GlobalFoundries บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ประกาศในวันนี้ (22 มิถุนายน ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ) ว่าพวกเขาจะดำเนินการสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ในสิงคโปร์ เพื่อแก้ปัญหาชิปขาดตลาดและดีมานด์ที่ล้นเกินความสามารถในการผลิตของซัพพลายเชนโลก
การจัดตั้งโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ในสิงคโปร์นี้ GlobalFoundries จะทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจสิงคโปร์ (EDB) รวมถึงการได้รับเงินลงทุนร่วมจากกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจ โดยคาดว่าการจัดตั้งโรงงานแห่งนี้จะทำให้เม็ดเงินเข้าประเทศสิงคโปร์เบื้องต้นมากกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.27 แสนล้านบาท (เงินจากการลงทุนสร้างโรงงาน)
ทอม คอลฟิลด์ ซีอีโอ GlobalFoundries กล่าวในแถลงการณ์ของบริษัทว่า “โรงงานแห่งใหม่ของเราในสิงคโปร์จะทำหน้าที่ตอบสนองความต้องการของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ที่ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์, 5G และเซกเมนต์ของอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ด้วยข้อตกลงระยะยาวกับลูกค้าที่ได้มีการพูดคุยเอาไว้แล้ว”
ด้าน เบห์ สวอน กิน ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจสิงคโปร์ ระบุว่า อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จะเป็นอีกหนึ่งเสาหลักสำคัญของสิงคโปร์ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการผลิต และในขณะเดียวกันการเข้าลงทุนของ GlobalFoundries ก็จะเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่ชี้ให้เห็นถึง ‘ความน่าดึงดูด’ ของสิงคโปร์ในด้านการเป็นโหนดของอุตสาหกรรมการผลิตและนวัตกรรมขั้นสูง
ทั้งนี้ ปัญหาชิปขาดแคลนในตลาดอุตสาหกรรมการผลิตโลกในปัจจุบันได้สร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญให้กับแวดวงการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สินค้ากลุ่มไอที และโดยเฉพาะ ‘รถยนต์’ จนทำให้ผู้ผลิตและผู้บริโภคแต่ละรายพบเจอปัญหาและได้รับแรงกระแทกที่ต่างกันออกไป ตั้งแต่สินค้าที่ต้องการขาดตลาด ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น เป็นต้น
ปัจจุบันผู้ผลิตรายใหญ่ในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ที่ครองแชร์ในเชิงรายได้สูงสุดจากการเปิดเผยของ TrendForce คือ TSMC ที่มีส่วนแบ่ง 56% ตามมาด้วย Samsung 18%, UMC และ GlobalFoundries ที่บริษัทละ 7% เท่าๆ กัน
อ้างอิง:
