วันนี้ (9 เมษายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้กำชับให้ยกระดับมาตรการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละออง PM2.5 ในช่วงสถานการณ์วิกฤต โดยให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานผ่าน 9 มาตรการ
- ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานทหาร ระดมลาดตระเวนพื้นที่เสี่ยง รวมถึงบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ลักลอบเผาป่าทุกกรณี ไม่มีการละเว้น
- ให้กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำกับดูแลบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัด
- ให้กระทรวงมหาดไทยสั่งการจังหวัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดชุดปฏิบัติการลาดตระเวนเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงต่อการเผา
- ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเขตความร่วมมือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน และให้ประกาศ Work from Home ตามความจำเป็น เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน
- ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาตัดสิทธิ์การรับความช่วยเหลือ การชดเชยต่างๆ จากรัฐ หากพบว่ามีการเผาในพื้นที่เกษตรกรรมของตัวเอง
- ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพิ่มความถี่ปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อป้องกันและบรรเทาสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละอองอย่างเร่งด่วน และร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ให้เพียงพอต่อการช่วยเหลือดับไฟป่า
- ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดชุดเคลื่อนที่ลงเยี่ยมบ้าน ดูแลสุขภาพประชาชนอย่างทั่วถึง ทันท่วงที และสนับสนุนอุปกรณ์ส่วนบุคคลสำหรับกลุ่มเสี่ยง
- ให้สำนักงบประมาณพิจารณางบกลางให้แก่จังหวัด เพื่อให้ทันต่อการแก้ไขปัญหาในช่วงสถานการณ์วิกฤตตามความเหมาะสมและความจำเป็นเร่งด่วน
- กรณีหมอกควันข้ามแดน ให้กระทรวงการต่างประเทศยกระดับการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเมียนมาและ สปป.ลาว ให้ลดการเผาป่าทันที และตั้ง KPI ให้ชัดเจน
ยืนยันรัฐบาลทำจริงมาตลอด
ขณะที่ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืนว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเรื่องปัญหาฝุ่น PM2.5 ให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เป็นการให้อำนาจผู้ว่าราชการในจังหวัดนั้นๆ เป็นผู้รับผิดชอบ และจากนี้ให้อำนาจผู้ว่าฯ เป็นผู้แถลงเพื่อชี้แจงต่อประชาชนเพียงผู้เดียว นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและจริงจัง ส่วนมาตรการที่เป็นข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีนั้น ขณะนี้ทุกอย่างดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ส่วนในรายละเอียดนั้น ยืนยันว่าเราสามารถบูรณาการได้ ซึ่งในการประชุมก็ดำเนินการอย่างเรียบร้อยและไม่ได้มีปัญหาอะไร
ขณะที่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวเสริมว่า ตามการสั่งการของนายกรัฐมนตรีให้มีการประชุมอย่างเร่งด่วน ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์จากกองทัพบก กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ไปยังศูนย์ปฏิบัติการที่จังหวัดเชียงใหม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 จากประเทศเพื่อนบ้าน จะมีวิธีการอย่างไร ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ในการประชุม พล.ต.อ. พัชรวาท ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ขณะเดียวกันกองทัพบกได้ประสานไปยังคณะกรรมการชายแดนทั่วไปแล้ว
ส่วนความคาดหวังต่อสถานการณ์ฝุ่นภายหลังจากมีมาตรการจะต้องใช้ระยะเวลากี่วันถึงจะไม่กระทบต่อประชาชน จตุพรกล่าวเสริมว่า ศูนย์ปฏิบัติการนี้จะเข้ามาแก้ปัญหาในหลายเรื่อง ทั้งการดูแลจุดความร้อนในพื้นที่ป่า การดูแลประชาชนที่ประสบปัญหา ซึ่งมีกระทรวงสาธารณสุขร่วมลงพื้นที่ดูแลประชาชนด้วย รวมถึงการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งศูนย์นี้มีในทุกจังหวัด โดยจะมีส่วนกลางนำส่งข้อมูลและส่งบุคลากรเข้าไปแก้ปัญหา โดยในพื้นที่ภาคเหนือมีจังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์ใหญ่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลใช่หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า รัฐบาลจะดำเนินการให้ดีที่สุด ซึ่งการเปิดศูนย์ในวันพรุ่งนี้จะมีข้าราชการระดับ C10 ไปร่วมตรวจการที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วย โดยขอให้เรานึกถึงมาตรการโควิด เนื่องจากรัฐบาลจะใช้มาตรการเดียวกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ฝุ่นนั้นมีมานาน การที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมออกมาพูดเรื่องนี้ถือว่าช้าไปหรือไม่ พล.ต.อ. พัชรวาท ยืนยันว่า “เราทำมาตลอด ไม่มีวัวหายล้อมคอก เราทำจริงทำจัง”