การจัดอันดับดัชนี S&P 500 สลับกันขยับขึ้นและลงผันผวนมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013 ความผันผวนของการจัดอันดับดังกล่าวอาจมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากวิกฤตการณ์โควิด เนื่องจากการแพร่ระบาดได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจอย่างกะทันหันและการประเมินมูลค่าของบริษัทด้วย
ในบรรดาบริษัทที่ติด 50 อันดับแรกในปีนี้มีหลายบริษัทที่คว้าโอกาสที่เกิดจากการแพร่ระบาด เช่น Salesforce Inc. บริษัทซอฟต์แวร์, Advanced Micro Devices Inc. บริษัทเซมิคอนดักเตอร์, Intel Corp. บริษัทเทคโนโลยี, Intuit Inc. บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์ทางการเงิน รวมถึง Boeing Co., Netflix Inc. และ Qualcomm Inc.
ส่วนอันดับ 1 ในดัชนี S&P 500 นั้นเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Apple Inc. ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่าตลาดหุ้นของฝรั่งเศส ในขณะที่บริษัท 10 อันดับแรกตามมูลค่าสินทรัพย์ตามราคาตลาดปัจจุบันมีมูลค่าเท่ากับบริษัท 415 ที่อยู่อันดับด้านล่าง วันนี้ THE STANDARD WEALTH จะพาไปดูหุ้นที่มีบทบาทมากที่สุดในด้านต่าง ๆ ในปี 2023
หุ้นทรงคุณค่า: Nvidia
Nvidia Corp. เป็นบริษัทแรกในรอบ 20 ปีที่ก้าวขึ้นมาสู่ Top 5 ของ S&P 500 จากบริษัทที่ไม่ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของต้นปีด้วยซ้ำ มูลค่าของบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 8.29 แสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากความต้องการชิปที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่สูงขึ้นอย่างมาก
หุ้นที่มีการพัฒนามากที่สุด: หุ้นกลุ่มเรือสำราญ
Royal Caribbean Cruises Ltd. (RCL) ฟื้นตัวขึ้นจากช่วงวิกฤตการณ์โควิด โดยขยับขึ้นมา 165 อันดับมาอยู่อันดับที่ 252 บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในดัชนี S&P 500 บริษัทขึ้นมาแซงหน้า Warner Bros., Discovery Inc. และ Delta Air Lines Inc. ส่วนหุ้นด้านการเดินทางและความบันเทิง เช่น Expedia Group Inc., Live Nation Entertainment Inc. และ Hilton Worldwide Holdings Inc. ต่างก็ขยับขึ้น 40 อันดับเช่นกัน เนื่องจากผู้บริโภคต้องการเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ต้องพบปะเจอหน้ากันมากขึ้น
หุ้นที่ถูกลืม: พลังงานหมุนเวียน
Enphase Energy Inc. ซึ่งถูกมองว่าจะเป็นบริษัทที่ดิสรัปต์วงการโซลาร์เซลล์ และเคยมีมูลค่ามากกว่า 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อต้นปี ขณะนี้ได้สูญเสียมูลค่าตลาดไปเกือบครึ่งหนึ่ง และขยับลงมา 141 อันดับมาอยู่ที่ 352 เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ความต้องการใช้จ่ายในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ลดลง ขณะที่ Peer SolarEdge Technologies Inc. ได้ถูกถอดออกจากดัชนี หลังจากที่ร่วงลง 67% ในปีนี้
ทางด้าน Moderna Inc., Dollar General Corp., Albermarle Corp., AES Corp. และ FMC Corp. ต่างก็ร่วงลงอย่างน้อย 95 อันดับในปีนี้ ซึ่งมูลค่าตลาดหายวับไปกว่า 9 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นหน้าใหม่แห่งปี
นับตั้งแต่เข้ามาอยู่ในดัชนีเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ราคาหุ้นของบริษัท Fair Isaac Corp. ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังการจัดคะแนนเครดิต FICO ได้เพิ่มขึ้นกว่า 60% และอยู่อันดับที่ 272 ขณะนี้ Blackstone Inc. อยู่ใน 50 อันดับแรก ซึ่งสูงที่สุดในบรรดาหุ้นที่ถูกเพิ่มเข้ามาในดัชนีรอบใหม่ในปีนี้ แม้ว่าเพิ่งเข้ามาในดัชนีเมื่อเดือนกันยายนเท่านั้น ซึ่งปกติแล้วดัชนี S&P 500 จะมีการ Rebalance ดัชนีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดใหม่ทุกไตรมาส โดยจะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม, มิถุนายน, กันยายน และธันวาคม ของทุกปี
หุ้นที่อยู่ในความทรงจำ
หุ้นหลายตัวถูกถอดออกจากดัชนีในปีนี้ รวมถึง SVB Financial Group, Signature Bank และ First Republic Bank ที่ล้มละลายในช่วงวิกฤตธนาคารเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ในบรรดาหุ้น 15 ตัวที่ถูกถอดออกจากดัชนีนั้น มีบริษัท 11 แห่งที่ยังคงมีการซื้อ-ขายอยู่ และมีมูลค่าตลาดที่หายไปทั้งสิ้นประมาณ 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบริษัท SolarEdge Technologies Inc., Advanced Auto Parts Inc. และ DISH Network Corp. คิดเป็นประมาณ 2 ใน 3 ของมูลค่าตลาดดังกล่าวที่หายไป
อ้างอิง:
