GSK หรือบริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในผู้นำด้านการค้นคว้าวิจัย พัฒนายาและวัคซีน ซึ่งยืนหยัดทำงานเคียงข้างวงการสาธารณสุขเสมอมา ได้มอบเงินจำนวนรวม 3 ล้านบาทให้ 6 โรงพยาบาล ได้แก่ ศิริราชมูลนิธิ, สถาบันบำราศนราดูร, โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า, โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่, โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา เพื่อสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์สู้โรคระบาดโควิด-19 และประกาศเจตนารมณ์สนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์อย่างเต็มกำลัง
“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ก่อให้เกิดความเสียหายและผลกระทบอย่างรุนแรงทั่วโลก GSK จะใช้ความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งทรัพยากรต่างๆ ทั่วโลกของบริษัทเพื่อสนับสนุนการทำงานของทุกภาคส่วนทั้งในระดับโลกและระดับประเทศ ในการค้นคว้าวิจัยพัฒนายาและวัคซีนเพื่อให้เราทุกคนผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปพร้อมกันอย่างปลอดภัย
“GSK ขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่อยู่แนวหน้าในการต่อสู้กับโรคนี้ทุกท่าน เราเชื่อว่าความร่วมมือในการแก้ปัญหาอย่างจริงจังจากทุกภาคส่วนจะช่วยให้ประเทศไทยผ่านวิกฤตโควิด-19 ได้ในเร็ววัน”
วิริยะ จงไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงเจตนารมณ์และความตั้งใจจริงของ GSK ทั้งในไทยและต่างประเทศที่จะร่วมต่อสู้กับวิกฤตการณ์โรคระบาดครั้งนี้อย่างสุดกำลังความสามารถ
นับตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่สร้างความเดือดร้อนไปทั่วโลก GSK ได้สนับสนุนรัฐบาลและหน่วยงานด้านสุขภาพของประเทศต่างๆ เพื่อร่วมหามาตรการรับมือวิกฤตโรคระบาดครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการมอบเงินสนับสนุนจำนวน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับกองทุน COVID-19 Solidarity Response Fund ของมูลนิธิองค์การสหประชาชาติและองค์การอนามัยโลกเพื่อการป้องกันและควบคุมโรค รวมทั้งร่วมดูแลปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ด้วยการมอบชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment – PPE)
และในฐานะที่เป็นองค์กรผู้เชี่ยวชาญการวิจัยพัฒนา และผลิตผลิตภัณฑ์นวัตกรรมด้านเวชภัณฑ์และวัคซีน GSK จึงพร้อมเป็นกองหนุนให้แก่บุคลากรสาธารณสุข ทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 พร้อมกับสนับสนุนสารเสริมฤทธิ์ของบริษัทให้กับองค์กรพันธมิตรเพื่อใช้ในการทดสอบและวิจัยยาชนิดใหม่และดำเนินการผลิตวัคซีนในปริมาณสูง โดยมีมาตรการให้บริษัทยาและสถาบันการศึกษาสามารถนำสารประกอบต่างๆ ที่บริษัทมีอยู่ไปทดสอบเพื่อพัฒนายารักษาโรคโควิด-19 ได้ และเปิดไฟเขียวให้องค์กรต่างๆ สามารถใช้ห้องปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาเฉพาะทางของบริษัทเพื่อวิจัยและทดลองเกี่ยวกับโควิด-19 อีกด้วย
นอกจากนี้ GSK ยังเผยโปรเจกต์ร่วมกับ เวียร์ ไบโอเทคโนโลยี อิงค์ ที่มีเทคโนโลยีโดดเด่นด้านแพลตฟอร์มโมโนโคลนอล แอนติบอดี้ (Monoclonal Antibody Platform Technology) ซึ่งช่วยในการกระตุ้นสารภูมิคุ้มกันที่มีอยู่เดิมและสารภูมิคุ้มกันใหม่ที่ต่อต้านไวรัส มาผสานกับความรู้ความเชี่ยวชาญของ GSK ในด้านการศึกษาการทำงานด้านจีโนมิกส์ หรือการถอดรหัสพันธุกรรมของเซลล์ โดยทาง GSK ได้ประกาศความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาแนวทางการรักษาและป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา สาเหตุของโรคโควิด-19 และยังมีแผนลงทุนซื้อหุ้นเวียร์ฯ มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้เข้าถึงและสามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปพัฒนาต่อได้อย่างเต็มที่ เบื้องต้นได้มีการระบุว่าจะใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และเทคโนโลยี CRISPR Screening ในการระบุสารประกอบที่ต่อต้านเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งพุ่งเป้าไปที่เซลล์ติดเชื้อ โดย GSK และเวียร์ฯ จะร่วมกันศึกษาวิจัยวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 และไวรัสโคโรนาชนิดอื่นๆ ในอนาคต
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์