ร้านอาหาร Freebird (ฟรีเบิร์ด) บ้านหลังใหญ่แสนสงบในซอยสุขุมวิท 47 ละคอนเซปต​์อาหารเดิมสไตล์โมเดิร์นออสเตรเลีย และเผยเมนูใหม่ยกเซตที่เน้นความอร่อยแบบบ้านๆ เข้าใจง่ายในสไตล์บิสโทร (แต่ทำเองไม่ได้ที่บ้าน)

เมนูอาหารปรับโฉมใหม่โดย เชฟท็อป-พงศ์ชาญ รัสเซล (Top Russell) Executive Chef ผู้ผ่านการร่วมงานกับเชฟชั้นนำของโลกมาแล้วหลายท่าน (เช่น อเล็กซิส โกติเยร์ (Alexis Gauthier) เชฟระดับดาวมิชลินจากร้าน Gauthier Soho ในลอนดอน, เชฟจุน ทานากะ (Jun Tanaka) เจ้าของรายการดังในช่อง BBC เป็นต้น) โดยนำประสบการณ์การทำงานครัวจากรอบโลกของเขามาปรับใส่จาน ให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น และเน้นวัตถุดิบเป็นหัวใจหลัก

อาหารยุคใหม่ของ Freebird นี้จะเน้นไปที่การนำเสนออาหารคอมฟอร์ตฟู้ดที่เหมือนทำเองบ้าน แต่มี ‘อะไร’ มากกว่านั้น โดยเขานำรสคลาสสิกหลากหลายจานมาเล่าใหม่ ปรับให้มีความโมเดิร์นในรายละเอียดท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ในบ้านหลังใหญ่ร่มรื่นในซอยสุขุมวิท 47 ที่เหมาะแก่การนั่งชมสวน หลบมุมหาที่คุย กระทั่งนั่งทำงานท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น

เซตอาหารของ Freebird เสิร์ฟแบบออลเดย์ไดนิ่งในช่วงกลางวัน โดยคนรักมื้อสายก็สามารถสั่งเมนูบรันช์ได้ตลอดวัน หรือคนรักขนมปังปิ้งก็มีทาวน์เลือกให้ลองชิมหลากหลาย อาทิ Croque Madame ขนมปังปิ้งจนกรอบที่ใช้แฮมฝรั่งเศส ชีสกรูแยร์เยิ้มๆ เสิร์ฟพร้อมกับไข่ดาวเด้งดึ๋งด้านบน Smoked Brisket ที่ใช้เนื้อวัวส่วนอก กะหล่ำปลีดอง และชีสจากสวิสบนบนมปังโทสต์เช่นกัน

ส่วนคนรักพาสต้าเข้าใจง่าย ลองชิม Freebird’s Bolognese พาสต้าเฟตตูชินีเส้นหนุบทำสดๆ กับซอสโบโลเนสและชีสพาร์เมซานง่ายๆ แต่อร่อยอิ่มท้อง

หากอยากลองมื้อหนัก เราแนะนำ Roasted Chicken ไก่อบกับบัตเตอร์นัต หรือฟักทองน้ำเต้า เคียงด้วยผักโขมผัด และเมล็ดฟักทอง ที่ทั้งหอมอร่อยกับไก่ย่างเนื้อนุ่ม ทั้งยังไม่ทำให้รู้สึกอิ่มเกินไป ส่วนคนรักเนื้อแนะให้ลอง Steak n Chips ที่ใช้เนื้อวากิวราดซอสพริกไทยดำ เสิร์ฟแบบมีเดียมแรร์ รับประทานคู่กับมันฝรั่งที่นำไปทอดจนกรอบขึ้นสีทอง เป็นต้น