บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เผยกำไรปี 2563 ทำได้ 7,508 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85% จากปีก่อน เนื่องจากการรับรู้ผลประกอบการจาก GLOW เข้ามาเต็มปี ขณะที่ช่วงปีก่อนรับรู้ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม ถึง 31 ธันวาคม 2562 ขณะเดียวกันต้นทุนก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ปรับตัวลดลงตามสภาวะตลาด และต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากการปรับโครงสร้างเงินทุนและการปรับโครงสร้างหุ้นกู้ รวมถึงยังมีรายได้จากเงินปันผลรับ 701 ล้านบาท หลังควบรวมกิจการกับ GLOW
ทั้งนี้ หากพิจารณากำไรขั้นต้นของแต่ละรูปแบบโรงไฟฟ้า ได้แก่ โรงไฟฟ้าผู้ผลิตอิสระ (IPP) ทำได้ 5,358 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 411 ล้านบาท เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงการจัดประเภทค่าตัดจำหน่ายของโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วันให้เป็นรายการค่าบำรุงรักษา
โรงไฟฟ้าผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) มีกำไรขั้นต้น 15,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,852 ล้านบาท หนุนจากการรับรู้รายได้จาก GLOW เต็มปี ส่วนกำไรขั้นต้นจากโรงไฟฟ้าผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) ทำได้ 610 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 277 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายไฟฟ้าของบริษัท โกลบอล รีนิวเอเบิล เพาเวอร์ จำกัด และรายได้อื่นๆ
พร้อมกันนี้คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด 1 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิเงินปันผล (XD) วันที่ 3 มีนาคม 2564 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 21 เมษายน 2564
สำหรับความคืบหน้าของโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยในไตรมาส 2/64 จะมีโครงการใหม่ 2 แห่งเริ่มเปิดดำเนินการ ได้แก่ โครงการบริหารจัดการขยะครบวงจร ปัจจุบันมีความคืบหน้า 95.4% โดยเหลือในส่วนของโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิง RDF ขณะที่โครงการโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงาน ซึ่งสามารถผลิตแบตเตอรี่ G Cell ที่ใช้เทคโนโลยี Semi-Solid เซลล์แรกในประเทศไทย มีความคืบหน้า 72%
ส่วนปี 2565 จะมีโครงการ SPP Replacement ในส่วนของ Glow Energy เฟส 2 มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 192 เมกะวัตต์ และปี 2566 มีโครงการหน่วยผลิตไฟฟ้าและไอน้ำจากกากน้ำมัน ซึ่งปัจจุบันมีความคืบหน้า 56.8%
ณ สิ้นปี 2563 GPSC มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งทั้งหมด 8,091 เมกะวัตต์ คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้น 5,055 เมกะวัตต์ และมีกำลังการผลิตไอน้ำตามสัดส่วนการถือหุ้น 2,964 ตันต่อชั่วโมง
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์