×

สตาร์ทอัพไทย ‘ฟรุตต้าไบโอเมด’ ยื่นไฟลิ่งเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดันอุตสาหกรรมชีวภาพไทยบุกตลาดโลก

01.09.2021
  • LOADING...
ฟรุตต้าไบโอเมด

บริษัท ฟรุตต้า ไบโอเมด จำกัด สตาร์ทอัพไบโอเทคไทย หนึ่งในบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ซึ่งได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมไบโอเทคเมื่อไตรมาสที่ 1 ปี 2564 เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทยที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

 

รักชัย เร่งสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟรุตต้า ไบโอเมด จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยมีความแข็งแกร่งทางด้านวัตถุดิบและการพัฒนาเทคโนโลยีมายาวนาน จึงสามารถต่อยอดภาคอุตสาหกรรมไปสู่อุตสาหกรรมชีวภาพชั้นสูงได้ โดยธุรกิจในเครือฟรุตต้า เดิมบริษัทฯ เริ่มต้นจากธุรกิจเครื่องดื่มประเภทน้ำผัก ผลไม้ ซึ่งมีเศษวัสดุเหลือทิ้งจากการผลิตสูง จึงได้ทุ่มเทการวิจัยนำสิ่งเหลือทิ้งมาสร้างมูลค่าเพิ่ม ด้วยการใช้เทคโนโลยีจุลินทรีย์เข้ามาย่อยสลายวัสดุเหล่านี้ให้เกิดเป็นสารเคมีชีวภาพในรูปแบบต่างๆ ที่ใช้เป็นวัสดุในการผลิตพลาสติกชีวภาพ วัสดุทางการแพทย์ และเครื่องสำอาง 

 

การวิจัยดังกล่าวนำมาซึ่งโครงการผลิตพลาสติกชีวภาพชนิด PHA (Polyhydroxyalkanoate) และ PHA Bioplastic Compound และผลิตภัณฑ์ขึ้นรูปจากพลาสติก PHA เช่น ถุง ขวด ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ซึ่งเป็นกิจการที่นำของเหลือทางการเกษตร เช่น ใบพืช ผักเสียเหลือทิ้งจากแปลง และของเหลือจากกระบวนการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เช่น เปลือกกล้วย เปลือกมะม่วง เปลือกสับปะรด กากถั่วเหลือง ฯลฯ มาพัฒนาเป็นวัตถุดิบในการผลิต PHA โดยโครงการมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยชั้นนำ

 

สำหรับพลาสติกชีวภาพ PHA ที่ผลิตออกมา จะเน้นไปสู่การผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูป เช่น บรรจุภัณฑ์ และสินค้าอื่นๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ ทำให้ได้ราคาสูงกว่าการขายเป็นเม็ดพลาสติกชีวภาพเหมือนกับผู้ผลิตรายอื่น รวมทั้งนำไปต่อยอดเป็นสินค้าชีวภาพมูลค่าสูงทางการแพทย์และเครื่องสำอาง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีธุรกิจผลิตเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมชีวภาพ ซึ่งได้ร่วมพัฒนากับเจ้าของเทคโนโลยีจากเยอรมนีและอินเดีย โดยจะเริ่มผลิตในอีก 6 เดือนข้างหน้า เนื่องจากมองว่าเครื่องจักรนำเข้ามีราคาสูงมาก จึงได้ร่วมมือกับพันธมิตร พัฒนาเครื่องจักรขึ้นมาใช้เองและขายให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทำให้มีต้นทุนเครื่องจักรลดลงอย่างมาก

 

นอกจากนี้ เพื่อความเชี่ยวชาญในธุรกิจ ผู้ก่อตั้งได้ศึกษาเพิ่มเติมทางด้านวิศวกรรมวัสดุทางการแพทย์ UCLA (University of California Losangeles) พร้อมกับร่วมมือกับทางศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยชั้นนำและทีมงานระดับปริญญาเอกและปริญญาโท พัฒนาวัสดุด้าน NanoBioComposite เพื่อการแพทย์และเวชสำอาง อีกทั้งมีความร่วมมือ Joint Venture (ธุรกิจร่วมค้า) กับบริษัทยา Panoxol ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีเจ้าของเป็นแพทย์ในการผลิตยาลดความดัน ขยายหลอดเลือด โดยทำ Capsule หุ้มตัวยาและขวดยาด้วยวัสดุ PHA ซึ่งทำให้สารสำคัญออกฤทธิ์ได้ดีขึ้นและยืดอายุการเก็บได้มากขึ้น

 

“เราเป็นสตาร์ทอัพที่มีความแตกต่างจากสตาร์ทอัพทั่วไปที่เริ่มจากการขาดทุนและทุ่มตลาดด้วยการตลาด แต่ฟรุตต้าไบโอเทคเริ่มจากการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและผลิตภัณฑ์ร่วมกับเครือข่ายลูกค้าและการตลาด ทำให้มีลูกค้าและคำสั่งซื้อทันทีเมื่อเริ่มเดินเครื่องผลิตตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งสามารถทำกำไรอยู่ในอัตราที่ดีและสูงโดยเฉลี่ยกว่า 40% มากกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมอย่างมาก ด้วยมูลค่าสินค้าที่สูงและต้นทุนการผลิตที่ต่ำ รวมถึงมีเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเอง” รักชัยกล่าว

