วันนี้ (23 พฤศจิกายน) ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปลื้มผลตอบรับหลังมาตรการเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ในพื้นที่ 17 จังหวัดสีฟ้า หรือพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวชาวไทย ตั้งแต่มีการเปิดให้ลงทะเบียนในเดือนตุลาคม มีประชาชนมั่นใจออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วประเทศผ่านโครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3’ ทำให้มีเม็ดเงินภายในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา เข้าสู่ระบบภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการแล้วกว่า 5,186.1 ล้านบาท ยอดรวมการลงทะเบียน 909,937 คน ยอดการใช้สิทธิ์จองโรงแรมที่พัก 4,113 แห่ง คิดเป็น 1,296,872 ห้อง โดยมีมูลค่าการใช้จ่ายโรงแรม/ที่พัก รวม 4,753.9 ล้านบาท และยอดการใช้จ่ายคูปองส่วนลดในร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ร้านสปา/นวด และอื่นๆ รวม 435.6 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2564) รวมทั้งในช่วงเทศกาลลอยกระทง อัตราการเข้าพักในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ในหลายพื้นที่ขยับเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 50 โดยเฉพาะในบางจังหวัดใกล้กรุงเทพมหานคร มีอัตราการเข้าพักในช่วงวันหยุดเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 80-90
ธนกรกล่าวอีกว่า มีการเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1-21 พฤศจิกายน 2564 จำนวน 85,608 คน โดยเดินทางมาจากประเทศ 5 อันดับแรก ได้แก่ เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร รัสเซีย และฝรั่งเศส ขณะเดียวกันมีจำนวนผู้ยื่นขอลงทะเบียน Thailand Pass สะสมแล้วจำนวน 239,115 คน และได้รับการอนุมัติแล้ว 186,836 คน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศไทยต่ำกว่า 7,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการควบคุมโรคควบคู่ไปกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ สามารถสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางท่องเที่ยวแก่ชาวต่างชาติได้
ธนกรกล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศูนน์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ผอ.ศบค.) ยังเตรียมความพร้อมการเปิดประเทศเพิ่มเติมในจังหวัดที่พร้อม ตามแผนการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย (Safety Entry) โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ประชุมปฏิบัติการร่วมกับจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และจะประชุมร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด แรงงานจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การรบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อหารือถึงเปอร์เซ็นต์การฉีดวัคซีนในพื้นที่ ความพร้อมในการเปิดจังหวัด ตามแผนเร่งรัดในการรองรับการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย (Smart Entry) ซึ่งในเฟส 1 (1-30 พฤศจิกายน 2564) ประสบความสำเร็จในการเปิดพื้นที่นำร่องเที่ยว 17 จังหวัดแล้ว ต่อไปในเฟส 2 ช่วงวันที่ 1-31 ธันวาคม 2564 เตรียมแผนขยายพื้นที่นำร่องเที่ยวเพิ่มเติมอีก 16 จังหวัด รวมเป็น 33 จังหวัด และปีหน้าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ยังเตรียมเปิดเพิ่มอีก 12 จังหวัด รวมเป็น 45 จังหวัด ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามความพร้อมจังหวัดและความสมัครใจของประชาชนในพื้นที่เป็นสำคัญ