สุดสัปดาห์นี้ ศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบเก็บคะแนนสะสมชิงแชมป์โลก หรือ MotoGP เดินทางมาถึงสนามสุดท้ายของฤดูกาลแล้ว
โดยสนามนี้จะเป็นสนามตัดสินแชมป์โลกระหว่าง ฟรานเชสโก ‘เป็กโก’ บัญญายา ยอดนักบิดชาวอิตาลีจากทีมดูคาติ เลโนโว กับ ฆอร์เก มาร์ติน ยอดนักบิดจากสเปนแห่งทีมพรีมา พราแมค เรซซิง หลังทั้งคู่ขับเคี่ยวกันมายาวนานตลอดฤดูกาลนี้
โดยปัจจุบันมาร์ตินมีคะแนนเป็นอันดับ 1 ในตารางคะแนนที่ 485 คะแนน และเป็กโกตามมาที่ 461 คะแนน ซึ่งต่างจากฤดูกาลก่อนที่นักบิดอิตาลีเดินเข้าสู่สนามสุดท้ายโดยเป็นผู้นำ แต่ในปีนี้เขาเป็นผู้ตาม
แม้การแข่งขันสุดสัปดาห์นี้จะแข่งขันในวันเดิม คือแข่งขันเมนเรซในวันที่ 17 พฤศจิกายน แต่มีการเปลี่ยนแปลงสนามการแข่งขันจากกำหนดการเดิม
โดยนี่เป็นอีกครั้งที่การตัดสินแชมป์โลกจะเกิดขึ้นในสนามสุดท้ายของการแข่งขัน หลังจากที่ปีก่อนก็มีเหตุการณ์คล้ายๆ กันเกิดขึ้นมาแล้ว
และนี่คือภาพรวมก่อนการแข่งขันสนามสุดท้ายของฤดูกาล 2024 ในศึก MotoGP ฤดูกาลนี้
จากบาเลนเซียมาบาร์เซโลนา
เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ทางตะวันออกของประเทศสเปน ส่งผลกระทบหนักในแคว้นบาเลนเซีย โดยเฉพาะในเมืองบาเลนเซีย ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 200 คน
เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ชาวสเปนทั้งประเทศ และรวมไปถึงการแข่งขัน MotoGP ที่เดิมจะต้องแข่งขันที่เซอร์กิต ริคาร์โด ทอร์โม ในเมืองบาเลนเซียด้วย
โดยก่อน MotoGP แข่งขันสนามรองสุดท้ายในศึกมาเลเซียนกรังด์ปรีซ์ ก็มีการยืนยันว่าการแข่งขันที่บาเลนเซียจะถูกยกเลิก และจะมีการแข่งขันสนามอื่นมาแทน แต่ในตอนนั้นยังไม่ยืนยันว่าจะใช้สนามไหน
จนในวันที่ 5 พฤศจิกายน MotoGP ก็ยืนยันว่าบาร์เซโลนาจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน MotoGP สนามสุดท้ายแทนบาเลนเซียที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
โดย MotoGP ออกแถลงการณ์ระบุว่า “MotoGP ยืนยันว่าการแข่งขัน MotoGP สนามสุดท้ายของปี 2024 จะจัดขึ้นที่บาร์เซโลนา
“เราจะกลับไปที่สนามเซอร์กิตเดอบาร์เซโลนา-กาตาลุญญา ซึ่งเป็นสถานที่ที่การแข่งขันชิงแชมป์โลกจะถูกตัดสินตามวันที่เดิมของการแข่งขันรอบสุดท้ายของฤดูกาลนี้ เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชุมชนชาวบาเลนเซีย”
ซึ่งฝ่ายจัดการแข่งขันก็เลือกใช้ชื่อเรซสุดท้ายของฤดูกาลนี้ว่า ‘Motul Solidarity Grand Prix of Barcelona’ เพื่อแสดงออกถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความร่วมแรงร่วมใจที่ต้องการให้ชาวสเปนผ่านภัยพิบัติครั้งนี้ไปให้ได้
สนามใหม่ ใครได้เปรียบ?
ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา MotoGP เคยจัดการแข่งขันที่สนามแห่งนี้มาแล้ว ในครั้งนั้นเป็นเป็กโกที่คว้าชัยเหนือมาร์ตินไปได้สำเร็จ โดยเฉือนไป 1.740 วินาทีเท่านั้น
แต่นั่นก็นับเป็นชัยชนะของดูคาติครั้งแรกในรอบ 6 ปีเลยทีเดียว เพราะครั้งก่อนหน้านั้นที่รถจากดูคาติคว้าชัยที่เซอร์กิตเดอบาร์เซโลนา-กาตาลุญญาได้ ต้องย้อนไปถึงปี 2018 ซึ่งตอนนั้นเป็น ฆอร์เก ลอเรนโซ ที่คว้าชัยให้ดูคาติได้
นั่นอาจเรียกได้ว่าสนามนี้ไม่ใช่สนามที่รถของดูคาติชอบมากนัก
นอกจากนี้ ความยากของสนามนี้ยังนับว่าขึ้นชื่อ โดยเฉพาะโค้งที่ 2 และโค้งที่ 5 ที่อาจทำให้นักบิดหลายๆ คนไหลออกจากแทร็กไปได้เช่นกัน โดยกลางปีที่ผ่านมาก็มีรถถึง 3 คนที่แข่งขันไม่จบในสนามนี้
และนั่นยังเป็นช่วงฤดูร้อนของสเปนด้วย แต่เรซที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้เป็นช่วงที่เริ่มเข้าฤดูหนาวในสเปนแล้ว ซึ่งส่งผลให้สนามนี้ปราบเซียนกว่าเดิม
พยากรณ์อากาศระบุว่า การแข่งขันที่บาร์เซโลนาในช่วงสุดสัปดาห์นี้ อุณหภูมิจะอยู่ที่เลขตัวเดียวราว 8-10 องศาเซลเซียส นอกจากจะทำให้นักแข่งหนาวแล้ว สิ่งที่ตามมาคือสนามที่ยากอยู่แล้วจะยิ่งยากกว่าเดิม
อากาศที่หนาวเย็นจะส่งผลให้พื้นถนนแข็งและยางก็จะไม่สามารถทำงานได้ดีเท่าที่ควรเหมือนเรซก่อนหน้าที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนของสเปน ทำให้มีโอกาสได้เห็นนักบิดที่แข่งขันไม่จบมากกว่าเดิม แต่ในทางตรงกันข้ามก็สามารถใช้พิสูจน์ฝีมือนักบิดได้อย่างดีเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แม้บัญญายาจะคว้าชัยมาได้ในการแข่งขันเมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้ และดูเหมือนเขาจะทำได้ดีกว่า แต่ต้องอย่าลืมว่าเรซนี้อย่างไรก็แข่งขันในสเปน บ้านของมาร์ติน และเสียงเชียร์จะต้องอยู่กับฝั่งเขาเป็นหลักอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ แม้เป็กโกจะจบที่ 1 ในสนามแห่งนี้เมื่อ 6 เดือนก่อน แต่ก็ต้องอย่าลืมว่ามาร์ตินก็จบที่ 2 เช่นกัน และถ้ามันออกหน้าเดิม แชมป์โลกในปีนี้ก็จะตกเป็นของนักบิดสเปนแทน
ภารกิจระดับ Mission Impossible
ความแตกต่างบนตารางคะแนน 24 แต้ม แม้จะดูไม่มากเกินไป เมื่อพิจารณาว่ามีคะแนนสูงสุดให้ชิงชัยกันถึง 37 คะแนน (12 คะแนน ในสปรินต์เรซ และ 25 คะแนนในเมนเรซ) ในการแข่งขัน 36 รอบสุดท้าย (12 รอบจากสปรินต์เรซ และอีก 24 รอบจากเมนเรซ) ที่มีคะแนนเป็นเดิมพัน
แต่ถึงอย่างนั้นในทางปฏิบัติพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ‘ยากมาก’ และอาจถึงขั้น ‘Mission Impossible’ เลยก็ได้สำหรับบัญญายา
ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าลำพังแค่รอบสปรินต์เรซในวันเสาร์ หากนักขับชาวสเปนทำอันดับให้มีคะแนนมากกว่าเป็กโกได้ 2 คะแนนเป็นอย่างน้อย เช่น มาร์ตินจบสปรินต์เรซอันดับ 1 แล้วเป็กโกจบอันดับ 2 หรือมาร์ตินจบสปรินต์เรซอันดับ 3 แล้วเป็กโกจบอันดับ 5
หากเงื่อนไขห่าง 2 คะแนนในรอบสปรินต์เรซเกิดขึ้นตั้งแต่วันเสาร์ การชิงแชมป์โลกในฤดูกาลนี้จะจบลงอย่างเป็นทางการด้วยการคว้าแชมป์โลกสมัยแรกของมาร์ตินทันที
และต่อให้บัญญายาทำผลงานสปรินต์เรซได้ในอันดับที่ 1 โดยที่มาร์ตินไม่มีแต้มเลย ช่องว่างก่อนการแข่งขันรอบเมนเรซก็ยังห่างถึง 12 คะแนน ซึ่งมาร์ตินก็ยังได้เปรียบอยู่ดี
