วันนี้ (7 เมษายน ) ชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้แก่กลุ่มเสี่ยงที่ทำงานสถานบริการในพื้นที่เขตวัฒนา พร้อมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยมี คณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักอนามัย สำนักงานเขตวัฒนา ศูนย์บริการสาธารณสุข 21 วัดธาตุทอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับและร่วมลงพื้นที่ ณ ลานกีฬาแสงทิพย์ เขตวัฒนา
ชวินทร์กล่าวว่า การฉีดวัคซีนในวันนี้เป็นการควบคุมไม่ให้มีการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เนื่องจากที่ผ่านมาเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 กลุ่มก้อนใหม่ในสถานบริการย่านทองหล่อ คณะอนุกรรมการการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร ได้เห็นชอบให้นำวัคซีนมาฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงที่ทำงานสถานบริการในพื้นที่เขตวัฒนา เขตคลองเตย และเขตบางแค รวมถึงบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว
กรุงเทพมหานครได้เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนเมื่อวานนี้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 21 วัดธาตุทอง โดยได้นัดประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่ทำงานสถานบริการมารับวัคซีน ตั้งเป้าไว้จำนวน 300 คน มีผู้มารับบริการฉีดวัคซีน 225 คน ส่วนระหว่างวันที่ 7-9 เมษายน 2564 ตั้งเป้าไว้วันละ 600 คน แบ่งเป็นช่วงเช้า 300 คน ช่วงบ่าย 300 คน รวมทั้งสิ้น 1,800 คน ซึ่งขั้นตอนการฉีดวัคซีนจะเริ่มจากการลงทะเบียน ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน ต่อมาจะตรวจคัดกรอง ซักประวัติ จากนั้นจะฉีดวัคซีน หลังจากได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเจ้าหน้าที่จะให้นั่งพักสังเกตอาการเป็นเวลา 30 นาที หากไม่มีอาการใดๆ ก็ให้กลับบ้านได้ โดยผู้ที่รับวัคซีน Sinovac เข็มแรก จะต้องรับวัคซีนเข็มที่ 2 ภายใน 2-4 สัปดาห์ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำหนดให้ผู้ที่มารับบริการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในช่วงวันที่ 28 เมษายน 2564 เป็นต้นไป ในภาพรวมการดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ชวินทร์กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันโรคเท่านั้น หากได้รับเชื้อโควิด-19 เข้าไป บางรายอาจไม่แสดงอาการ แต่ยังสามารถที่จะแพร่เชื้อไปยังผู้ที่ใกล้ชิดได้ ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ขอให้ปฏิบัติตามหลัก DMHTT อย่างเคร่งครัด ประกอบด้วย Distancing การเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร Mask Wearing การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา Hand Washing ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ Testing สถานประกอบการให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจคัดกรองบุคคลต่างๆ ก่อนเข้าพื้นที่หรือจุดบริการ และ ThaiChana นำแพลตฟอร์ม ‘ไทยชนะ’ มาใช้ โดยให้ผู้เข้าพื้นที่สแกนก่อนเข้า-ออกทุกครั้ง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19