15 วันหลังเกิดเหตุคนร้ายบุกยิงชิงทองที่ร้านทองภายในห้างโรบินสัน จังหวัดลพบุรี ที่สุดแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ เป็นชายหน้าตาและฐานะดี มีหน้าที่การงานระดับผู้อำนวยการโรงเรียน
วันนี้ (23 มกราคม) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วยคณะทำงานชุดสืบสวนคลี่คลายคดีกราดยิงชิงทองลพบุรี ได้แถลงความคืบหน้าการจับกุม ประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ ผอ.กอล์ฟ อายุ 38 ปี
ผู้ต้องหาอ้างมูลเหตุมาจากปัญหาด้านการเงิน
ไฮไลต์ของการแถลงข่าวคือ การต่อสายถึงผู้ต้องหา เพื่อให้สื่อมวลชนซักถามข้อสงสัย
ประสิทธิชัยตอบด้วยน้ำเสียงอ้ำอึ้งเมื่อถูกถามถึงเหตุจูงใจในการก่อเหตุ
“เอ่อ… หนึ่ง เกิดจากปัญหาส่วนตัวและปัญหาเกี่ยวกับด้านการเงินของตัวเอง”
นักข่าวถามต่อว่า มีเหตุผลส่วนตัวเรื่องหนี้สิน แต่ทำไมต้องก่อเหตุยิงผู้อื่นด้วย
“การยิงผู้อื่นคือต้องการยิงเพื่อเปิดทางหรือว่าให้กลัว” ผู้ต้องหาตอบ
คนร้ายอ้าง ไม่ได้ตั้งใจยิงพนักงานและเด็ก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงต้องยิงซ้ำ
“ตอนที่ผมได้ขึ้นไปที่ตู้กระจก ผมได้หันปลายกระบอกปืนไปที่ผู้หญิง ถุงมือที่ใส่อยู่มันเข้าไปขัดในโก่งไกปืน แล้วพอผมพยายามดึงถุงมือให้ขยับออก มันยิงออกไปอีก 2 นัด ถุงมือเข้าไปพันไกปืน”
เห็นเด็กไหม ทำไมยิงเด็ก นักข่าวถาม
“เด็กนี่ผมไม่เห็นนะครับ ผมยิง รปภ. เพื่อเปิดทาง ผมคาดว่า ลูกกระสุนจะแฉลบไปโดนเด็ก อันนี้ผมไม่ได้ตั้งใจครับ เรื่องการยิงเด็ก”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ไม่รู้สึกผิดเลยเหรอ
“รู้สึกสำนึกครับ สำนึกว่าผิดครับ พอดูข่าวแล้วลูกกระสุนที่ว่าไปโดนเด็ก รู้สึกสำนึกและเสียใจกับการกระทำครับ”
ใช้ชีวิตสุขสบาย แต่ในใจรู้สึกผิด
หลังจากที่ยิงเสร็จแล้ว ทำไมถึงกลับไปใช้ชีวิตแบบสุขสบายตามที่เป็นข่าว
“คือผมก็พยายามทำตัวให้เป็นปกติ ไม่ได้คิดหนีคิดอะไร แต่ว่าในใจทุกครั้งที่เห็นข่าว ก็เสียใจกับการกระทำ” ผู้ต้องหาตอบ
ผู้สื่อข่าวถามจี้ว่า ยิงเปิดทางแล้วทำไมต้องยิงคนด้วย ทำไมไม่ยิงขู่ แค่ยิงขู่ก็พอแล้ว ถ้ายิงเปิดทางอย่างที่กอล์ฟพูดเมื่อสักครู่
“ผมได้ยิงไปที่ตู้กระจกทอง 2 นัด แต่ผมไม่คิดว่าลูกกระสุนจะไปโดนผู้หญิงพนักงาน แล้วพอเจอผู้ชายกับผู้หญิง เหมือนกับว่ากระทำไปแล้ว มันเหมือนอารมณ์มันหลุดไปแล้วครับ ก็ต้องกล่าวคำว่าเสียใจและขอโทษด้วยครับ
“ก็อยากจะกล่าวคำว่าเสียใจ ขอโทษกับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะกับน้องไทตัล แล้วก็พนักงาน และทุกคนที่ผมได้ยิง ผมเสียใจและขอโทษครับ” ผู้ต้องหากล่าว
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาคิดและตั้งใจจะมอบตัวในวันที่ 24 มกราคมนี้ เมื่อถามว่า ทำไมต้องเป็นวันนั้น ผู้ต้องหาตอบว่า เพราะยังมีภารกิจที่โรงเรียนต้องทำ
ตำรวจว่าตามหลักฐาน มูลเหตุจูงใจไม่เกี่ยวกับคดี
พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ต้องแยกระหว่างคำให้การกับหลักฐานออกจากกัน คำพูดว่า เหตุจูงใจเกิดจากอะไรเป็นแค่คำพูด จริงเท็จเราไม่ทราบ แล้วคำพูดก็เปลี่ยนได้เรื่อยๆ เป็นสิทธิของผู้ต้องหา แต่ว่าตำรวจยืนยันตามกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา ตำรวจฟันธงตามหลักฐานว่า มูลเหตุประสงค์ต่อทรัพย์ ส่วนจะเพื่ออะไรอย่างไรนั้นอยู่ในสำนวน และตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานว่ามีคนอื่นร่วมทำด้วย
“ผมเรียนแล้วครับ เราฟันธงตามกรรม เขาเดินเข้าไปยิงคนตาย เอาทองไป เอาไปซุก แต่ถ้าบอกว่า อยากฆ่าตัวตายมันก็เรื่องหนึ่ง เราเอากรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา” พล.ต.อ. สุวัฒน์ กล่าว
ซ้อมยิงปืนก่อนบุกชิงทอง ปลอกกระสุนที่ใช้ซ้อมมัดตัว
สำหรับหลักฐานสำคัญที่นำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายได้คือ ก่อนเกิดเหตุ คนร้ายได้ซ้อมยิงปืนที่บ้านหลังหนึ่งในจังหวัดสิงห์บุรี ตำรวจจึงเข้าเก็บปลอกกระสุนปืนที่ซ้อมยิงจำนวน 81 ปลอก มาตรวจสอบ พบว่า ตรงกับปลอกกระสุนปืนยี่ห้อ NRC เลขล็อตผลิต D621101 ซึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 14 ปลอก
นอกจากนี้ยังพบ DNA ของผู้ต้องหาตรงกับหมวกไหมพรมที่ใช้ก่อเหตุ ขณะที่ทองคำที่ชิงทรัพย์มา ถูกค้นพบที่บ้านบิดาของผู้ต้องหา ส่วนมอเตอร์ไซค์เป็นของพ่อตา มีตำหนิ เพราะติดสติกเกอร์ที่บังโคลนหน้ารถ
ส่วนปืนเป็นของบิดา ปลอกลดเสียงยี่ห้อ SWR คนร้ายสั่งซื้อมาก่อนนำไปทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยาที่สะพานบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
