×

จากเนปาลถึงฟิลิปปินส์ คลื่น ‘Gen Z’ ลุกฮือทั่วเอเชีย เมื่อคนรุ่นใหม่ไม่ทนความเหลื่อมล้ำและกลโกงภาษีนับแสนล้าน

22.09.2025
  • LOADING...
ผู้ชุมนุม Gen Z ฟิลิปปินส์ ถือป้ายประท้วงรัฐบาลทุจริตงบน้ำท่วมที่กรุงมะนิลา

หากทศวรรษ 1920 ที่การประท้วงเคยเดือดดาล ทศวรรษ 2020 ก็กำลังจะกลายเป็นทศวรรษแห่งความโกรธแค้น ซึ่งไม่ใช่แค่ประเทศใหญ่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ในช่วง 5 ปีนี้ เราได้เห็นการประท้วงครั้งใหญ่ลุกลามไปทั่วเอเชีย  

 

เริ่มตั้งแต่ในปี 2022 กรุงโคลัมโบ เกิดการประท้วงท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดของศรีลังกา นำไปสู่การล่มสลายอย่างย่อยยับของตระกูลผู้ทรงอำนาจและรัฐบาล

 

2 ปีต่อมา ชีค ฮาสินา นายกรัฐมนตรีบังกลาเทศ ได้หลบหนีออกจากเมืองหลวงด้วยเฮลิคอปเตอร์ หลังจากฝูงชนบุกเข้าไปในพระราชวัง กระทั่งสิ้นสุดการครองราชย์ 15 ปี

 

ปีนี้ 2025 ในเดือนที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียว ทั้งอินโดนีเซียและเนปาล ที่ห้ามใช้แอปโซเชียลมีเดีย 26 ​​ช่องทาง และฟิลิปปินส์ในวันนี้ ต่างเห็นการประท้วงบนท้องถนนของกลุ่มคนรุ่นใหม่

 

การประท้วงในลักษณะคล้ายคลึงกันเหล่านี้ ลุกฮือทั่วทั้งเอเชีย ยังไม่นับรวมในอียิปต์ในปี 2010 ฮ่องกงในปี 2019 และอิหร่านในปี 2022

  

แม้ต่างกันด้วยวัน เวลา และภาษา แต่ทั้งหมดล้วนเริ่มมาจากการจุดปะทุบนโซเชียลมีเดีย นำโดยนักเคลื่อนไหวรุ่นใหม่ที่เบื่อหน่ายกับระบบคอร์รัปชัน และการเล่นพรรคเล่นพวกแบบเดิมๆ  

 

“ปัจจุบัน โซเชียลมีเดียไม่ได้เป็นเพียงเว็บไซต์  บันเทิงอีกต่อไป แต่มันกลับกลายเป็นเว็บไซต์ทางการเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ หากรัฐบาลไม่สามารถทำตามสัญญาได้ โซเชียลมีเดียเป็นแพลตฟอร์มทรงพลัง นอกจากเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ยังเป็นช่องทางในการแสดงความไม่พอใจถึงการทำงานของรัฐบาล” ดร. ดี. บี. ซูเบดี อาจารย์ประจำภาควิชาสันติภาพและการศึกษาความขัดแย้ง มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ กล่าว

 

โดยจะเห็นได้ว่าเมื่อเร็วๆ นี้ ในเนปาลและอินโดนีเซีย แสดงความเห็นการทำงานของนักการเมือง ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง TikTok, Instagram และ Discord  ที่ได้เปิดโปงงบสวัสดิการที่ฟุ่มเฟือยของรัฐมนตรีในรัฐบาล 

 

ตามมาด้วยวิดีโอไวรัลของคนขับรถส่งของที่ถูกรถตำรวจชนเสียชีวิต เป็นชนวนให้เกิดการประท้วง เช่นเดียวกับ ล่าสุด ชาวฟิลิปปินส์เรียกร้องให้รับผิดชอบต่อการทุจริตคอร์รัปชันมูลค่าหลายพันล้านเปโซที่รัฐบาลควบคุมงบน้ำท่วม แม้รัฐบาลจะอยู่ในขั้นสอบสวนก็ตาม

 

 

ชาวฟิลิปปินส์ ลุกฮือประท้วงรัฐบาลโกงงบน้ำท่วม 

 

21 กันยายน ผ่านที่มา ประชาชนฟิลิปปินส์หลายหมื่นคนออกมาชุมนุมในกรุงมะนิลาและพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ  เพื่อแสดงพลังต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในรัฐบาลปัจจุบัน

 

การชุมนุมที่ส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสงบครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ประธานาธิบดี Ferdinand Marcos Jr. เปิดเผยเมื่อเดือนกรกฎาคมว่าโครงการควบคุมน้ำท่วมจำนวนมากของรัฐกลายเป็น “แหล่งหากินหัวคิว” ของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐ ประเด็นนี้เป็นสาเหตุหลักที่สะเทือนใจประชาชนเป็นอย่างมาก  

 

รายงานข่าวระบุอีกว่า มีการเปิดเผยข้อมูลว่า ฟิลิปปินส์อาจสูญเสียเศรษฐกิจจากการทุจริตในโครงการควบคุมน้ำท่วมถึง 1.48 พันล้านปอนด์หรือราว 60,000 ล้านบาท ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา 

 

ขณะที่กลุ่มกรีนพีซคาดว่า ความเสียหายจากการทุจริตในปี 2023 อาจสูงถึง 13 พันล้านปอนด์ ทั้งนี้ เนื่องจากฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับพายุและมรสุมเฉลี่ยปีละ 20 ลูก ซึ่งโครงการเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อบรรเทาภัยพิบัติในประเทศที่มักเผชิญน้ำท่วมและพายุรุนแรงอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยถูกนำมาใช้จริง

 

Francis Aquino Dee หนึ่งในแกนนำการประท้วงกล่าวว่า “ตอนนี้ประชาชนต้องทนทุกข์จากพายุและน้ำท่วม แต่กลับมีคนบางกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชันในโครงการเหล่านี้ ใช้ชีวิตหรูหราและอวดรวยบนโซเชียลมีเดีย”  

 

แม้ตลาดการเงินฟิลิปปินส์ยังผันผวนมากนัก โดยค่าเงินเปโซยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แต่ดัชนีหุ้นหลักปรับตัวขึ้นเกือบ 2% ในเดือนนี้

 

รายงานระบุว่า มีผู้ร่วมชุมนุมกว่า 1 แสนคนที่อนุสาวรีย์ People Power Monument และบริเวณศาลเจ้าใจกลางกรุงมะนิลา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการปฏิวัติประชาชนปี ค.ศ. 1986 ที่โค่นล้มเผด็จการ Ferdinand Marcos บิดาของผู้นำปัจจุบัน 

 

ขณะที่ อีกประมาณ 5 หมื่นคนรวมตัวกันที่สวนสาธารณะก่อน จะเคลื่อนขบวนไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วเมือง การชุมนุมครั้งนี้ดึงดูดผู้เข้าร่วมที่หลากหลาย ทั้งนักศึกษา ผู้นำศาสนา กลุ่มเคลื่อนไหว และนักการเมืองบางส่วน โดยมีการประท้วงพร้อมกันในหลายภูมิภาคของประเทศ

 

Jonvic Remulla รัฐมนตรีมหาดไทยและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวในแถลงการณ์ว่า “เราจะปกป้องสิทธิของประชาชนในการชุมนุม อย่างสงบเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม แต่จะไม่ยอมให้เกิดความวุ่นวายและความรุนแรง”

 

รายงานข่าวระบุว่า เมื่อต้นเดือนนี้ Marcos ได้ตั้งคณะกรรมการอิสระสอบสวนการทุจริตโครงการบริหารจัดการน้ำท่วม พร้อมสั่งอายัดบัญชีธนาคารหลายร้อยบัญชีที่เกี่ยวข้อง กระทั่งญาติของเขาซึ่งเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร  ประกาศลาออกท่ามกลางข้อกล่าวหาพัวพันการคอร์รัปชัน แม้ Marcos จะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาก็ตาม

 

ภาพ: NurPhoto,  Ezra Acayan / Getty images 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising