เรียกได้ว่ามีข่าวที่ไม่ค่อยสู้ดีไม่เว้นแต่ละวันกันเลยทีเดียวสำหรับ H&M แบรนด์แฟชั่นยักษ์ใหญ่ของสวีเดน ที่ล่าสุดถูกตีข่าวว่าจะมีการปิดร้านทั้งสิ้น 30 สาขา และปลดพนักงานกว่า 1,000 คนในสเปน โดยให้เหตุผลว่ามาจากการดำเนินงานที่ซ้ำซ้อนกัน
การปิดดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในแผนงานของยักษ์แฟชั่นที่จะปิดร้านทั้งสิ้น 350 แห่ง จาก 5,000 แห่งทั่วโลกภายในปีนี้ โดย H&M Group กล่าวว่า กำลังอยู่ในระหว่างกระบวนการเปลี่ยนแปลงและการปรับโครงสร้างองค์กรระดับโลก พร้อมเสริมว่าอุตสาหกรรมค้าปลีกกำลังผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เนื่องจากการก้าวเข้ามาของเทคโนโลยีดิจิทัล
อ่านเพิ่มเติม : H&M เตรียมปิด 250 สาขาทั่วโลก หลังลูกค้าหันไปช้อปออนไลน์แทนเดินไปที่ร้าน
ตอนนี้ H&M ไม่ได้ประกาศปลดพนักงานในประเทศอื่นๆ ขณะที่ในสเปนนั้นจะถาม ‘ความสมัครใจ’ ก่อนเป็นอันดับแรก ในขณะเดียวกันพนักงานบางส่วนจะถูกย้ายไปทำงานยังสาขาอื่นๆ
ทิศทางดังกล่าวของ H&M ถูก The Spanish Workers’ Commissions วิจารณ์ว่า การปิดร้านดังกล่าวไม่ได้สัดส่วนโดยสิ้นเชิง และเป็นการปลดพนักงานออกอย่างไม่เป็นธรรม
“แม้ว่าเป็นเรื่องจริงที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่เป็นต้นเหตุให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงในพนักงาน แต่ก็ไม่ได้เป็นเหตุให้มีการเลิกจ้างคนกว่า 1,000 คน และการปิดร้านค้า 30 แห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาว่า H&M ได้รับประโยชน์จากมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาล”
H&M เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากรัฐบาลสเปน ในช่วงที่เกิดวิกฤตสุขภาพซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหาศาล โดยข้อแม้ของความช่วยเหลือนี้คือ บริษัทต่างๆ ถูกห้ามไม่ให้ปลดพนักงานเป็นเวลา 6 เดือนหลังจากสิ้นสุดโครงการ ซึ่งปัจจุบันมีกำหนดจะดำเนินการจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2021 แต่มีแนวโน้มที่จะขยายออกไป
แม้ตัว H&M จะเข้าข่าย แต่ยักษ์แฟชั่นก็ได้ตอบคำถามนี้ต่อ AFP ว่า ตัวเองนั้นไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อผูกพันในการรักษางานใดๆ
ทั้งนี้ กำไรสุทธิของ H&M ร่วงลง 10 เท่าในปี 2020 อันเป็นผลมาจากการระบาดของโรค แต่กระนั้นยอดขายออนไลน์ได้เติบโตก้าวกระโดดในปีที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้น 40% จากตัวเลขในปีก่อนหน้า และคิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของยอดขายรวมทั้งหมด
ภาพ: Jesus Merida / Getty Images
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
