สมาคมฟุตบอลเยอรมัน หรือเดเอฟเบ ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหยียดเชื้อชาติจาก เมซุต โอซิล กองกลางวัย 29 ปี ที่เพิ่งประกาศอำลาทีมชาติเยอรมันหลังตกรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย
ทางเดเอฟเบได้ยืนยันว่า ทางสมาคมฯ ขอปฏิเสธการมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเหยียดเชื้อชาติ แต่ยอมรับว่า ควรที่จะพยายามปกป้องโอซิลจากการถูกเหยียดเชื้อชาติมากกว่านี้
“เป็นสิ่งที่น่าเสียใจที่ เมซุต โอซิล รู้สึกว่าไม่ได้รับการปกป้องในการเป็นเป้าหมายของการเหยียดเชื้อชาติ
“เดเอฟเบยืนหยัดเพื่อความหลากหลายในทุกภาคส่วน”
นอกจากนี้ทางบีบีซี สำนักข่าวในประเทศอังกฤษได้สำรวจกระแสตอบรับจากทางฝั่งเยอรมนีและตุรกีต่อการตัดสินใจครั้งนี้ของโอซิล
โดยฝั่งเยอรมนีที่มีประชากรเชื้อชาติตุรกี 3 ล้านคน ทางหนังสือพิมพ์ของเยอรมนีเปิดเผยว่า แม้โอซิลจะยืนยันว่า เป็นการแสดงความเคารพต่อผู้นำประเทศของเชื้อชาติตุรกี แต่เขาไม่สนใจว่า เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ผู้นำของตุรกีเป็นผู้ที่มีจุดยืนอยู่ตรงข้ามกับคุณค่าทางสังคมของเยอรมนีและตุรกี
Die Welt หนังสือพิมพ์ของเยอรมนีกล่าวถึงการสวมเสื้อทีมชาติเยอรมันว่า เป็นมากกว่าเพียงแค่การเล่นฟุตบอลที่ดีในสนาม
“นักเตะทีมชาติเป็นตัวอย่างของสังคม โดยเฉพาะกับเยาวชนที่มีเชื้อสายผู้อพยพ
“เยอรมนีได้ออกแบบความคาดหวังจากตัวนักกีฬา ทุกคนที่มีหลายเชื้อชาติต้องตัดสินใจว่าต้องการทำอะไร คนที่ถือพาสปอร์ตของเยอรมนี และสวมเสื้อทีมชาติต้องรู้ถึงความหมายของมัน ในกรณีของโอซิลได้ทำให้ทุกอย่างชัดเจนแล้ว”
ขณะที่ฝั่งของตุรกี ทางรัฐบาลได้แสดงท่าทีเห็นด้วยกับการตัดสินใจของโอซิล
“สำหรับนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จในระดับสูง เขาได้มอบเหตุผลและคำอธิบายที่ยอดเยี่ยมต่อการเข้าพบ ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน แต่ลองคิดถึงความกดดันมหาศาลที่นำเขาสู่การตัดสินใจที่จะร่างคำแถลงการณ์นั้นขึ้นมา” อิบราฮิม คาริน โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีตุรกีได้กล่าวถึงการตัดสินใจของโอซิล
ขณะที่สื่อตุรกีทั้งทางหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ที่มีท่าทีสนับสนุนรัฐบาลตุรกี ได้นำเสนอข่าวโอซิลอย่างต่อเนื่อง โดยหนังสือพิมพ์ Milliyet ในตุรกีพาดหัวว่า
‘ใบแดงสำหรับการเหยียดเชื้อชาติ’
สำหรับ เมซุต โอซิล ประกาศอำลาทีมชาติผ่านแถลงการณ์ทั้งหมด 4 หน้า บนโลกออนไลน์ หลังจากที่เขาโดนโจมตีทางการเมืองจากภาพที่เขาถ่ายร่วมกับ ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน และตกเป็นหนึ่งในเหยื่อของแฟนบอลที่ไม่พอใจผลงานทีมชาติเยอรมันที่ตกรอบแบ่งกลุ่มในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้
Photo: AFP
อ้างอิง