จริงๆ แล้วคุณถนัดอะไร?
หลังจากอ่านคำถามข้างต้น เชื่อว่าหลายคนคงต้องใช้เวลานึกหาคำตอบในใจ บางคนอาจใช้เวลาไม่มาก สามารถตอบคำถามได้ในอึดใจ เพราะความเชี่ยวชาญของตนนั้นปรากฏอยู่ในชีวิตและการงานที่ทำอยู่ในทุกวัน แต่กับบางคน คำถามข้างต้นกลับเป็นคำถามที่ยากจนแทบหาคำตอบไม่เจอ
ไม่ใช่ว่าใครหลายคนเหล่านั้นทำอะไรไม่เป็น เพราะเมื่อลองนึกดูดีๆ ว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง คนเหล่านี้ก็สามารถสาธยายความสามารถของตัวเองออกมาได้มากมาย บางคนทำงานออฟฟิศก็ได้ ให้พรีเซนต์งานก็พอไหว งานเจรจาพาทีก็มีบ่อยไป แถมยังมีสกิลงานฝีมืออย่างการทำกับข้าวและซ่อมข้าวของเล็กๆ น้อยๆ ติดตัวมาอีกต่างหาก เรียกได้ว่าทำได้แทบทุกอย่าง แต่ในความสามารถเหล่านั้นกลับไม่มีสิ่งใดเลยที่โดดเด่นออกมาจนสามารถเรียกได้ว่าเชี่ยวชาญ ซึ่งใครหลายคนมักจะเรียกคนประเภทนี้ว่า ‘เก่งแบบเป็ด’ คือเป็นสัตว์ที่สามารถบินได้ เดินก็ได้ ว่ายน้ำก็ได้ แต่ก็ทำดีได้ไม่สุดเลยสักทาง คล้ายกับคนที่ทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่เด่นเลยสักอย่าง
และใครอีกหลายคนก็พยายามที่จะหาว่าอะไรที่ทำให้คนส่วนหนึ่ง (และอาจจะเป็นส่วนใหญ่) กลายมาเป็นเป็ดแบบนี้ หนึ่งในคำตอบที่พบนั้นก็อยู่ที่ระบบการศึกษาและค่านิยมของบ้านเราที่พยายามจะทำให้เด็กโตมาแบบเป็นเลิศในทุกด้าน ทำให้เด็กหลายคนเติบโตขึ้นมากับการทำคะแนนในทุกวิชาให้ดีมากกว่าการพยายามจะเรียนรู้ว่าตัวเรานี้ต้องการอะไรกันแน่
และเมื่อชีวิตผันผ่านมาสู่ช่วงชีวิตมหาวิทยาลัย แทบทุกคนก็เดินเข้าสู่กลไกที่เรียกกันว่าปริญญาตรี โดยหวังผลเพียงแค่ว่าจะได้ปริญญามาครอบครอง จากข้อมูลของบริษัทจัดหางาน จ๊อบส์ดีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่เริ่มมีแรงงานเข้าสู่ตลาดน้อยลงเรื่อยๆ สาเหตุหนึ่งก็มาจากการเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมผู้สูงอายุ และอีกสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะค่านิยมของคนรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดและทัศนคติในการทำงานต่างจากคนรุ่นก่อน คือเน้นเรียนเพื่อให้ได้ปริญญาบัตรมาโดยไม่ได้สนใจว่าจะต้องมีความรู้เฉพาะทาง หรือเข้าใจในสิ่งที่เรียนหรือไม่ ขอเน้นให้ได้คะแนนสอบดีๆ ก็พอ แล้วปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อหลายคนไม่มีความรู้และความสามารถเฉพาะทางอย่างแท้จริงทำให้การหางานนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก และในทางกลับกัน แม้จะมีความรู้และความสามารถอยู่บ้าง แต่หลายคนก็ได้ค้นพบหลังจากเข้าทำงานว่าตัวเองไม่ได้ชอบงานที่ตรงกับสาขาที่เรียนเลยสักนิด คนกลุ่มนี้ส่วนหนึ่งจึงตัดสินใจสละเรือออกจากระบบเพื่อค้นหาสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆ และเป็นสาเหตุที่ทำให้แรงงานขาดหายไปจากตลาดนั่นเอง
