×

‘จาระบี’ เสริมพลังให้อุตสาหกรรมน้ำตาลไทยติด Top 3 ของโลกได้อย่างไร

โดย THE STANDARD TEAM
20.10.2023
  • LOADING...

‘น้ำตาล’ เป็นส่วนประกอบสำคัญของอาหารแทบทุกชนิด ไม่ว่าจะอาหารคาวหรืออาหารหวาน ไม่ว่าจะอาหารไทยหรืออาหารชาติอื่นๆ ต่างล้วนแล้วแต่ต้องการน้ำตาลมาช่วยชูรสชาติให้กลมกล่อม

 

ปี 2565 ทั่วโลกมีการบริโภคน้ำตาลมากถึง 176 ล้านตัน และประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นรองแค่บราซิลและอินเดียเท่านั้น ท่ามกลางการบริโภคน้ำตาลทั่วโลกที่คาดว่าจะเติบโตยิ่งขึ้น อุตสาหกรรมน้ำตาลของไทยจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ

 

ทว่าโรงงานน้ำตาลของไทยนั้นต้องทำงานภายใต้ระยะเวลาที่จำกัด และเป็นช่วงเวลาที่ ‘เครื่องจักร’ จะทำงานหนักต่อเนื่องแทบไม่มีหยุดพัก เครื่องจักรจึงเปรียบเป็นหัวใจสำคัญที่ชี้ขาดได้ว่าผลผลิตจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้เครื่องจักรทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ราบรื่นไม่สะดุด มีชื่อเรียกว่า ‘จาระบี’

 

รู้จักอุตสาหกรรมน้ำตาลไทย

 

ปัจจัยที่ทำให้ไทยมีศักยภาพในการแข่งขันต่อตลาดโลกได้คือ วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตน้ำตาลอย่าง ‘อ้อย’ สามารถเพาะปลูกได้เกือบทั่วประเทศ แถมไทยยังมีแต้มต่อในด้านทำเลที่ตั้ง ซึ่งอยู่ในภูมิภาคเอเชียที่มีความต้องการบริโภคน้ำตาลสูง

 

 

แต่ก่อนจะกลายสภาพมาเป็นน้ำตาลที่เราใช้กันนั้น ต้องผ่านการแปรรูปอ้อยให้กลายเป็นน้ำตาลในโรงงานก่อน โดยปัจจุบันไทยมีโรงงานน้ำตาลทั้งหมด 57 โรงงาน

 

อย่างไรก็ตาม การผลิตน้ำตาลนั้นไม่ได้ทำกันตลอดทั้งปี และไม่สามารถอยู่ดีๆ ก็ทำได้ เนื่องจากอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลอยู่ภายใต้พระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ซึ่งกำหนดให้ ‘คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย’ ควบคุมพื้นที่ปลูกอ้อยและการเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานน้ำตาลทรายอย่างเคร่งครัดว่า แต่ละปีต้องผลิตน้ำตาลทรายเท่าไร เพื่อให้มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ และส่วนที่เหลือจึงจะอนุญาตให้ส่งออกได้

 

ที่สำคัญ คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายจะเป็นผู้กำหนดวันเริ่มต้นฤดูกาลหีบอ้อยเพื่อนำไปผลิตน้ำตาล ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน-เมษายนของทุกปี หรือมีระยะเวลาเพียง 4-5 เดือนเท่านั้น 

 

‘ฤดูกาลหีบอ้อย’ ทุกวินาทีมีค่า

 

ในกระบวนการผลิตน้ำตาล แต่ละโรงงานจะมีกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำที่คล้ายคลึงกัน 

 

เริ่มด้วยการปลูกและเก็บเกี่ยวอ้อย การลำเลียงอ้อย การหีบสกัดอ้อย การทำน้ำอ้อยใส การทำน้ำเชื่อม การปั่นและการตกผลึกน้ำตาล และกากอ้อยที่เหลือจะถูกนำไปผลิตไฟฟ้า จากกระบวนทั้งหมด ส่วนที่มีความสำคัญอย่างมากคือ ‘การหีบสกัดอ้อย’ เพราะเป็นสิ่งที่สามารถตัดสินใจได้เลยว่าผลผลิตที่ได้จะทำให้โรงงานน้ำตาลได้กำไรหรือขาดทุน  

 

 

ตามกระบวนการการผลิต อ้อยที่ผ่านการทุบ ฉีก สับจนเป็นเส้นฝอยละเอียดแล้ว จะถูกลำเลียงเข้าไปในเครื่องจักรที่เรียกว่า ‘ชุดลูกหีบ’ ที่จะช่วยสกัดน้ำอ้อยออกมา โดยในชุดลูกหีบจะประกอบไปด้วยลูกหีบ 4-5 ชุด ที่ทำงานต่อเนื่องตลอดฤดูหีบอ้อย 

 

ถ้าช่วงหีบอ้อยลูกหีบไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ หรือมีเหตุให้การเดินเครื่องต้องหยุดชะงัก นอกจากจะส่งผลกระทบต่อปริมาณผลผลิตที่ทำได้ โรงงานน้ำตาลอาจต้องเสียเงินค่าซ่อมเครื่องจักรที่สูงถึงหลักสิบล้านบาท และแน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตน้ำตาลของประเทศโดยรวมด้วยอีกทอดหนึ่ง

 

‘จาระบี’ ตัวช่วยให้เครื่องจักรลื่นไหล

 

สำหรับเครื่องจักรงานอุตสาหกรรมที่ต้องใช้รับแรงดันและแรงกระแทกเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เช่น ฟันเฟือง ลูกปืน แบริ่ง ข้อเหวี่ยง ข้อต่อ ฯลฯ ‘จาระบี’ นับเป็นสารหล่อลื่นที่ขาดไม่ได้เลย 

 

เพราะจาระบีไม่เพียงแค่ลดแรงเสียดทานหรือป้องกันพื้นผิวจากการกัดกร่อนเท่านั้น แต่จาระบีแต่ละประเภทยังมีคุณสมบัติการใช้งานที่ต่างกันออกไป เช่น ทนต่ออุณหภูมิสูง ทนน้ำ การยึดเกาะสูง ป้องกันการสึกหรอ ป้องกันการเกิดสนิม ฯลฯ 

 

ดังนั้นการเลือกใช้ประเภทจาระบีให้เหมาะสมกับลักษณะงานจึงช่วยให้เครื่องจักรทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ และช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานได้ยาวนานขึ้น ที่สำคัญคือ ความเสี่ยงของการใช้จาระบีคุณภาพไม่ดี มีโอกาสทำให้ลูกหีบพังลงได้เลย และจะสร้างความเสียหายหนักตามมา 

 

เมื่อเครื่องจักรเป็นหัวใจหลักในกระบวนการหีบสกัดอ้อย PTT Lubricants ที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 30 ปี ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์หล่อลื่น และผลิตภัณฑ์จาระบีแบริ่งลูกหีบออกมา เพื่อรองรับอุตสาหกรรมน้ำตาลโดยเฉพาะ 

 

 

หลังจากเริ่มวางจำหน่ายจาระบีแบริ่งลูกหีบเป็นครั้งในปี 2562 และปรับสูตรให้ตรงความต้องการของลูกค้าอยู่หลายครั้ง MOLY-PLEX SMR GREASE คือผลิตภัณฑ์จาระบีแบริ่งลูกหีบสูตรล่าสุดของ PTT Lubricants 

 

โดยเป็นจาระบีคุณภาพสูงที่ผลิตจากสบู่ลิเธียมคอมเพล็กซ์ และสารเคมีเพิ่มคุณภาพพิเศษที่สามารถทนความร้อนและรับแรงกดได้สูง รวมถึงทนต่อการชะล้างของน้ำ ความชื้น และกรดได้ดี ทั้งยังมีส่วนผสมของ Molybdenum Disulfide (MoS2) ที่ช่วยลดแรงเสียดทานของผิวโลหะ ทำให้การหล่อลื่นมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นด้วย จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในเกียร์เปิดขนาดใหญ่ที่มีความเร็วรอบช้า หรือเครื่องจักรกลต่างๆ ที่รับแรงกระแทก และทำงานหนัก เช่น แบริ่งลูกหีบ ที่ใช้ในโรงงานน้ำตาล

 

การดำเนินธุรกิจของโรงงานน้ำตาล ที่เครื่องจักรสำคัญต่อคุณภาพ

 

 

KI SUGAR GROUP บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำตาลอันดับต้นๆ ของไทย เป็นบริษัทหนึ่งที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ PTT Lubricants ทั้งน้ำมันเครื่องสำหรับรถยนต์ น้ำมันไฮดรอลิก น้ำมันเกียร์อุตสาหกรรม และจาระบี ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 แล้ว

 

KI SUGAR GROUP ก่อตั้งโดย ตระกูล เสถียรถิระกุล เมื่อปี 2508 โดยได้ก่อตั้งโรงงานน้ำตาลแห่งแรกของกลุ่มขึ้นที่จังหวัดชลบุรี ต่อมาในปี 2533 ทางกลุ่มได้ย้ายฐานการผลิตจากจังหวัดชลบุรีมาที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา และในปี 2546 บริษัท น้ำตาลสุรินทร์ จำกัด โรงงานน้ำตาลแห่งที่ 2 ของกลุ่มก็ได้ถูกก่อตั้งขึ้นที่อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์

 

 

ยงยุทธ เสถียรถิระกุล กรรมการผู้จัดการ KI GROUP บริษัท น้ำตาลสุรินทร์ จำกัด บอกเล่าประสบการณ์ว่า ช่วงแรกที่ย้ายฐานการผลิตจากจังหวัดชลบุรีมาที่อำเภอพิมาย ทางบริษัทต้องการให้โรงงานมีเครื่องจักรใหญ่ที่สุด โดยในช่วงปีแรกสามารถหีบอ้อยได้แค่ 500,000 ตัน ปีถัดมาเพิ่มขึ้นมาเป็น 800,000 ตัน จนผลิตได้ 2.2 ล้านตันในปีที่ 3 ปัจจุบันชุดลูกหีบของโรงงานมีกำลังผลิตถึง 30,000 ตันต่อวัน 

 

ในอดีตโรงงานใช้น้ำมันดำในการหล่อลื่นลูกหีบ และด้วยข้อเสียที่เลอะเทอะเปรอะเปื้อนได้ง่าย ภายหลังจึงเปลี่ยนมาใช้จาระบีแทน ข้อดีอย่างหนึ่งของการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ PTT Lubricants คือ ระหว่างการใช้งาน หากทางโรงงานมีข้อเสนอแนะอะไร ทางทีมวิศวกรเทคนิคจะรับไปพิจารณา พร้อมปรับสูตรและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพดีขึ้นตามความต้องการ จึงเกิดความเชื่อมั่นต่อ PTT Lubricants และไว้วางใจในการพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำตาลร่วมกัน

 

ตลอดการดำเนินธุรกิจมากว่า 50 ปี KI SUGAR GROUP เล็งเห็นความสำคัญในระบบการจัดการด้านการเกษตร เพื่อให้ได้ผลผลิตอ้อยที่ดีเข้าสู่โรงงาน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพอ้อยคุณภาพของเกษตรกร มีหน่วยงานวิจัย และนักส่งเสริมที่คอยลงพื้นที่ดูแลวิธีการปลูกของเกษตรกร ตลอดจนพัฒนาคุณภาพของเครื่องมือ อุปกรณ์ในการทำไร่อ้อย เพื่อให้ได้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ก่อนจะนำมาผ่านกระบวนการผลิตด้วยเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ทันสมัย จนได้น้ำตาลทรายคุณภาพดีได้มาตรฐาน ตรงตามความต้องการของลูกค้า

 

 

ยงยุทธมองว่าอุตสาหกรรมน้ำตาลยังมีการเติบโตอยู่ เนื่องจากประชากรโลกยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่มีแผนที่จะเพิ่มกำลังผลิต เนื่องจากปัจจุบันมีกำลังผลิตเพียงพอต่อปริมาณอ้อยที่มีอยู่ โดยปีที่มีผลผลิตมากที่สุด 130 ล้านตัน ปีนั้นมีการหีบอ้อยยาวไปจนถึงเดือนพฤษภาคม จากปกติที่จะหีบอ้อยถึงแค่เดือนเมษายนเท่านั้น อีกทั้งปริมาณของอ้อยในบางปีก็ไม่สามารถจะปลูกไปได้มากกว่านี้ได้แล้ว 

 

 

ทางด้าน พัฒน์ เสถียรถิระกุล ผู้บริหาร PROUD Sugar ผลิตภัณฑ์ในเครือ KI SUGAR GROUP ที่มีแนวคิดและความตั้งใจจะพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำตาลคุณภาพสูงเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้บริโภคยุคใหม่ในปัจจุบัน ร่วมแลกเปลี่ยนว่า จุดเริ่มต้นของ PROUD Sugar เกิดขึ้นเมื่อ 6 ปีก่อน ขณะนั้นโรงงานน้ำตาลมีกำลังผลิตเยอะขึ้น ทาง KI SUGAR GROUP จึงเห็นควรผลิตสินค้าแบบ 1 กิโลกรัม เพื่อเพิ่มความหลากหลายในผลิตภัณฑ์ และให้เหมาะกับการใช้งานของผู้บริโภค โดยวางจำหน่ายในห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ด้วยการสื่อสารของแบรนด์ที่เข้าใจง่าย ตรงประเด็น ตัวสินค้าที่มีคุณภาพ ทำให้ PROUD Sugar ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค และทำให้คนรู้จัก KI SUGAR GROUP เพิ่มขึ้น

 

 

ทาง KI SUGAR GROUP ต้องการพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์น้ำตาลให้ดียิ่งขึ้น จึงได้ศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ไลฟ์สไตล์ และสร้างความแตกต่างจากน้ำตาลชนิดขวดที่มีวางจำหน่ายในท้องตลาด จนออกมาเป็น PROUD Crystal Clear Sugar น้ำตาลพราวชนิดขวด ออกแบบบรรจุภัณฑ์ภายใต้การคำนึงถึงคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ มีความสะดวกต่อการใช้งาน และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยได้คิดค้นหัวจ่ายที่ตวงปริมาณน้ำตาลได้ เพื่อให้มาพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์น้ำตาลให้ดีขึ้นไปอีกขั้น 

 

 

จากการศึกษาวิจัยอย่างจริงจังพบว่า การใช้น้ำตาลซองของผู้ใช้ส่วนใหญ่ใช้น้ำตาลไม่หมดซอง มีน้ำตาลเหลือตกค้าง ถือเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง และการบริโภคน้ำตาลทรายในปริมาณที่มากเกินความจำเป็นส่งผลเสียต่อสุขภาพและร่างกาย หัวจ่ายน้ำตาลทรายระบบตวงปริมาตรจะช่วยให้การเทน้ำตาลในแต่ละครั้งทำได้ในปริมาณที่พอดีและเหมาะสม  

 

นอกจากบรรจุภัณฑ์ PROUD Sugar ยังมีความโดดเด่นเรื่องคุณภาพของน้ำตาล โดยมีน้ำตาลทรายชนิดพิเศษ ขาวบริสุทธิ์พิเศษ ที่มีค่า ICUMSA 9 หรือมีค่าสีบริสุทธิ์สูงสุด และสามารถละลายน้ำได้ง่าย ด้วยเหตุนี้เชฟรุ่นใหม่หลายคนจึงเริ่มเจาะจงเลือกน้ำตาลที่มีค่า ICUMSA 9 มากขึ้น

 

พัฒน์กล่าวว่า เมื่อพูดถึงหัวใจของโรงงานน้ำตาล สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ‘คุณภาพ’ เราให้ความใส่ใจตั้งแต่การคัดสรรอ้อยพันธุ์ดี มาตรฐานในการผลิต รวมถึงนวัตกรรมที่ใส่ใจผู้บริโภค สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ PROUD Sugar ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคในทิศทางที่ดีมากขึ้นตามลำดับ 

 

ในปีหน้า PROUD Sugar กำลังเตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จำเป็นต้องทบทวนขั้นตอนในการผลิตใหม่ โดยอาจต้องมีการแยกชุดลูกหีบเฉพาะ ดังนั้นผลิตภัณฑ์ของ PTT Lubricants จะเข้าไปมีบทบาทต่างๆ ในการดูแลเครื่องจักรของ PROUD Sugar เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงตามความต้องการของแบรนด์ด้วย 