 

สำหรับแผนธุรกิจของบริษัทฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเข้าตลาดหลักทรัพย์ OTC Market ที่สหรัฐฯ เพื่อเตรียมการที่จะเข้าสู่ Nasdaq ในอนาคต โดยปัจจุบันได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหุ้น (ไฟลิ่ง) เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะระดมทุนอีกประมาณ 1,500 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินระดมทุนเพื่อใช้ในการลงทุนสร้างไบโอรีแอ็กเตอร์ และขยายกำลังการผลิตจากเดิมผลิตได้ 60 ตันต่อเดือน เพิ่มเป็น 500 ตันต่อเดือน หรือ 6 พันตันต่อปี ซึ่งขณะนี้มีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหมดแล้ว คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ในปี 2565 ประมาณการว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 300 ล้านบาทต่อปี เป็น 2,000 ล้านบาทต่อปี

 

นอกจากนี้ การที่บริษัทฯ ไปเปิดตัวที่ตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ จะเป็นการผลักดันสินค้าชีวภาพของบริษัทฯ ไปสู่ตลาดนานาชาติเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันในประเทศที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง เพราะเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีชีวภาพของประเทศไทยสามารถแข่งขันได้กับทุกประเทศในโลก ขณะเดียวกันการเปิดตัวที่สหรัฐฯ จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและขยายตลาดในประเทศต่างๆ ได้มากขึ้น 

 

ทั้งนี้ บริษัทมีจุดเด่นจากต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า ได้แก่ ต้นทุนเครื่องจักรที่ถูกกว่าการนำเข้าเครื่องจักรถึง 4 เท่า ต้นทุนวัตถุดิบต่ำจากการใช้วัสดุเหลือทิ้งในกระบวนการผลิตน้ำผลไม้ของบริษัทฯ และได้ทำ MOU ร่วมกับตลาดไทและตลาดสี่มุมเมือง ในการซื้อเศษผักผลไม้ในระยะยาว และต้นทุนพลังงานที่โรงงานชีวภาพใช้ความร้อนและความเย็นจากโรงงานผลิตอาหารนำมาใช้หมุนเวียน

 

ปัจจุบัน บริษัท ฟรุตต้า ไบโอเมด จำกัด สตาร์ทอัพไบโอเทคไทย ได้ขยายธุรกิจชีวภาพแยกออกจากธุรกิจหลักผลิตน้ำผลไม้ แบ่งเป็น 3 ธุรกิจ คือ พลาสติกชีวภาพ เครื่องสำอาง และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มนี้ มีศักยภาพและโอกาสในการเติบโตอย่างมาก โดยธุรกิจพลาสติกชีวภาพสามารถผลิตพลาสติกชีวภาพชนิด PHA เพื่อใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ชีวภาพที่ย่อยสลายได้เองในอุณหภูมิปกติ สภาพแวดล้อมธรรมชาติ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ขวด กล่องบรรจุอาหาร วัสดุกันกระแทก ฟิล์มถนอมอาหาร ซึ่งในโลกนี้มีเพียง 12 บริษัทเท่านั้นที่ผลิตได้ และบริษัทฯ เป็นรายแรกและรายเดียวในอาเซียนที่มีเทคโนโลยีดังกล่าวที่สามารถผลิตขายเชิงพาณิชย์

 

ขณะที่ธุรกิจเครื่องสำอางจะมุ่งเน้นเทคโนโลยีการผลิตสารไฮยาลูรอน ซึ่งเป็นโมเลกุลธรรมชาติที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น โดยร่างกายมนุษย์จะผลิตไฮยาลูรอนลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น และผลิตไมโครสเฟียร์ วัตถุในการนำสารออกฤทธิ์เข้าสู่ชั้นผิวหนัง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งทั้งไฮยาลูรอนและไมโครสเฟียร์นี้จะผลิตได้จากสารชีวภาพที่ได้จากเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์ 

 

ส่วนธุรกิจเครื่องมือแพทย์ เบื้องต้นจะมุ่งสู่การผลิตแคปซูลบรรจุยา เจลปิดแผลที่ได้จากจุลินทรีย์ ซึ่งช่วยกันน้ำและสมานแผลได้รวดเร็วขึ้น รวมทั้งพัฒนาสู่วัสดุปิดแผลชนิดต่างๆ ไหมละลายเย็บแผล วัสดุในการเชื่อมเซลล์กระดูก ไปจนถึงวัคซีนในอนาคต ซึ่งวัสดุชีวภาพจะเข้ากับร่างกายได้ดีกว่าวัสดุสังเคราะห์ชนิดอื่น โดยในการผลิตเครื่องมือแพทย์นี้ บริษัทได้ทำการวิจัยร่วมกับสถาบันวิจัยระดับโลกหลายแห่ง และร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเตรียมเพิ่มความร่วมมือกับอีกหลายแห่งในอนาคต เพื่อพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ต่อคนไทยในด้านราคาที่ถูกลง และตรงกับความต้องการของแพทย์ที่จะช่วยเหลือผู้คนในอนาคต

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising