แม้ว่าเปิดหน้าปฏิทินเดือนกันยายนขึ้นมาแล้วจะไม่มีวันหยุดยาว แถมฟ้าฝนยังไม่ค่อยเป็นใจต่อการเดินทาง แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคต่อการท่องเที่ยว เพราะทาง Grab ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย​ (ททท.) สนับสนุนสถานที่ท่องเที่ยวชุมชนให้ไปสะดวกขึ้นและง่ายขึ้น พร้อมชวนทุกคนไปเที่ยว 5 สถานที่ท่องเที่ยวชุมชนใกล้ตัว เรียนรู้วิถีชีวิตเก่าแก่ ผสานหลากวัฒนธรรม ภายในมหานครเมืองหลวงของเรา

 

ทั้ง 5 ชุมชนที่เราหยิบยกมาแนะนำกันในบทความนี้ จัดว่าเป็น Hidden Gems ไม่ใช่แค่เพราะความล้ำค่าทางวัฒนธรรมที่มี แต่ยังรวมถึงการซ่อนตัวอยู่อย่างลึกลับชนิดที่จะไปทั้งทีต้องวางแผนเดินทางอย่างดี และแน่นอนว่าความยุ่งยากเหล่านี้กำลังจะหมดไป! ด้วยแคมเปญล่าสุดจาก Grab ที่อาสาพาคุณเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวแบบโลคัลชั้นเยี่ยมได้ฟรีๆ

 

ลืมภาพความวุ่นวายในการเดินทางทั้งหมด เตรียมเมโมรีกล้องให้พร้อม หยิบมือถือมาเปิดแอปฯ Grab แล้วออกเดินทางด้วยกันได้เลย

 

ชุมชนกุฎีจีน – Kudichin Community

ย่านชุมชนเก่าแก่ของชาวไทยเชื้อสายโปรตุเกสของฝั่งธนบุรีที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่การอพยพมาจากกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่ พ.ศ. 2310 โดดเด่นในความหลากหลายด้านวิถีชีวิต ศาสนา และวัฒนธรรม ภายในย่านชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้เป็นที่ตั้งศาสนสถานที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น โบสถ์ซางตาครู้ส (วัดกุฎีจีน) โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบเรเนสซองส์ผสมนีโอคลาสสิก ศาลเจ้าเกียนอันเกง (ศาลเจ้าแม่กวนอิม) ศาลของชาวจีนฮกเกี้ยนที่คงความเก่าแก่ของสถาปัตยกรรมจีนแท้ด้วยไม้เครื่องแกะสลัก ภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบดั้งเดิม และการมุงด้วยกระเบื้องโค้ง และพุทธศาสนสถานใกล้ชุมชนอย่าง วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร

 

 

นอกจากนี้ชุมชนกุฎีจีนเป็นถิ่นกำเนิดของ ขนมฝรั่งกุฎีจีน โดยดัดแปลงมาจากขนมหลายชนิดของโปรตุเกสจากตำรับของท้าวทองกีบม้า ในปัจจุบันสามารถหาซื้อขนมตำรับดั้งเดิมได้จากร้านขนมในชุมชน และสำหรับผู้สนใจเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชาวไทยเชื้อสายโปรตุเกส สามารถศึกษาได้ที่ พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย และยังมีบริการอาหาร เครื่องดื่ม และของที่ระลึก เปิดเวลา 9.30-18.00 น. ทุกวันอังคาร-อาทิตย์

 

 

การมาเที่ยวชุมชนกุฎีจีน สามารถเดินสำรวจสถานที่ในชุมชนทั้งหมดนี้ด้วยทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา และการเดินทางมาที่ชุมชน นอกจากทางรถยนต์แล้ว ยังสามารถนั่งเรือข้ามฝากท่าเรืออัษฎางค์ ที่โครงการยอดพิมานริเวอร์ วอล์ค มาที่ท่าเรือหน้าวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และสามารถเดินทางมาเที่ยวได้ทุกวัน

 

แผนที่: 

 

 

 

ตลาดน้อย – Talad Noi

หนึ่งในย่านเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งเมืองหลวงที่นอกจากเป็นชุมชนที่ผสานวัฒนธรรมไทยจีน ยังผสานความเก่าและใหม่ไว้อย่างลงตัว ตอบโจทย์ไม่ว่าคุณจะเป็นสายกิน สายสถาปัตย์ หรือสายฮิปสเตอร์ ร้านอาหารอร่อยๆ ดั้งเดิมและคาเฟ่เปิดใหม่ ย้อนรอยประวัติศาสตร์ผ่านสถาปัตยกรรมสวยๆ ที่ยังมีชีวิตผ่านศูนย์รวมจิตใจคนในชุมชน ไม่ว่าจะเป็น โบสถ์กาลหว่าร์ (วัดแม่พระลูกประคำ) โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกทรงโกธิก และ ศาลเจ้าพ่อฮ้อนหว่องกุง (ศาลเจ้าโรงเกือก) ศาลของชาวจีนแคะ และ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย ถือเป็นที่ทำการของธนาคารแห่งแรกในประเทศไทย และยังเปิดบริการในวันเวลาทำงานปกติ รวมทั้ง โซวเฮงไถ่ คฤหาสน์เก๋งจีนเก่าแก่ที่เป็นทั้งโรงเรียนสอนดำน้ำและคาเฟ่ ระหว่างทางมีสตรีทอาร์ตสวยๆ หลากสไตล์ซ่อนอยู่ตามซอกซอยต่างๆ รอให้ทุกคนมาบันทึกภาพเป็นความทรงจำ

 

 

การเดินทางมาเที่ยวตลาดน้อยสามารถมาได้ทุกวัน ไม่ต้องกลัวหลงเพราะมีแผนที่และป้ายบอกทางตามจุดต่างๆ ในชุมชน สามารถเดินทางมาหลายทาง ไม่ว่าจะรถสาธารณะ รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีหัวลำโพง และทางเรือ โดยสามารถลงเรือด่วนเจ้าพระยาที่ท่าเรือกรมเจ้าท่า หรือนั่งเรือข้ามฝากจากฝั่งคลองสานมาที่ท่าน้ำสี่พระยา หรือถ้าไม่อยากลุ้นเรื่องฟ้าฝนกดเรียก Grab เดินทางได้ง่าย

 

แผนที่: 

 

 

ชุมชนบ้านบาตร – Baan Bat Monk’s Bowl Village

สัมผัสลมหายใจของวิถีชีวิตของชุมชนที่มีอายุกว่า 200 ปี ชุมชนบ้านบาตร นับว่าเป็นชุมชนที่ยังคงมีการอนุรักษ์สืบทอดอาชีพตามชื่อชุมชน แม้จะเหลือเพียงไม่กี่ครัวเรือนเท่านั้นที่ยังสืบสานหัตถศิลป์เก่าแก่ และแต่ละบ้านจะมีหน้าที่ในการทำบาตรที่แตกต่างกันออกไปตามความถนัดที่ถ่ายทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น นอกจากป้ายถนนที่บ่งบอกว่าคุณเดินทางมาถึงชุมชนบ้านบาตรแล้ว เสียงตีเหล็กที่ดังก้องถือเป็นเสียงต้อนรับที่แสดงว่ามาถึงจุดหมาย หากใครอยากเรียนรู้วิธีการทำบาตรนั้น ควรเดินทางมาช่วงกลางวันระหว่างเวลา 11.00-15.00 น. และก่อนกลับสามารถเดินต่อไปไหว้พระที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (วัดภูเขาทอง)

 

 

การเดินทางมาเที่ยวชุมชนบ้านบาตร บนถนนบริพัตร สามารถมาได้ทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์ ซึ่งอาจไม่มีการทำบาตร และสามารถเดินทางมาหลายทาง ทั้งรถสาธารณะ เรือโดยสารคลองแสนแสบ และรถยนต์

 

แผนที่:

 

 

ชุมชนบ้านบุ – Baan Bu Bronzework Community

ชุมชนบ้านบุ ย่านคลองบางกอกน้อย ชุมชนที่สืบสานมรดกด้านหัตถกรรมการทำ ‘ขันลงหิน’ มายาวนานนับร้อยปีที่กำลังจะหายไปตามกาลเวลา และการเข้ามาของเทคโนโลยี ในปัจจุบันเหลือเพียง โรงงานขันลงหิน เจียม แสงสัจจา บ้านเดียวเท่านั้นที่ยังคงผลิตขันลงหินด้วยวิธีการดั้งเดิม หากสนใจชมขั้นตอนการทำนั้นสามารถมาชมได้ในวันธรรมดาก่อนเวลา 16.00 น. นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์สำคัญของชุมชนนั่นก็คือ ตลาดไร้คาน (ตลาดวัดทอง) ตลาดเก่าอายุกว่า 80 ปี ที่รวบรวมอาหารและขนมโบราณ ปัจจุบันนี้ตลาดเปิดทำการทุกวันเสาร์และอาทิตย์ สัปดาห์ที่ 1 และ 3 ของเดือนเท่านั้น ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น.

 

 

ก่อนกลับห้ามพลาดที่จะเดินไปชมรถไฟทั้งรถจักรไอน้ำโบราณและรถจักรดีเซลที่จัดเก็บและซ่อมแซมอยู่ที่โรงรถจักรธนบุรี และแวะชมจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามและสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่ง โดยสองจิตรกรแห่งยุคสมัยรัชกาลที่ 3 ภายในพระอุโบสถของ วัดสุวรรณาราม ราชวรวิหาร

 

 

การเดินทางมาเที่ยวชุมชนบ้านบุสามารถมาได้ทุกวัน หากเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ที่มีตลาดไร้คานหรือวันหยุดจะไม่ได้ชมการทำ ‘ขันลงหิน’ ซึ่งมีเฉพาะวันธรรมดาเท่านั้น แต่สามารถเข้าชมโรงงานและซื้อผลิตภัณฑ์ได้ และไม่ต้องกลัวหลงเพราะตลอดทางมีป้ายแผนที่ของชุมชน พร้อมคนในชุมชนที่พร้อมช่วยเหลือ การเดินทางที่สะดวกที่สุดคือรถยนต์ สามารถจอดรถได้ที่บริเวณวัด หรือสามารถนั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ท่ารถไฟ และต่อรถสองแถวแดงมาที่ชุมชนได้

 

แผนที่:

 

 

 

บางกระเจ้า – Bang Krachao

ข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามาที่ คุ้งบางกระเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ ที่ได้ชื่อว่า ‘ปอดของคนกรุงเทพฯ’ และเหมาะสำหรับทริปง่ายๆ สำหรับคนที่โหยหาธรรมชาติแต่ไม่มีเวลาเดินทางไกล ซึ่งกิจกรรมที่ห้ามพลาดก็คือการปั่นจักรยานสำรวจสถานที่ต่างๆ ในบางกระเจ้า พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ ตลอดเส้นทางมีทั้งร้านอาหารและคาเฟ่ที่สามารถจอดพักแวะเติมกำลัง และการมาช้อปชิมที่ ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ตลาดริมคลองที่เปิดบริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ พ่อค้าแม่ค้าส่วนมากเป็นคนในชุมชน มีทั้งอาหาร ขนม สินค้าท้องถิ่น เสื้อผ้า และต้นไม้ ยิ่งสายยิ่งคึกคัก แม้ฝนตกก็ไม่หวั่น

 

 

การปั่นจักรยานที่บางกระเจ้าในช่วงที่เป็นถนนเส้นหลักต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากต้องใช้ถนนร่วมกับรถยนตร์และมอเตอร์ไซค์ สำหรับใครกังวลสามารถเลือกปั่นที่ สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ (สวนบางกระเจ้า) สวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติขนาด 148 ไร่ที่อุดมสมบูรณ์ ร่มรื่นและสงบ มีทางปั่นจักรยานระยะทาง 2 กิโลเมตร โดยไม่มีรถยนตร์มารบกวน และมีจุดไฮไลต์คือ หอชมนก ที่ไว้ชมนกโดยที่ไม่ต้องไปไกล และเป็นมุมถ่ายภาพซิกเนเจอร์ที่นักปั่นไม่ควรพลาด และ เส้นทางมรกต (เส้นทางสีเขียว) ถนนคอนกรีตขนาดเล็กมีรั้วกั้นเลียบคลองบางน้ำผึ้ง ซึ่งร้านเช่าจักรยานมีหลายร้านให้เลือกตามความสะดวก ค่าบริการเริ่มต้นที่ชั่วโมงละ 20 บาท สามารถขอแผนที่ได้ และสำหรับคนที่ไม่สะดวกปั่นจักรยาน บางร้านมีบริการให้เช่ารถกอล์ฟ

 

 

การเดินทางมาคุ้งบางกระเจ้าควรมาตั้งแต่เช้า ยิ่งสายรถจะยิ่งมาก ถ้ามาทางรถยนต์และบริการ GrabTaxi จะได้ชมวิวตึกสูงของกรุงเทพฯ พร้อมวิวแม่น้ำที่แปลกตาระหว่างที่ข้ามสะพานภูมิพล 1 หรือสามารถข้ามฝากแม่น้ำผ่านท่าเรือ 4 ท่า ได้แก่ ท่าเรือวัดบางนานอก – ท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก (ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS บางนา), ท่าเรือวัดคลองเตยนอก – ท่าเรือบางกระเจ้า (กำนันขาว), ท่าเรือข้างธนาคารกรุงเทพ สำนักงานพระราม 3 – ท่าเรือวัดบางกระเจ้านอก และท่าเรือสาธุประดิษฐ์ – ท่าเรือวัดโปรดเกศเชษฐาราม และสามารถเดินทางมาวันธรรมดาได้ ร้านค้าต่างๆ เปิดให้บริการ แต่นักท่องเที่ยวนิยมมาวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เนื่องจากมีตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง นอกจากนี้ยังมีบริการโฮมสเตย์ให้เลือกนอนค้างกันชุ่มปอดอีกด้วย

 

แผนที่:

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์