ผู้นำเยอรมนีถูกกดดันให้ดำเนินนโยบายแข็งกร้าวต่อจีน จากกรณีกฎหมายความมั่นคงฮ่องกง

อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากนักการเมืองในประเทศ ให้ปรับเปลี่ยนนโยบายใหม่ต่อจีน จากกรณีการผ่านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง ซึ่งเป็นชนวนให้เกิดความบาดหมางระหว่างจีนกับหลายประเทศในยุโรป

กฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่มอบอำนาจแก่ตำรวจฮ่องกงในการสอดส่อง จับกุม และดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยในข้อหาปลุกปั่น พยายามแบ่งแยกดินแดน ก่อการร้าย หรือสมคบคิดกับต่างชาติบ่อนทำลายและคุกคามอธิปไตยของจีน ซึ่งไม่เพียงแต่บังคับใช้กับคนฮ่องกงเท่านั้น แต่ยังมีผลครอบคลุมชาวต่างชาติด้วย โดยสหราชอาณาจักรมองว่า กฎหมายนี้ลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการปกครองตนเองของฮ่องกง ซึ่งขัดต่อคำมั่นสัญญาที่จีนให้ไว้กับอังกฤษ เมื่อตอนที่ส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนให้จีนในปี 1997 

นักการเมืองหลายคนในเยอรมนีวิจารณ์แมร์เคิลว่ามีท่าทีที่อ่อนเกินไปต่อจีน เพราะกฎหมายนี้กระทบพลเมืองเยอรมันที่อาศัยอยู่ในฮ่องกงด้วย โดยก่อนหน้านี้กระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนีได้ออกประกาศเตือนพลเมืองไม่ให้โพสต์แสดงความเห็นในประเด็นอ่อนไหวทางการเมืองในโซเชียลมีเดีย เพราะอาจถูกทางการจับกุมได้

นอร์เบิร์ต รอตต์เยน สมาชิกพรรคคริสเตียน เดโมเครติก ยูเนียน (CDU) ของแมร์เคิล ซึ่งดำรงบทบาทเป็นประธานคณะกรรมาธิการด้านวิเทศสัมพันธ์ของรัฐสภาเยอรมนี แสดงความเห็นว่า สิ่งที่รัฐบาลเยอรมนีพูดเกี่ยวกับฮ่องกงนั้นน้อยมากและไม่เพียงพอ

ที่ผ่านมาแมร์เคิลพยายามเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับปักกิ่ง รวมถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจในหลายมิติ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแมร์เคิลย้ำว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเยอรมนีมีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ต่อสหภาพยุโรป (EU)

ขณะที่ นิลส์ ชมิด โฆษกด้านนโยบายต่างประเทศของพรรคโซเชียลเดโมแครต ให้ความเห็นว่า นโยบายของแมร์เคิลที่มีต่อจีนนั้นไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เธอยึดติดกับแนวคิดที่ว่าต้องกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีนให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพื่อให้จีนกลายมาเป็นประเทศเสรีนิยมมากขึ้น และเป็นแบบชาติตะวันตกมากขึ้น แต่นั่นเป็นความคิดที่ล้าสมัย 

ท่าทีของแมร์เคิลเป็นด้านกลับกันของนโยบายของหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร โดยก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ได้ออกมาประณามการออกกฎหมายของจีน รวมทั้งเสนอมอบวีซ่าแก่พลเมืองฮ่องกง 3 ล้านคน ให้มาอาศัยในสหราชอาณาจักรได้ ขณะที่จีนตอบโต้โดยการขู่ใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อสหราชอาณาจักร

ส่วนสหรัฐฯ ได้ผ่านกฎหมายอนุมัติให้คว่ำบาตรธนาคารที่ทำธุรกิจกับเจ้าหน้าที่จีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลักดันกฎหมายความมั่นคง ซึ่งเป็นอีกปมความขัดแย้งที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ตกต่ำและตึงเครียดมากขึ้นไปอีก    

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

• https://www.businessinsider.com/german-chancellor-angela-merkel-accused-too-close-to-china-2020-7
• https://www.ft.com/content/bf1adef9-a681-48c0-99b8-f551e7a5b66d