×

Gulf Energy ‘เสือติดปีก’! หุ้นพุ่ง 52% ดัน ‘สารัชถ์’ รวยขึ้น 2.3 แสนล้านบาทใน 3 เดือน แซง ‘เจ้าสัวเจริญ’ ขึ้นแท่นเศรษฐีไทยอันดับ 1

12.10.2024
  • LOADING...

สารัชถ์ รัตนาวะดี เสริมความแข็งแกร่งในฐานะบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่พุ่งขึ้นเป็น 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (5.3 แสนล้านบาท) หลังจากเพิ่มขึ้นประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์ (2.3 แสนล้านบาท)ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ตามข้อมูลของ Bloomberg Billionaires Index

 

การเติบโตของทรัพย์สินครั้งนี้เป็นผลมาจากราคาหุ้นของ Gulf Energy ซึ่งเป็นบริษัทผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของไทยที่พุ่งขึ้น 52% ส่งผลให้สารัชถ์ติดอันดับ 1 ใน 5 ของบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในภาคพลังงานและไฟฟ้าของเอเชีย ร่วมกับ Mukesh Ambani และ Gautam Adani มหาเศรษฐีชาวอินเดีย

 

แผนการควบรวม Gulf Energy และ Intouch Holdings ซึ่งเป็นบริษัทที่ควบคุมผู้ให้บริการโทรคมนาคมอันดับ 2 ของไทย ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน เห็นได้จากการที่ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ลงมติเห็นชอบการควบรวมกิจการ และราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของสารัชถ์ ที่ไม่เพียงแต่ขยายอาณาจักรโรงไฟฟ้าไปยังยุโรปและสหรัฐอเมริกา แต่ยังกระจายการลงทุนไปยังธุรกิจอื่นๆ เช่น ท่าเรือน้ำลึก การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล และศูนย์ข้อมูล

 

“นักลงทุนบางส่วนมองว่า Gulf Energy เป็นเสือติดปีก ด้วยกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและศักยภาพในการเติบโตสู่ตลาดใหม่ๆ” Jitra Amornthum นักวิเคราะห์จาก Finansia Syrus Securities กล่าว “อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นอาจมากเกินไปเมื่อเทียบกับการพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงของราคาหุ้นล่าสุด”

 

เจ้าพ่อแห่ง Gulf Energy รวยแซงหน้า เจริญ สิริวัฒนภักดี วัย 80 ปี เจ้าพ่อธุรกิจเครื่องดื่มและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีทรัพย์สินสุทธิ 1.34 หมื่นล้านดอลลาร์ (4.44 แสนล้านบาท) ขึ้นเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของไทยในดัชนีมหาเศรษฐีของ Bloomberg เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม หลังจากมีการประกาศแผนควบรวมกิจการเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม

 

Gulf Energy ที่มีสารัชถ์เป็นผู้ก่อตั้งและถือหุ้นเกือบ 75% เป็นหุ้นที่มีผลตอบแทนดีเป็นอันดับ 2 ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ของกลุ่มบริษัทพลังงานทั่วโลกที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ จากข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg

 

ตามรายงานระบุว่า Gulf Energy และ Intouch Holdings มีกำหนดจะควบรวมกิจการในต้นปี 2025 โดยปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมกัน 1.07 ล้านล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทที่ควบรวมแล้วก้าวขึ้นเป็นบริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ แซงหน้ายักษ์ใหญ่ด้านพลังงานอย่าง ปตท. และท่าอากาศยานไทย โดยรองจาก Delta Electronics (Thailand) เท่านั้น

 

สารัชถ์กล่าวหลังการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมว่า “การควบรวมกิจการจะเปลี่ยนมุมมองของนักลงทุนที่มีต่อ Gulf Energy จากธุรกิจพลังงานแบบดั้งเดิมไปสู่บริษัทเทคโนโลยีที่มีศักยภาพมหาศาล นอกจากนี้ยังจะช่วยขยายงบดุลและมูลค่าตลาด ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพทางการเงินของเราสำหรับโครงการในอนาคต”

 

ปัจจุบันหุ้นของ Gulf Energy ซื้อขายที่ระดับ P/E มากกว่า 35 เท่า ซึ่งสูงกว่าบริษัทคู่แข่งระดับโลกส่วนใหญ่ ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg

 

อย่างไรก็ตาม การควบรวมกิจการกับ Intouch Holdings จะช่วยให้ Gulf Energy สามารถขยายธุรกิจไปสู่ตลาดใหม่ๆ และสร้าง Synergy ระหว่างธุรกิจพลังงานและโทรคมนาคม ซึ่งอาจเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเติบโตของบริษัทในอนาคต

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X