×

“ผมเป็นคนขอโทษลูกบ่อย ถ้ารู้ว่าผิด เราไม่อายที่จะขอโทษ” บทเรียนจากความเป็นพ่อของ กอล์ฟ ฟักกลิ้ง ฮีโร่

05.12.2019
  • LOADING...

ถ้าได้ติดตามเฟซบุ๊ก @ฟักกลิ้ง ฮีโร่ จะเห็นได้ทันทีว่า นอกจาก กอล์ฟ-ณัฐวุฒิ ศรีหมอก จะเป็นแรปเปอร์ที่เขียนเพลงได้งดงามราวบทกวี เขายังเป็น ‘พ่อ’ ที่รัก เอาใจใส่น้องชูใจ (ณอร ศรีหมอก) ลูกสาววัย 4 ขวบ และคอยบอกเล่าเรื่องราวน่ารัก น่าประทับใจที่เกิดขึ้นให้แฟนคลับได้รับรู้กันอยู่เสมอ 

 

แต่อย่างที่ใครบอกไว้ว่า การเป็น ‘พ่อ’ และ ‘แม่’ คนไม่เคยเป็นเรื่อง่าย กอล์ฟในฐานะคุณพ่อมือใหม่ก็ยังมีหลายครั้งที่ทำผิดพลาด เข้าใจผิด และเผลอทำร้ายจิตใจอันแสนบริสุทธิ์ของลูกไปโดยไม่รู้ตัว 

 

THE STANDARD POP ได้คัดข้อความส่วนหนึ่งที่กอล์ฟเคยให้สัมภาษณ์ถึงบทเรียนสำคัญที่บอกให้รู้ว่า ไม่ใช่แค่เด็กต้องเรียนรู้ที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ คนเป็นพ่อและแม่ก็ต้องเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกับลูกในทุกๆ วัน และที่สำคัญคือต้องเรียนรู้ที่จะกล่าวคำ ‘ขอโทษ’ ให้เป็น เพราะไม่ว่าใครก็ล้วนเคยทำผิดพลาดมาด้วยกันทั้งนั้น 

 

คุณมักจะเขียนเรื่องของน้องชูใจลงในเฟซบุ๊กอยู่บ่อยๆ ว่าคนเป็นพ่อไม่ใช่แค่สอนลูกอย่างเดียว แต่ในขณะเดียวกันเราก็จะได้เติบโตไปพร้อมๆ กับลูกด้วย 

ทั้งเติบโตขึ้นแล้วก็ผิดพลาดไปพร้อมๆ กับลูกด้วย อย่างที่บอกว่าผมเป็นคนชอบล้ม เพราะฉะนั้นคุณสมบัติที่จำเป็นคือการขอโทษ ผมเป็นคนขอโทษลูกบ่อย ถ้ารู้ว่าเราเลี้ยงเขามาแบบผิดหรือทำผิด เราไม่อายที่จะขอโทษ และเขาก็ได้เรียนรู้ความสำคัญของคำคำนี้ ตอนนี้เขาพูดเป็นด้วยนะว่า “ป๊ะป๋าทำผิดกับแม่ ป๊ะป๋าขอโทษแม่หรือยัง” เราก็ต้องขอโทษ เพราะนี่คือลูกคนแรก และนี่คือการเป็นพ่อครั้งแรกของเรา มันมีหลายเรื่องที่เราไม่เคยรู้มาก่อน 

 

ยกตัวอย่าง ผมเคยเลี้ยงชูใจแบบให้ขนมตลอด อยากหยิบอะไรก็หยิบ วันหนึ่งพอเราไม่ให้แล้วเขางอแง ก็ต้องมาดูว่า อ๋อ เพราะเราเคยให้เขามาตลอดไง วันหนึ่งพอเราไม่ให้จะไปบอกว่าเขาเอาแต่ใจไม่ได้ อันนี้เราผิด เราก็ยอมรับด้วยการขอโทษ “โอเค ป๊ะป๋าเคยให้หนูหยิบอะไรก็ได้ไปกินเอง แต่จากนี้ไปหนูเห็นว่าหนูกำลังอ้วนขึ้น สุขภาพกำลังไม่ดี เอาอย่างนี้นะ จากนี้ป๊ะป๋าจะจัดเรียงการกินใหม่ ที่ผ่านมาป๊ะป๋าเลี้ยงไม่ดีเอง ป๊ะป๋าขอโทษ”

 

รู้สึกอย่างไรบ้างเวลาเห็นน้องชูใจเขียนแทนตัวคุณด้วยคำว่า HERO ที่เหมือนว่าตัวเขาเองก็มีคุณเป็นแบบอย่าง และมีความสนใจงานด้านดนตรีเหมือนกัน 

ผมมองเรื่องการทำงานเป็นหลักนะ งานในบ้านกับงานนอกบ้านไม่เหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่งานช่วงนี้ของผมจะเป็นงานนอกบ้านเป็นหลัก เพราะฉะนั้นลูกจะเห็นผมทำงานค่อนข้างเยอะตลอดเวลา 

 

บางทีเขาตามไปดูเราเล่นคอนเสิร์ต ก็คงจะมีแรงบันดาลใจของเขาสักอย่าง ซึ่งก็น่าภูมิใจว่าเขาเห็นแล้วอยากเป็นเหมือนเรา แต่ผมรู้ว่าตอนเด็กก็คือฝันตอนเด็ก ในอนาคตเขาจะอยากเป็นอะไรผมไม่รู้ และจะสนับสนุนทุกอย่าง แต่แค่รู้ว่าเขาชอบดนตรีแค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว 

 

เมื่อเป็นช่วงที่ทำงานเยอะ เราก็จะเห็นหลายครั้งที่คุณเล่าให้ฟังว่าน้องชูใจร้องไห้เพราะคิดถึงคุณ

ความยาก ณ จุดนี้คือเรามีคนต้องดูแลเยอะแยะเต็มไปหมด มีลูกน้อง มีทีมที่ต้องดูแลก็จะเป็นห่วงทุกคนว่า ถ้าเรารับงานน้อยลงแล้วเขาจะไม่พอกิน แต่ในขณะเดียวกัน พอรับงานเยอะขึ้นผมก็เป็นห่วงที่บ้าน เพราะเขาก็ต้องการเรา ลูกก็คิดถึงเรา 

 

สิ่งที่พยายามทำอยู่ตอนนี้คือการปรับสมดุลให้ทีมงานและที่บ้านโอเค อาจจะมีเหลื่อมล้ำกันอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพยายามจัดการและปรับสมดุลให้มันพอดีให้เร็วที่สุด

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X