รู้หรือไม่ว่า ‘G-Able’ คือหนึ่งในผู้บุกเบิกวงการไอทีในประเทศไทย โดยเป็นผู้พัฒนาระบบ UNIX รุ่นแรกๆ และยังเป็นหนึ่งในผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานให้กับโครงข่ายอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งนี่เป็นจุดเริ่มที่นำทุกคนมาสู่ยุค 5G ในทุกวันนี้ 

 

กว่า 33 ปีที่ผ่านมา จากจุดเริ่มต้นที่เป็นผู้นำการวางรากฐานระบบงานไอที มาจนถึงทุกวันนี้ G-Able คือ ‘Tech Enabler’ ที่นำเทคโนโลยีมาช่วยให้ธุรกิจและชีวิตของผู้คนดีขึ้นในโลกยุคดิจิทัล ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปได้และเป็นเรื่องที่ง่ายอีกด้วย

 

และวันนี้ G-Able กำลังจะมีก้าวสำคัญครั้งใหม่กับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกไม่นาน 

 

 

ด้วยเหตุนี้เราจึงอยากชวนทำความรู้จักกับ G-Able ให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น

 

สำหรับบริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ G-Able นั้น ประกอบธุรกิจให้บริการโซลูชันระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัลอย่างครบวงจร ซึ่งครอบคลุมโซลูชันระดับองค์กร (Enterprise Solution and Services) ไม่ว่าจะเป็นโซลูชันด้านระบบคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ โซลูชันด้านระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ โซลูชันด้านระบบจัดการข้อมูลและการวิเคราะห์ และโซลูชันด้านธุรกิจดิจิทัล

 

รวมถึงโซลูชันด้านการบริหารจัดการระบบสารสนเทศ เพื่อให้บริการสนับสนุนงานด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้วยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญของบริษัท นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจโซลูชันที่เป็นตัวแทนจำหน่ายและสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value-added Distribution) และธุรกิจบริการซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม (Software Platform) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ 

 

 

โดยสามารถแบ่งธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 

 

1. กลุ่มธุรกิจให้บริการโซลูชันระดับองค์กร (Enterprise Solution and Services) ให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง และจัดจำหน่าย ตลอดจนการบริการบำรุงรักษาและบริการอื่นที่เกี่ยวเนื่อง โดยสามารถแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ เป็น 5 กลุ่มโซลูชัน ได้แก่
   

 

• • โซลูชันด้านระบบคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์ (Cloud and Data Center Modernization Solution) 
  • โซลูชันด้านระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security Solution)  
  • โซลูชันด้านระบบจัดการข้อมูลและการวิเคราะห์ (Data and Analytics Solution) 
  • โซลูชันด้านธุรกิจดิจิทัล (Digital Business and Application Solution) 
  • โซลูชันด้านการบริหารจัดการระบบสารสนเทศ (Managed Tech Services Solution)

 

2. กลุ่มธุรกิจโซลูชันที่เป็นตัวแทนจำหน่ายและสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value-added Distribution) โดยประกอบธุรกิจตัวแทนจำหน่ายระบบเทคโนโลยีสารสนเทศผ่านบริษัท เฟิร์ส ลอจิก จำกัด (First logic) ซึ่งเป็นตัวแทนหลักในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชั้นนำต่างๆ จาก Oracle และ Veritas ผู้พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการใช้งานในระดับองค์กร ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานทั่วโลกมาแล้วอย่างยาวนาน

 

3. กลุ่มธุรกิจบริการซอฟต์แวร์แพลตฟอร์ม (Software Platform) ซึ่งเกิดจากการนำเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นภายในองค์กรมาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และพัฒนาเป็นธุรกิจใหม่ โดยปัจจุบัน มีซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มที่กลุ่มบริษัทฯ เป็นเจ้าของและพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าจำนวน 3 แพลตฟอร์ม ดังนี้ 1. แพลตฟอร์มด้านการตลาดดิจิทัลแบบครบวงจร 2. แพลตฟอร์มสำหรับจัดการข้อมูลบิ๊กดาต้า 3. แพลตฟอร์มสำหรับบริหารจัดการพื้นที่เช่า