นอกจากปัญหามหภาคอย่างแรงงานแล้ว อีกหนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นของเหล่าคนที่รู้ตัวช้าก็คือเวลาที่มีมันเริ่มจะไม่พอต่อการค้นหาตัวเองแล้ว ด้วยภาระมากมายที่ตามหลังมา ทำให้หลายคนต้องล้มเลิกและกลับมาสู่สิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำเพื่อดำรงชีวิต หรือต่อให้หาตัวเองเจอก็ไม่สามารถเดินไปสู่ความสำเร็จได้ทันด้วยปัจจัยด้านเวลาเช่นกัน
ถ้าอย่างนั้นจะดีกว่าไหม หากคุณจะลองสลัดขนออก เลิกทำตัวเป็นเป็ด และเริ่มแสดงความสามารถอันโดดเด่นที่มีเพียงคุณคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้ออกมาตั้งแต่วันนี้
แม้จะพูดว่าโลกสมัยนี้เป็นยุคแห่งการผสมผสาน แต่เหล่าผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางก็ยังเป็นที่ต้องการตัวในทุกวงการอยู่เสมอ ตัวอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก, บิล เกตส์ หรือแม้กระทั่งสตีฟ จ็อบส์ ต่างก็เป็นผู้ที่รู้ตัวว่าตนเองเชี่ยวชาญและลุ่มหลงในสิ่งใดตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากจะก้าวข้ามไปสู่ความสำเร็จอีกขั้นของชีวิต บางทีคุณก็อาจจะต้องรีบสลัดความเป็นเป็ดของคุณไปให้ได้เสียก่อน
แล้วเราจะหาความลุ่มหลงนั้นได้จากไหน?
เรื่องนี้ไม่ยาก จริงๆ มันก็เริ่มจากการเป็นเป็ดนั่นแหละ
วรพจน์ พันธุ์พงศ์ นักเขียนและนักสัมภาษณ์มือดีเคยกล่าวเอาไว้ใจความว่า “สิ่งที่คนหนุ่มสาวพบเผชิญเสมอๆ ทุกยุคสมัยก็คือเรามักรู้ว่าไม่ชอบอะไร แต่ปัญหาคือเราไม่รู้ว่าชอบอะไร อยากมีอาชีพอะไร อยากมีชีวิตแบบไหน… ผมเคยเดินอยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้ ถามว่าทำไมถึงหาทางออกมาจากเขาวงกตได้ ทำไมถึงพบเจอสิ่งที่รัก คำตอบคือได้ลองทำ”
เมื่อเรายังไม่รู้ว่าสิ่งที่เราต้องการแท้จริงนั้นคืออะไร การได้ทำลองทำสิ่งต่างๆ ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่จะพาเราไปเจอกับเป้าหมายที่หลากหลายนั้น บางอย่างอาจทำให้เราสนุก บางอย่างอาจทำให้ทุกข์ใจ บางอย่างอาจจะไม่ได้เหมือนอย่างที่เคยคิดไว้ แต่เมื่อเราได้ทดลองทำในหลายสิ่งแล้ว เราก็จะค่อยๆ รู้ตัวเองว่าอะไรคือสิ่งที่เราพร้อมจะเอาชีวิตไปขลุกอยู่กับมัน
แต่สำหรับบางคนที่อาจไม่มีเวลาเหลือพอสำหรับการทดลองอีกต่อไป บางทีเราก็อาจจะต้องใช้ทางลัดอย่างการเรียนรู้ผ่านผู้ที่เคยมีประสบการณ์มาก่อน อย่างเช่นเหล่าสปีกเกอร์ในงาน Worst of the Best งานทอล์กเรื่อง Worst Worst ของเหล่า The Best ที่จะมาเล่าเรื่องราวเบื้องหลังทั้งอุปสรรคและปัญหาของแต่ละสายอาชีพ เพื่อทำให้คุณได้รู้ว่าอยากหรือไม่อยากทำอะไร และมุ่งสู่การเป็น The Best อย่างแท้จริง
ซึ่งเมื่อได้พบกับสิ่งนั้นแล้ว เราก็อยากให้คุณค่อยๆ ถอนขนเป็ดของคุณออกมา เก็บเศษขนที่เป็นตัวแทนของประสบการณ์เอาไว้เพื่อใช้ในยามจำเป็น และมุ่งไปในเส้นทางที่คุณเลือกอย่างสุดแรงกล้า เพื่อหล่อหลอมตัวเองให้กลายเป็นหนึ่งเดียวที่ดีที่สุดแบบที่ไม่สามารถมีใครมาแทนได้
และคราวนี้คำถามข้างต้นก็คงไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินอีกต่อไป
ภาพประกอบ: Thiencharas.w
- ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ www.worstofthebest.net