บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF เดินหน้าปั๊มรายได้เติบโตต่อเนื่อง คาดปีนี้รายได้ขยายตัว 50% จากการรับรู้รายได้ในโครงการที่เข้าลงทุนและซื้อกิจการในปีที่แล้ว ซึ่งจะสร้างรายได้ปีนี้เต็มปี รวมถึงการลงทุนในธุรกิจพลังงานเพิ่มในปีนี้อีกราว 3-4 หมื่นล้านบาท
ขณะเดียวกัน GULF เดินหน้ารุกธุรกิจพลังงานหมุนเวียน เพื่อสอดรับธีม Climate Change และ Zero Carbon ทั่วโลก โดยวางเป้าหมายระยะยาว ในปี 2573 จะมีสัดส่วนกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเป็น 30% ของกำลังการผลิตรวม โดยขั้นแรกในปี 2570 จะขยับสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนเป็น 5% ของกำลังการผลิตโดยรวมก่อน
ยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน GULF กล่าวว่า ปี 2564 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ 50% จากปีก่อนที่มีรายได้ 35,832 ล้านบาท โดยเติบโตจากการรับรู้รายได้จากกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นอีก 1,494 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นกำลังการผลิตจากโครงการที่เข้าลงทุนและซื้อกิจการในปี 2563 และเริ่มรับรู้รายได้บางส่วน โดยในปีนี้จะรับรู้รายได้เต็มปี
สำหรับในปีนี้กำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 7,900 เมกะวัตต์ จากปัจจุบัน 6,409 เมกะวัตต์ ขณะเดียวกันได้วางเป้าหมายกำลังการผลิตรวมเพิ่มเป็น 14,304 เมกะวัตต์ ภายในปี 2570 คิดเป็น CAGR 10.4%
ทั้งนี้ กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นนั้นจะมาจากธุรกิจพลังงานทั้ง 5 ธุรกิจหลักของ GULF ซึ่งประกอบด้วย โรงไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ โครงสร้างพื้นฐาน และแก๊ส โดยการเพิ่มกำลังการผลิตจะมาจากการต่อยอดโครงการเดิม และการเข้าลงทุนในโครงการใหม่ๆ ที่มีศักยภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ยุโรป อเมริกา ไต้หวัน ญี่ปุ่น และเวียดนาม
โดยงบลงทุนปี 2564 จัดสรรงบลงทุนไว้ 3-4 หมื่นล้านบาทสำหรับลงทุนในโครงการเดิม และควบรวมหรือเข้าซื้อกิจการ
สำหรับแผนระยะยาว GULF จะเพิ่มกำลังการผลิตจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 5% ในปี 2570 และเพิ่มเป็น 30% ในปี 2573 เนื่องจากตระหนักในปัญหาโลกร้อน และต้องการพัฒนาธุรกิจให้สอดรับกับธีม Climate Change และ Zero Carbon ซึ่งเป็น Magetrend ทั่วโลก ในเบื้องต้นวางงบประมาณในระยะ 10 ปี ราว 1 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