 

อย่างไรก็ตามเมื่อนำเอาศักยภาพในทุกๆ ด้านของ G-Able มารวมกัน ทำให้สามารถสรุปจุดเด่น 7 ข้อที่สำคัญ ที่ทำให้ G-Able น่าสนใจและแตกต่างจากคู่แข่ง ได้แก่

 

ข้อที่ 1 G-Able มีโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจได้แบบครบวงจรในที่เดียว โดยทั้ง 5 โซลูชันสามารถเข้าไปช่วยธุรกิจตั้งแต่การจัดเก็บข้อมูล โดยการใช้ Cloud and Data Center Modernization Solution ทำให้การจัดเก็บมีประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถใช้หรือแชร์ข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา รวมถึงยังช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยด้วย Cyber Security Solution แบบครบวงจร และยังมี Data and Analytics Solution ที่ช่วยให้ธุรกิจนำเอาดาต้าไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้ธุรกิจเติบโตและได้เปรียบในการแข่งขัน อีกทั้งนำ Digital Business and Application Solution เข้าไปพัฒนา และสร้าง Footprint และ Digital Channel ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า

 

ไปจนถึงการช่วยบริหารงานไอทีด้วย Managed Tech Service Solution ทำให้ธุรกิจมีเวลาไปมุ่งเน้นงานที่เป็น Core Business ของตัวเอง สามารถต่อยอดได้เร็วขึ้น เรียกได้ว่าทั้ง 5 โซลูชันตอบโจทย์ทุกความต้องการในการทำ Digital Transformation และการทำธุรกิจในโลกดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์ในที่เดียว

 

ข้อที่ 2 จากความสามารถในการ Implement ระบบแบบครบวงจร จึงทำให้ G-Able เป็น Big Player ในอุตสาหกรรมนี้ โดยมีความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับลูกค้ารายใหญ่ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ธุรกิจการเงิน ธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิตและพลังงาน รวมถึงสถาบันการศึกษาต่างๆ

 

G-Able ยังได้เป็น Trusted Partner ที่ลูกค้าไว้วางใจมายาวนานกว่า 33 ปี จากการ Implement โปรเจกต์สำเร็จมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30,000 โปรเจกต์ และยังมีโซลูชันที่พร้อมรองรับทุกความต้องการที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละอุตสาหกรรม และมีพาร์ตเนอร์ระดับโลกที่อยู่กับ G-Able มายาวนาน ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่โดดเด่น

 

ข้อที่ 3 มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องมาโดยตลอด ดูได้จาก 3 ปัจจัยที่สำคัญดังนี้

 

• มี Track Record มากว่า 30 ปี
• สัดส่วน Recurring Income อยู่ในระดับสูงมาโดยตลอด ทำให้โครงสร้างรายได้มีความยืดหยุ่นสูง และต่อยอดได้ง่าย ซึ่งสัดส่วน Recurring Income ในปี 2565 ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 51% หรือว่ามากกว่าครึ่งของรายได้ ซึ่งจะช่วยให้ G-Able เติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืนและมั่นคงในอนาคต
• Backlog หรือยอดขายรอการรับรู้รายได้ เป็นตัวบอกถึงรายได้ที่จะเข้ามาในอนาคต ซึ่งถ้าดูตัวเลข ณ สิ้นปี 2565 ที่ผ่านมา G-Able มี Backlog อยู่ถึงกว่า 4.1 พันล้านบาท
  

 

ข้อที่ 4 ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สำคัญและทำให้ G-Able แตกต่างจากคู่แข่งโดยสิ้นเชิง เพราะบริษัทฯ มี Growth Engine ที่มีอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ยสูง และพร้อมสำหรับการเติบโต ด้วยการเป็นเจ้าของ Software Platform ของตัวเอง

 

ไม่ว่าจะเป็น Big Data Platform ของ Blendata, Digital Marketing Platform ของ InsightEra หรือว่าจะเป็น Proptech อย่าง Space Platform ของ Mverge ที่อยู่ในเทรนด์ที่มีความต้องการของตลาด และมีการเติบโตสูงในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งการที่แพลตฟอร์มของ G-Able ได้รับการยอมรับจากตลาดเร็วมากขนาดนี้ เป็นเพราะ G-Able ได้พัฒนาแพลตฟอร์มเหล่านี้ขึ้นมาจากประสบการณ์ตรงที่ได้จากการทำโปรเจกต์ให้กับลูกค้า ซึ่งทำให้แพลตฟอร์มตอบโจทย์ลูกค้าได้จริง

 

ข้อที่ 5 นอกจากจะมี Growth Engine ที่พร้อมสำหรับการเติบโตแล้ว G-Able ยังอยู่ถูกที่ ถูกเวลา ถูกอุตสาหกรรม เห็นได้จากข้อมูลที่ชี้ชัดว่า กลุ่มเทคไม่เพียงแค่เติบโตสูง แต่ยังเติบโตเร็วอีกด้วย

 

ดูได้จากแนวโน้มความต้องการทำเรื่อง Digital Transformation ในระดับโลก ที่เติบโตถึง 21% ซึ่งในประเทศไทยเองก็เห็นถึงการลงทุนทางด้านไอที โดยรวมเติบโตอย่างต่อเนื่องถึง 15% ในหลายอุตสาหกรรมที่สำคัญ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าของ G-Able

 

ข้อที่ 6 กลุ่ม Talent ของคนไอทีแถวหน้าในประเทศไทยมากกว่า 1,000 คน ไม่ว่าจะเป็น Data Scientist, Solution Architect, Full Stack Developer รวมถึง Network Security และ Security Consultant เป็นต้น ซึ่ง Talent เหล่านี้เป็นกำลังหลักของ G-Able ซึ่งทำให้ G-Able สามารถ Implement โปรเจกต์ขนาดใหญ่แบบ End to End ได้ ซึ่งเป็นขนาดที่มีอยู่เพียงไม่กี่เจ้าในประเทศไทย

 

 

อีกหนึ่งข้อที่สำคัญ คือข้อที่ 7 G-Able มีคณะกรรมการบริษัทที่มีประสบการณ์ในวงการไอทีและเทคโนโลยีมาอย่างยาวนาน ที่คนในวงการต่างยอมรับในวิสัยทัศน์จากความรู้ความสามารถ และมีผู้บริหารจากหลากหลายอุตสาหกรรมที่จะนำความรู้และประสบการณ์ทางด้านธุรกิจมาผสมผสานกับเทคโนโลยี เพื่อช่วยเพิ่มมุมมองและกำหนดทิศทางสร้างการเติบโตให้กับ G-Able 

 

ตลอดเวลาที่ผ่านมา G-Able เดินตามกลยุทธ์การเติบโตของต้นไม้ใหญ่ที่มั่นคง ซึ่งวันนี้จะเห็นได้ว่า G-Able มีศักยภาพความพร้อมที่จะสามารถขยายการเติบโตจากต้นไม้หนึ่งต้นไปสู่แผนการขยายการเติบโตแบบ Digital Forest หรือทั้งอีโคซิสเต็ม ซึ่ง G-Able ตัดสินใจ IPO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เร็วๆ นี้ ภายใต้ 3 วัตถุประสงค์ คือ

 

• ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างการเติบโต
• ชำระคืนเงินกู้
• เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้เราอยู่ในโลกยุคดิจิทัล เทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และยังช่วยให้ธุรกิจสร้างความได้เปรียบเรื่องการแข่งขัน เทคโนโลยีจึงเปรียบเสมือนตัว Enabler ที่ช่วยสร้างคุณค่าใหม่ เช่น การนำเทคโนโลยีมาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือเพื่อช่วยตัดสินใจในการวางแผนทางธุรกิจ หรือแม้กระทั่งเป็นตัวเชื่อมโยงพนักงานให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเพื่อช่วยหา New S-Curve ใหม่ๆ

 

ทำให้ G-Able ถือเป็นบริษัทที่น่าลงทุนอย่างยิ่งหากมองจากแนวโน้มของธุรกิจที่กำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

 

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSEQ01.aspx?TransID=490336&lang=th