 

PTT Lubricants มากกว่าผลิตภัณฑ์ คือบริการที่ใส่ใจทุกขั้นตอน

 

ไม่เพียงแค่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ PTT Lubricants ตระหนักดีถึงความสำคัญของความพร้อมของเครื่องจักร 

 

ภายใต้กรอบระยะเวลาแค่ 4-5 เดือนในฤดูหีบ ทั้งยังมีการแข่งขันกับโรงงานน้ำตาลอื่นๆ อีก 50 กว่าแห่งที่เดินเครื่องในช่วงเวลาเดียวกัน การทำให้เครื่องจักรทำงานได้อย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด จึงนับว่า ‘มีชัยไปกว่าครึ่ง’ หรืออาจพลิกชนะคู่แข่งได้เลย 

 

ดังนั้นนอกจากตัวผลิตภัณฑ์หล่อลื่นคุณภาพดีที่ไว้วางใจได้และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน PTT Lubricants ยังมีบริการ PTT Lubricants Solutions ที่เสริมความมั่นใจให้ลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมน้ำตาล ตั้งแต่ก่อนการเปิดฤดูหีบจนถึงหลังจบฤดูหีบ 

 

ก่อนการเปิดฤดูหีบ PTT Lubricants Solutions จะช่วยออกแบบและติดตั้งระบบจ่ายจาระบีสำหรับชุดลูกหีบ, ตรวจสอบระบบการจ่ายจาระบีให้พร้อมก่อนเปิดฤดูหีบด้วยทีมงานผู้ชำนาญการ, ให้คำปรึกษาเรื่องผลิตภัณฑ์หล่อลื่นและการใช้งานสารหล่อลื่นที่เหมาะสม โดยทีมวิศวกรเทคนิคที่มีความเชี่ยวชาญ ตลอดจนสนับสนุนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หล่อลื่นและข้อมูลเชิงเทคนิค 

 

ส่วนในช่วงระหว่างฤดูหีบนั้น ทาง PTT Lubricants Solutions มีบริการช่วยตรวจสอบการทำงานอุปกรณ์ชุดลูกหีบจากการใช้งานผลิตภัณฑ์จาระบี เช่น ติดตามการผลใช้งานจาระบีและค่าความร้อนของแบริ่งลูกหีบตลอดเวลาการหีบด้วย ‘Sugar Man’ ผู้พร้อมให้ความช่วยเหลือในเวลาฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง

 

สุดท้ายช่วงปิดหีบ ทาง PTT Lubricants Solutions จะดูแลผู้ประกอบการด้วยการวิเคราะห์สภาพน้ำมันที่ผ่านการใช้งานแล้วตลอดฤดูหีบ ทั้งในฝั่งโรงงานอุตสาหกรรม เช่น น้ำมันไฮดรอลิก น้ำมันเกียร์ น้ำมันเทอร์ไบน์ รวมไปถึงฝ่ายไร่อ้อย ที่มีการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อเก็บเกี่ยวผลิตผลทางการเกษตร เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันส่งกำลัง 

 

ผลจากการวิเคราะห์สภาพน้ำมันนี้ สามารถหาระยะเวลาที่เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อช่วยลดต้นทุนการเปลี่ยนถ่ายและซ่อมบำรุงได้ อีกทั้ง PTT Lubricants Solutions ยังมีการจัดอบรมให้ความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์การบำรุงรักษาเครื่องจักรกลทั้งฝ่ายไร่และโรงงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุดอีกด้วย

 

อุตสาหกรรมน้ำตาลสามารถทำรายได้เข้าประเทศมากถึง 2 แสนล้านบาทต่อปี และเกี่ยวข้องเกษตรกรนับ 4 แสนครัวเรือน ทั้งหมดนี้ต่างต้องพึ่งพิงเครื่องจักรที่เชื่อมั่นได้ว่าจะเดินเครื่องได้เต็มกำลังความสามารถ เพื่อช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนมหาศาลที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้ให้เดินหน้าได้ต่อเนื่อง 

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X