วันนี้ (28 เมษายน) สุทิน คลังแสง ส.ส. จังหวัดมหาสารคาม ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีวิปรัฐบาลมีมติไม่ให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญว่าตนไม่ผิดหวัง เพราะคาดไม่ผิดมาแต่ต้นว่ารัฐบาลจะต้องหนีสภาอยู่แล้ว แม้สมัยประชุมปกตินายกรัฐมนตรีก็หนีการประชุมตลอด ส.ส. รัฐบาลเองก็เช่นกัน ชิงปิดประชุมบ้าง หนีประชุมบ้าง กดบัตรแทนกันบ้าง แต่คราวนี้ตนเสียดายโอกาสของประชาชนที่จะได้สะท้อนความทุกข์ยาก เสนอแนะแนวทางแก้ปัญหา ตลอดทั้งตรวจสอบการทำงานในวาระพิเศษนี้
ตนว่าทุกคนควรตระหนักว่าขณะนี้เราอยู่ในสถานการณ์พิเศษ ปัญหาที่คุกคามเราใหญ่โต รุนแรงเกินกว่าที่คนใดคนหนึ่ง ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะรับมือได้ ต้องระดมความคิด ระดมกำลังกัน สภาก็ต้องถือเป็นภาระที่จะต้องเป็นหลัก เป็นที่พึ่งให้ประชาชน โดยปรับตัวให้ทันต่อปัญหาหลายปัญหาที่ต้องจัดการให้ทันเวลา จะนอนรอวันเปิดสภาฯ ปกติคงสายเกินไป อาทิ การเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จนป่านนี้เวลาล่วงเลยมาจะ 1 เดือนแล้ว เงินยังถึงมือประชาชนไม่ถึงครึ่ง ผู้คนก็เดือดร้อนหนักขึ้นทุกวันถือว่าล้มเหลว สอบตก เงินที่จะนำมาใช้รัฐก็ติดขัด ไม่พอ ไม่ทัน ทำไมไม่รีบนำ พ.ร.บ. ถ่ายโอนงบประมาณเข้าสภา จะรอไปทำไมอีกเดือนกว่า คนไม่มีจะกินอย่าว่าแต่ 1 เดือนเลย 1 วันก็อยากฆ่าตัวตายแล้ว
ประการสำคัญรัฐบาลจะกู้เงินครั้งมโหฬารมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เป็นการกู้แบบเร่งด่วน ไม่มีแผนงาน แถมตั้งระบบบริหารแบบพิเศษที่ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ คือใช้คณะบุคคลเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นเองมาบริหาร เป็นการเปิดช่องให้มีการทุจริตโดยง่าย และยังมีประเด็นล่อแหลมที่อาจทำให้ฐานะการเงินประเทศต้องพัง เพราะไปเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มทุนใหญ่ ซึ่งเราเคยมีบทเรียนมาแล้วในอดีต
วันนี้รัฐบาลออก พ.ร.ก. ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าไปซื้อตราสารหนี้เอกชน นี่คืออีกเรื่องใหญ่ที่คนในชาติยังกังวลและเห็นต่างกัน รวมทั้งเรื่องใหญ่อีกเรื่องคือ CPTPP ที่รัฐบาลจะด่วนตัดสินใจ เรื่องสำคัญบางส่วนที่กล่าวมาทั้งหมด รัฐบาลควรนำมาให้ประชาชนมีส่วนร่วมวิพากษ์วิจารณ์เสนอแนะและตรวจสอบอย่างทันการณ์ ทันเวลา แต่กลับเดินหน้าทำไปโดยลำพัง จะนำเข้าสภาให้ตัวแทนประชาชนตรวจก็เมื่อผ่านไปแล้ว 1 เดือนเศษ คือรอสภาฯ เปิดปกติ อย่างนี้เรียกว่า กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ หรือปล่อยให้อ้อยเข้าปากช้างไปแล้วก็เอาคืนยาก
.
ส่วนข้ออ้างที่ว่า เกรงว่าการประชุมสภาฯ จะเป็นแหล่งแพร่เชื้อโควิด-19 ตนเห็นว่าเป็นการฉวยโอกาสเอาโควิด-19 เป็นข้ออ้างเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากฝ่ายค้านและประชาชน เราตระหนักเรื่องนี้ดี และเรามองเห็นมาตรการป้องกันที่ทำได้เช่นเดียวกับท่านประธานสภาฯ และตนขอถามไปยังรัฐบาลว่า ถ้าโควิด-19 ยังทรงอยู่แบบนี้ไปอีก 1 ปี ก็จะไม่มีการประชุมสภาฯ อีก 1 ปีใช่หรือไม่
และข้ออ้างที่ว่าแม้รายชื่อครบ เสนอประธานสภาฯ จะเปิดได้ก็เกือบปลายเดือนอยู่ นี่ก็ไร้สาระ ประธานสามารถใช้ดุลยพินิจเปิดเร็วให้ทันปัญหาได้
ส่วนคำถามจากประธานวิปรัฐบาลที่บอกว่า ถ้าเปิดสภาฯ แล้วเชื้อโควิด-19 กระจายใครรับผิดชอบ เป็นการหลับตาถามกวนๆ ถ้าอย่างนั้นตนขอถามกลับให้คิด คนฆ่าตัวตายเพราะไม่มีกิน รัฐบาลจะรับผิดชอบไหม ถ้ากู้มามโหฬารอย่างนี้ ไม่ถาม ไม่ฟังใครอย่างนี้ พล.อ. ประยุทธ์ และรัฐบาลรับผิดชอบหนี้ก้อนนี้ไหม และการที่รัฐบาลอุ้มแต่คนรวย แล้วแบ่งเศษเนื้อให้ชาวบ้าน ใครรับผิดชอบ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า