นอกจากนี้ ในปีนี้มาร์ตินยังทำคะแนนได้น้อยกว่า 14 คะแนน จาก 37 คะแนนเต็มที่สามารถเก็บได้ใน 1 เรซ เพียงแค่ 3 สนามเท่านั้น
ขณะที่บัญญายาต้องทำคะแนนให้ได้มากกว่ามาร์ติน 24 คะแนน จาก 37 คะแนนใน 2 การชิงชัย นั่นคือสปรินต์เรซและเมนเรซ ทว่าในฤดูกาลนี้ ไม่มีสนามไหนเลยที่เขาสามารถเอาต์สกอร์มาร์ตินได้ในระดับช่องว่าง 24 คะแนน
และกลายเป็นมาร์ตินเองที่เคยเอาต์สกอร์เป็กโกมากกว่า 24 คะแนนถึง 2 ครั้งในปีนี้ โดยครั้งแรกเอาต์สกอร์ไป 26 คะแนนที่สนามปอร์ติเมาในโปรตุกีสกรังด์ปรีซ์ และอีกครั้งที่มอเตอร์แลนด์อารากอนในอารากอนกรังด์ปรีซ์ ซึ่งเอาต์สกอร์ไปถึง 28 คะแนน
แต่ใช่ว่าเส้นทางสู่แชมป์โลกสมัยที่ 3 ของบัญญายาจะไม่มีเลยเสียทีเดียว โดยหนทางที่เป็นไปได้มากที่สุดคือความผิดพลาดของมาร์ติน และมันต้องเกิดขึ้นถึง 2 ครั้งในสปรินต์เรซวันเสาร์ ต่อด้วยเมนเรซในวันอาทิตย์
ซึ่งนั่นยังคงเป็นไปได้อยู่ เพราะเมื่อพิจารณาเรื่องการขับขี่ในฤดูหนาว ประกอบกับความยากของสนามที่บาร์เซโลนาแล้ว เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้
และต้องอย่าลืมว่าในการแย่งแชมป์ปีก่อน มาร์ตินก็มอบแชมป์ให้กับเป็กโกในสนามสุดท้าย หลังจากที่เขาล้มจนต้องออกจากการแข่งขันไปเช่นกัน
นอกจากนี้ไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้ว
แม้การแข่งขันประเภทบุคคลจะดุเดือดอย่างมาก แต่การแข่งขันในประเภทอื่นๆ ของ MotoGP ไม่มีอะไรให้ลุ้นแล้ว
โดยในการแข่งขันประเภททีมผู้ผลิตรู้ผลไปตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจบศึกเอมิเลียโรมังญากรังด์ปรีซ์ โดยเป็นดูคาติที่คว้าชัยในประเภทนี้ไปเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน
ขณะที่ในประเภททีม ทีมโรงงานของดูคาติ หรือดูคาติ เลโนโว ก็ปิดจ๊อบคว้าแชมป์ประเภทนี้ไปครองหลังจบศึกกรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ ที่ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์
แต่ถึงอย่างนั้น การเหลือแชมป์สุดท้ายซึ่งเป็นแชมป์พระเอกอย่างแชมป์ประเภทบุคคลให้ลุ้นกันถึงสนามสุดท้ายก็ยังนับเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมสำหรับแฟนๆ
และนั่นทำให้ไม่ควรพลาดสนามสุดท้ายใน MotoGP ปีนี้ด้วยประการทั้งปวง
โดยแฟนๆ สามารถรับชมการถ่ายทอดสด MotoGP สนามสุดท้าย รายการ Motul Solidarity Grand Prix of Barcelona ได้ทาง PPTVHD ช่อง 36 ตั้งแต่เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป
อ้างอิง:
- https://formularapida.net/en/motogp-names-barcelona-finale-as-solidarity-gp-for-valencia/
- https://www.motogp.com/en/news/2024/11/08/un-avvincente-finale-di-2024-e-linizio-di-una-nuova-era/512911
- https://www.the-race.com/motogp/five-ways-motogp-final-round-change-affects-title-fight/
- https://www.foxsports.com.au/motorsport/moto-gp/a-change-and-a-curveball-three-key-questions-from-motogp-moving-its-season-finale/news-story/7d3c42bd7dc2a3b10b3c4a2d088a0184
- https://thestandard.co/motogp-barcelona-2024/
- https://www.motogp.com/en/calendar/2024/event/motul-solidarity-grand-prix-of-barcelona/2611da37-136f-490e-a314-8b61a9441357?tab=overview
- https://www.pptvhd36.com/sport/news/218720