×

กูรูมองปีนี้อาจไม่ใช่ปีแห่งการลงทุนในคริปโต มองกรณีเลวร้าย Bitcoin อาจร่วงเหลือ 20,000 ดอลลาร์

26.01.2022
  • LOADING...
Bitcoin

เอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ซิปเม็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยและดูดสภาพคล่องในระบบกลับที่ชัดเจนของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะส่งผลกระทบราคา Bitcoin ในปีนี้ยังมีโอกาสปรับตัวลงได้อีก เนื่องจากนักลงทุนโดยเฉพาะกลุ่มสถาบันที่ในปีที่ผ่านมาเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น จะเลือกทำกำไรและหันกลับไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า

 

“ช่วงปีที่ผ่านมา Bitcoin มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาก มีนักลงทุนสถาบันเข้ามาทำให้ความเชื่อมโยงเศรษฐกิจมหภาคมีมากขึ้น ทำให้การส่งสัญญาณของ Fed ย่อมมีผลกระทบ ซึ่งต่างจากในอดีต ตอนนี้ราคา Bitcoin หล่นลงมาเกือบ 50% แล้วจากจุดพีค ผมคิดว่าตลาดยังมีแนวโน้มจะซบเซาและราคายังมีโอกาสจะลงได้อีก” เอกลาภกล่าว

 

เอกลาภประเมินว่า แนวรับของ Bitcoin ในรอบนี้น่าจะอยู่ที่ระดับ 30,000 ดอลลาร์ต่อ 1 Bitcoin เนื่องจากเป็นระดับราคาต้นทุนที่บริษัทขนาดใหญ่ เช่น MicroStrategy, Tesla รวมถึงกองทุนหลายแห่งเข้ามาซื้อ ทำให้คาดว่าเมื่อราคาหล่นไปถึงจุดดังกล่าวน่าจะมีแรงซื้อกลับมาจากกองทุนเหล่านี้

 

“ในเชิงเทคนิค Bitcoin ยังไม่เคยหลุดเส้น 200 Weekly มาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ 13 ปี ซึ่งปัจจุบันเส้นนี้อยู่ที่ระดับ 20,000 ดอลลาร์ ในกรณีเลวร้ายที่ลงไปตรงนั้นแล้วไม่รีบาวด์กลับมา เราอาจจะได้เห็นอะไรที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน” เอกลาภกล่าว

 

ซีอีโอซิปเม็กซ์เชื่อว่าตลาดคริปโตในปีนี้น่าจะเข้าสู่ช่วงปรับฐาน หลังจากที่ปรับตัวขึ้นค่อนข้างมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา จึงไม่แนะนำให้นักลงทุนเข้าลงทุนแบบเต็มตัวในช่วงนี้ แต่ควรลงทุนแบบ DCA ไปเรื่อยๆ และเตรียมเงินสดติดเอาไว้บ้าง เพื่อรอโอกาสเข้าช้อนเวลาที่ราคาลงลึกมากๆ โดยเชื่อว่า Bitcoin มีโอกาสจะกลับมาเป็นขาขึ้นได้อีกครั้ง เมื่อภาพการดูแลเงินเฟ้อของ Fed และการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ในช่วงปลายปีชัดเจนมากขึ้น

 

ด้านสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย ประเมินว่า ราคา Bitcoin ที่ไหลลงเร็วในช่วงนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นผลจากการเทขายของนักลงทุนสถาบัน เนื่องจากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาสินทรัพย์เสี่ยงหลายประเภทซึ่งรวมถึง Bitcoin ต่างได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบอย่างมหาศาลของ Fed ดังนั้นเมื่อ Fed ปรับทิศนโยบาย สินทรัพย์เสี่ยงก็ย่อมถูกเทขายทำกำไรและกลับไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยขึ้น

 

“ผมมองว่าแนวรับแรกของ Bitcoin ในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 33,000-36,000 ดอลลาร์ เนื่องจากเป็นระดับต้นทุนของเหมืองขุดประมาณ 23% ในโลก บริษัทพวกนี้คงต้องคุยกันว่าถ้าปล่อยให้หลุดจากนี้การขุดจะไม่ทำกำไรแล้ว ในกรณีเลวร้ายหน่อยถ้า Fed ทำนโยบายแบบ Hawkish มาก ราคา Bitcoin อาจลงไปเหลือ 20,000 ดอลลาร์ เพราะดีมานด์จากนักลงทุนสถาบันจะหายไปเยอะมาก” สรพลกล่าว

 

สรพลกล่าวว่า การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น Bitcoin หรือหุ้น Nasdaq ปีนี้ ในภาพใหญ่นักลงทุนจะต้องติดตามมุมมองของ Fed ให้ดีว่าจะจบ Hawkish และเปลี่ยนเป็น Dovish เมื่อไร เพราะจะเป็นตัวชี้วัดโอกาสที่ผลตอบแทนจากสินทรัพย์เสี่ยงจะปรับตัวสูงขึ้น

 

“ในทางเศรษฐศาสตร์ ถ้าดูจากการฟื้นตัวของสหรัฐฯ ตอนนี้ Fed ยังไม่พร้อมจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 4-5 ครั้งต่อปี และลด QE เร็วขนาดนี้ แต่เขามีโจทย์ระยะสั้นที่ต้องดูแลเงินเฟ้อ และไบเดนต้องชนะการเลือกตั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายน ทำให้ต้องให้น้ำหนักกับเรื่องนี้ก่อน แต่ทันทีที่เงินเฟ้อคุมได้ ไบเดนชนะเลือกตั้ง Fed จะกลับลำมาอัดฉีดสภาพคล่องและหยุดการขึ้นดอกเบี้ยทันที เมื่อนั้นหุ้นจะกลับมา New High คริปโตจะฟื้นอย่างมีนัยสำคัญ” สรพลกล่าว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising