×

อนาคตใหม่ แถลงตั้งคณะอนาคตใหม่ สานต่ออุดมการณ์ทางการเมือง ‘ธนาธร’ ส่งไม้ต่อให้ ‘ทิม พิธา’ หลังพรรคถูกยุบ

โดย THE STANDARD TEAM
21.02.2020
  • LOADING...

วันนี้ (21 กุมภาพันธ์) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และคณะกรรมการบริหาร และ ส.ส. ของพรรค ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังทราบผลคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่

 

โดย ปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส. และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงไม่เห็นด้วยและวิจารณ์การทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ และขอใช้อำนาจอธิปไตยในฐานะที่เป็นประชาชน ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาล โดยไม่ได้เป็นการละเมิดอำนาจศาล แต่มองว่าคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ส่งผลสืบเนื่อง 5 ประการ ดังนี้ 

 

ประการที่ 1: ในทางการเมือง ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของปัจเจกบุคคล รวมตัวกันและทำการก่อตั้งจดทะเบียนกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงก่อตั้งเป็นพรรคการเมืองได้ โดยไม่ได้มีการถือครองอำนาจรัฐฯ ไม่ได้ใช้อำนาจมหาชน สถานะบุคลากรในพรรคการเมืองไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐฯ ไม่ใช่ข้าราชการ แต่ ณ วันนี้ จากนิติบุคคลเอกชน แต่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า พรรคการเมืองกลายเป็นนิติบุคคลมหาชนไปเรียบร้อยแล้ว

 

ประการที่ 2: ‘เงินกู้’ อาจกลายเป็นเงินบริจาค อาจกลายเป็นประโยชน์อื่นใดทันที หากศาลรัฐธรรมนูญประสงค์ตีความให้เป็นอย่างนั้น

 

ประการที่ 3: การใช้มาตรา 72 ของพระราชบัญญัติประกบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เรื่องที่ใช้ในการยุบพรรคอนาคตใหม่ในครั้งนี้ ไม่ตรงกับหลักกฎหมาย เท่ากับว่าต่อไปนี้ ทุกๆ ความผิดเกี่ยวกับการเงินในกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งปกติจะมีบทกำหนดโทษอยู่แล้ว แต่ต่อไปนี้เมื่อมีการกระทำผิดเกี่ยวกับการเงินของพรรคการเมือง ไม่ว่าจะผิดมาตราใดก็ตาม อาจจะส่งผลให้ถูกยุบพรรคทันที

 

ประการที่ 4: หากกฎหมายไทยต้องการห้ามไม่ให้พรรคการเมืองในประเทศไทยกู้เงิน หรือต้องการวางเงื่อนไขของการกู้เงินจริงๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องตรากฎหมาย ข้อห้าม หรือข้อกำหนดเกี่ยวกับการกู้เงินเอาไว้ให้ชัดเจน ไม่ใช่ปล่อยให้คลุมเครือ จนในท้ายที่สุดต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตีความขยายความว่า การกู้เงินนั้นไม่สามารถทำได้ เพราะอาจจะกลายเป็นการบริจาคหรือประโยชน์อื่นๆ

 

ประการที่ 5: คำที่ศาลรัฐธรรมนูญ พูดออกมาหลายครั้งคือคำว่า ‘มิต้องการให้นายทุนครอบงำพรรค’ แต่ต้องการให้สร้างความประชาธิปไตยในพรรค ต้องการความโปร่งใสตรวจสอบได้จากพรรคการเมือง แต่ทว่าสิ่งที่ต่อเนื่องจากคำวินิจฉัยกลับกลายเป็นเรื่องที่ยอกย้อนที่สุด เพราะอนาคตใหม่ก่อตั้งพรรคการเมืองเพื่อทำหน้าที่อย่างโปร่งใส ทุกกิจกรรมของอนาคตใหม่ทำอย่างถูกต้องตรวจสอบได้ แต่กลับถูกยุบพรรค ขณะที่หลายพรรคการเมืองในไทย ถูกตั้งขึ้นมาใหม่พร้อมพรรคอนาคตใหม่ เท่ากับว่า ผลการวินิจฉัยได้บอกเป็นนัยว่า พรรคการเมืองจงอย่าโปร่งใส พรรคการเมืองจงอย่าเปิดเผย แต่พรรคการเมืองจงปกปิดให้มิด แล้วจะอยู่รอดได้

 

ทั้งนี้ ปิยบุตร มองว่า รัฐบาลใช้นิติสงครามในการกำจัดศัตรูทางการเมือง ผู้มีอำนาจคิดว่าน่าจะเป็นวิธีการตัดอนาคตใหม่ออกไปจากวงการเมือง แต่ถือว่าคิดผิด เพราะนี่คือจุดการเริ่มต้นของการต่อสู้ของประชาชนเพื่อให้ได้มาเพื่อประชาธิปไตย การคิดแบบอนาคตใหม่จะเติบโตยิ่งกว่าเดิม ตนเองและธนาธรจะรณรงณ์ต่อไปทั่วประเทศไทย

 

ทางด้าน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้กล่าวขอบคุณประชาชนทุกคนที่ได้ให้การสนับสนุน และอยู่เคียงข้างพรรคอนาคตใหม่มาตลอดระยะเวลา 1 ปี 4 เดือน 18 วัน ในฐานะหัวหน้าพรรคขอโทษประชาชนทุกคนที่ไม่สามารถทำตามสัญญาได้ 

 

โดยสัญญาว่าจะหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจการของ คสช. จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะแก้ไขอำนาจของกองทัพ ซึ่งไม่สามารถทำได้เพราะพรรคถูกยุบ แต่อยากบอกผู้มีอำนาจว่าหลังจากนี้อนาคตใหม่จะเดินหน้าต่อ สังคมจะลุกเป็นไฟ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาเสียใจ ยังไม่ใช่เวลาที่จะร้องไห้ พรรคอนาคตใหม่เป็นมากกว่าพรรคการเมือง ขอให้ทุกคนลุกขึ้นยืนให้มั่น

 

พร้อมกันนี้ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ประกาศตั้งคณะอนาคตใหม่ เพื่อรณรงค์อุดมการณ์เดิม และทำสังคมให้ก้าวไปข้างหน้า พร้อมเดินหน้าทำงานการเมือง และสานต่ออุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคตั้งแต่ก่อตั้ง ได้แก่ การแก้รัฐธรรมนูญ การปฏิรูปกองทัพ การปลดล็อกเผด็จการ รวมถึงจะเดินหน้าการเมืองท้องถิ่นตามที่ได้ดำเนินการไว้ และขอให้สมาชิกพรรคอนาคตใหม่ตาม ส.ส. ของพรรคไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่

 

ระหว่างการแถลงข่าว ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ทำการปลดเข็มกลัดสัญลักษณ์อนาคตใหม่ ที่ติดอยู่บริเวณคอเสื้อ แล้วทำการส่งต่อให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ 

 

โดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขึ้นกล่าวต่อสื่อมวลชนว่า “วันนี้ศาลฯ ได้มีการตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ พรรคการเมืองแรกของผม และของใครอีกหลายๆ คน ที่ไม่เคยสนใจเรื่องของการเมืองมาก่อน แน่นอนว่าตลอดระยะเวลา 1 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา มีทั้งประสบการณ์ที่ดี และไม่ดี เป็นหนึ่งปีในชีวิตของพวกผมที่จะไม่มีวันลืม

 

“แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาอ่อนแอ ไม่ใช่เวลาที่จะมาซึมเศร้า ไม่ใช่เวลาที่จะมาร้องไห้ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้เป็นดาวฤกษ์เหมือนคนอื่นๆ แต่จากประสบการณ์ของผมแล้ว เวลาที่มันมืดหม่นที่สุด เมื่อหิงห้อยมารวมตัวกันมันยังสว่างขึ้นมาได้ แน่นอนว่าถ้าประชาชนทุกคน ถือเทียนคนละเล่มแล้วมาเดินรวมกัน สักวันหนึ่งมันจะส่องสว่างเท่ากับดาวฤกษ์ได้

 

“หลังจากนี้เราจะถอดบทเรียนที่ผ่านมา โดยที่ไม่ทิ้งอุดมการณ์อันเป็นเสาหลักของเรา เราจะเรียนรู้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แล้วก้าวไปกับยานพาหนะใหม่ของพวกเราไปด้วยกัน เพราะพวกเราต้องก้าวต่อไป”

 

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising