสมอคือ การหลีกเลี่ยงส่วนผสมอันตรายต่างๆ ที่สามารถอ่านตรวจสอบได้บนฉลากสินค้า เพื่อความปลอดภัยและความสบายใจในการใช้ผลิตภัณฑ์ให้ปลอดภัยต่อสุขภาพของตัวเอง
อ้างอิง: