ข้อมูลจาก Goldman Sachs ระบุว่า หุ้นจีนจะปรับตัวต่ำกว่าในกรอบการซื้อขายที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ จนกว่าทางการจีนจะนำเสนอมาตรการตอบโต้ที่จริงจังกว่านี้เพื่อจัดการกับความเสี่ยงที่อาจแพร่ระบาดจากการตกต่ำของภาคอสังหา
Goldman Sachs ได้ปรับลดประมาณการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS) ทั้งปีสำหรับดัชนี MSCI China Index จาก 14% เหลือ 11% และปรับลดเป้าหมายดัชนีอีก 1 ปีข้างหน้า จาก 70 เป็น 67 โดยเป้าหมายใหม่นี้ได้รวมกับการปรับตัวขึ้น 13% ของดัชนีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 สิงหาคม)
ความตื่นเต้นหลังเดือนกรกฎาคมจากเหตุการณ์โปลิตบูโรนั้นเกิดขึ้นแค่ชั่วครู่เท่านั้น ตลาดที่อยู่อาศัยที่ทรุดโทรมและความเป็นไปได้ในการแพร่ระบาดสู่ระบบเศรษฐกิจเป็นวงกว้างคือเหตุผลที่ทางการจีนควรแก้ไขอย่างชัดเจน
นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือนล่าสุดที่ Goldman Sachs ปรับลดมุมมองของตลาดหุ้นจีน เนื่องจากความกังวลที่แทรกซึมอยู่ในตลาดหุ้นจีน หลังจากวิกฤตอสังหาที่ทวีความรุนแรงขึ้นและสัญญาณความตึงเครียดในระบบธนาคารเงา มาตรการล่าสุดของทางการในการกระตุ้นความเชื่อมั่นของตลาดนั้นส่งผลเล็กน้อยเท่านั้น นักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs ยังคาดว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่จากทางการจีนจะเกิดขึ้นอย่างประเมินไม่ได้
อย่างไรก็ตาม หุ้นจีนยังคงได้รับแรงหนุนจากมูลค่าหุ้นที่ถูกและจำนวนการตั้งสถานะขายของนักลงทุนที่เบาบาง แต่ปัจจัยบวกทั้งหลายยังถูกจำกัดด้วยสภาพคล่องและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้แรงกดดันด้านการเติบโตส่งผลให้คาดการณ์กำไรถูกปรับลดอีกครั้ง
ดัชนี MSCI China ร่วงลงเกือบ 2% ในวันนี้ (21 สิงหาคม) โดยลดลงจากจุดสูงสุดในเดือนมกราคมถึง 23% ดัชนี Hang Seng ซึ่งกลายเป็นตลาดหมีในวันศุกร์ที่แล้ว (18 สิงหาคม) ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 7 นับเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021 Goldman Sachs ยังลดเป้าหมาย MSCI China จาก 80 ลงเหลือ 70 ในเดือนมิถุนายน โดยอ้างถึงความกังวลด้านรายได้ของบริษัทและสกุลเงินที่อ่อนค่า
ในรายงานล่าสุด นักยุทธศาสตร์ของ Goldman Sachs ได้แนะนำภาคส่วนที่มีการคาดการณ์รายได้ที่สูงขึ้นและความสามารถในการส่งมอบผลกำไรที่ดีขึ้น รวมถึงหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินหยวน และยังแนะนำให้ลดน้ำหนักในบริษัทที่มีรายได้ทางการเงินหรือการลงทุนที่ผิดสัดส่วน
อ้างอิง: