ผลการศึกษาใหม่ล่าสุดที่ถูกเปิดเผยเป็นครั้งแรกในงาน Luxury Summit Asia ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในโลกการท่องเที่ยว เมื่อนักเดินทาง Gen Z กำลังเปลี่ยนมุมมองจากการท่องเที่ยวแบบแพ็กเกจหรูครบวงจร มาสู่การเลือกจ่ายเงินให้กับประสบการณ์เฉพาะทางที่มีความหมายและเติมเต็มจิตใจ ซึ่งสะท้อนค่านิยมใหม่ของคนรุ่นที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงสุดของภูมิภาคในอนาคต
รายงานการศึกษาเชิงลึกภายใต้หัวข้อ À La Carte Luxury: Gen Z’s Selective Indulgence Approach to Travel ซึ่งจัดทำร่วมกันโดย BurdaLuxury และ Vero ได้สำรวจกลุ่มตัวอย่าง Gen Z ประมาณ 2,500 คนใน 7 พื้นที่ของเอเชียแปซิฟิก รวมถึงประเทศไทย เพื่อสำรวจลำดับความสำคัญในการใช้จ่ายของคนกลุ่มนี้
ผลสำรวจพบว่า ‘ความบันเทิง’ คือสิ่งที่ Gen Z ให้ความสำคัญในการใช้จ่ายเป็นอันดับหนึ่ง โดย 64% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าการท่องเที่ยวคือความบันเทิงรูปแบบหนึ่ง และยินดีลงทุนกับประสบการณ์พรีเมียมที่สนุกและมีความหมาย สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์เป็นหลัก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Social Media กำลังจะตาย? We Are Social เผยอินไซต์จากเวทีโลก เมื่อ ‘เกม’ คือสมรภูมิใหม่แย่งชิงความสนใจ Gen Z
- Gen Z ‘แบกเป้’ ลุยเดี่ยว! Baby Boomers ‘ลากกระเป๋า’ ทัวร์หรู! สงกรานต์นี้ 2 เจน 2 สไตล์ เที่ยวคนละขั้ว
- เบื่อเที่ยวแบบเดิม! Gen Z และ Millennials แห่ ‘ปักหลัก’ ใช้ชีวิตในโรงแรมนานขึ้น! แถม 7 ใน 10 ยอมจ่ายเพิ่มพักโรงแรมรักษ์โลก!
เมื่อเจาะจงถึงรูปแบบของความบันเทิงที่คนรุ่นใหม่พร้อมลงทุน พบว่า 61% ต้องการใช้จ่ายไปกับเทศกาลทางวัฒนธรรม ในขณะที่กว่า 40% มองว่าคอนเสิร์ต, เทศกาลดนตรี และการไปเยี่ยมชมสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ เป็นสิ่งที่คุ้มค่า
แม้ ‘ความบันเทิง’ จะเป็นเป้าหมายในการใช้จ่ายระหว่างทริป แต่ ‘ประสบการณ์ด้านอาหาร’ กลับเป็นปัจจัยที่ทรงอิทธิพลที่สุดถึง 92% ในการตัดสินใจเลือกจุดหมายปลายทางของนักเดินทาง Gen Z สิ่งที่คนกลุ่มนี้ชื่นชอบคือการได้สัมผัสวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นอย่างแท้จริง ผ่านการเดินตลาด (35%) และการลิ้มรสอาหารจากเชฟท้องถิ่นชื่อดัง (29%) ซึ่งเป็นประตูสู่การเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของคนในชุมชน
เทรนด์การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาวะที่ดี (Wellness) มาแรงเป็นอันดับสองในการใช้จ่าย โดยนักเดินทาง Gen Z ถึง 85% ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต และมองว่าการเดินทางคือโอกาสในการดูแลอารมณ์และจิตใจ โดย ความต้องการด้าน ‘Wellness’ จึงขยายไปถึงการใกล้ชิดธรรมชาติ โดย 59% พร้อมจ่ายเงินให้กับกิจกรรมอย่างการอาบป่า (Forest Bathing) หรือการเดินป่าแบบมีไกด์นำทาง เพื่อฟื้นฟูจิตใจ
ในขณะเดียวกัน ‘ความยั่งยืน’ ก็กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณา โดยเกือบ 7 ใน 10 คนใส่ใจกับการเลือกที่พักและกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยินดีจ่ายเงินเพิ่มให้กับที่พัก (59%) และร้านอาหาร (52%) ที่มีความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ อิทธิพลของโซเชียลมีเดียยังมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ผลสำรวจพบว่า 77% ของผู้ตอบแบบสอบถามเคยเลือกเดินทางไปยังสถานที่แห่งหนึ่งเพียงเพราะเห็นว่ากำลังเป็นที่นิยมในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในไทยที่ 71% ให้ความสำคัญกับทิวทัศน์ที่สวยงามเพื่อนำไปสร้างคอนเทนต์
อุมาพร วิทเทเกอร์-ทอมป์สัน จาก Vero กล่าวว่า กระแสใหม่นี้สะท้อนว่า Gen Z ไม่ได้มองหาแค่ผลตอบแทนจากเงินที่จ่าย (ROI) แต่กำลังมองหา ‘ประสบการณ์ที่ได้เก็บเกี่ยว’ หรือ ROX (Return on Experience) ซึ่งเป็นเรื่องราวที่มีคุณค่าและสามารถนำไปแบ่งปันต่อได้
“แบรนด์ต้องมีบทบาทเป็นเพื่อนเดินทางที่คนรุ่นใหม่ไว้ใจ ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ชื่อเสียงหรือสถานะของบุคคลนั้น แต่คือ ‘ความจริงใจ’ เนื่องจากคน Gen Z ให้คุณค่ากับเรื่องราวที่มีความหมาย” อุมาพรกล่าวเสริม
คริสทอฟ พาเกล จาก BurdaLuxury เสริมว่า แบรนด์ต้องมอบประสบการณ์ที่เป็นธรรมชาติและตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล ไม่ใช่สิ่งที่ถูกจัดฉาก “กิจกรรมต่างๆ ล้วนมีจุดมุ่งหมายและสะท้อนตัวตนของนักเดินทางทุกคน ไม่ใช่แค่ทำตามเช็กลิสต์ที่กำหนดไว้ แต่ต้องตอบโจทย์สิ่งที่พวกเขาใส่ใจจริง ๆ” เขากล่าว
ดังนั้น ธุรกิจในภาคการท่องเที่ยวจึงจำเป็นต้องปรับตัวจากการเป็นเพียง ‘ผู้ให้บริการ’ มาสู่การเป็น ‘เพื่อนร่วมเดินทาง’ ที่พร้อมสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่มีคุณค่าและตอบโจทย์เฉพาะบุคคล แบรนด์ที่สามารถส่งมอบความจริงใจและสร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำได้ จะเป็นผู้ชนะในตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยนักเดินทาง Gen Z อย่างแท้จริง
ภาพ: DavideAngelini/ Shutterstock