“ซูเปอร์!!!”
หากใครที่เป็นแฟนตัวยงของการ์ตูนดัง One Piece เมื่อได้ยินเสียงตะโกนนี้เมื่อไร ภาพของไซบอร์กหัวสีฟ้าพร้อมกางเกงในสีแดงจะต้องโผล่ขึ้นมาในหัวอย่างแน่นอน เขาคือ แฟรงกี้ ช่างซ่อม (และสร้าง) เรือแห่งกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง และในวันนี้ 9 มีนาคม คือวันเกิดของเขา
แฟรงกี้ หรือคาติฟูแลม เกิดในแถบทะเลเซาท์บลู เป็นลูกชายของโจรสลัด แต่ถูกพ่อแม่ของตนเองทิ้งตั้งแต่ 4 ขวบ และได้รับอุปการะจาก ทอม ผู้สร้างเรือโอโร่แจ็คสันให้เจ้าแห่งโจรสลัดใช้พิชิตแกรนด์ไลน์ ในฐานะลูกศิษย์ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาซ่อมเรือให้กับเขา ณ เมืองแห่งน้ำวอเตอร์เซเว่น
แฟรงกี้ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือการ์ตูนเล่มที่ 35 ตอนที่ 329 ด้วยการเป็นหัวหน้าแก๊งขโมยเงินที่กลุ่มหมวกฟางจะนำไปใช้ซ่อมเรือโกอิ้งแมรี่ไปเกือบทั้งหมด แต่สุดท้ายเมื่อปรับความเข้าใจและผ่านเหตุการณ์ที่เอนิเอสล็อบบี้มาได้ เขาก็ตัดสินใจนำเงินที่ขโมยนั้นไปซื้อ ‘ไม้’ ที่ดีที่สุดในโลกมาต่อเป็นเรือ ‘เธาซันด์ ซันนี่’ และออกผจญภัยในฐานะช่างซ่อมเรือและสมาชิกคนที่ 8 ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ที่ปัจจุบันมีค่าหัวอยู่ที่ 94 ล้านเบลี (หลังจบภาคโฮลเค้กไอส์แลนด์)
หนึ่งในความพิเศษของตัวละครแฟรงกี้ที่ทำให้ใครหลายคนชื่นชอบคือรูปร่างที่มีเอกลักษณ์ที่ อาจารย์เออิจิโร่ โอดะ ได้สร้างสรรค์ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นลูกเล่นบนตัวของเขาที่มีอาวุธต่างๆ ซ่อนอยู่ ทรงผมที่จะเปลี่ยนไปตามเครื่องดื่มที่เขาใช้เป็นพลังงาน หรือจะเป็นร่างสุดยอดอย่างแฟรงกี้โชกุนที่ทรงพลัง แข็งแกร่ง และทำให้ลูฟี่และช็อปเปอร์ตื่นเต้นจนตาเป็นประกายได้เสมอ
รวมถึงนิสัยบ้าๆ บอๆ ที่พร้อมเฮฮาและตามน้ำไปกับสมาชิกคนอื่นๆ บทบาทผู้สร้างเรือเธาซันด์ ซันนี่ ที่มีแฟนๆ หลายคนตั้งข้อสันนิษฐานกันว่าเรือลำนี้อาจจะถูกสร้างขึ้นหรือมีความเกี่ยวโยงกับแบบแปลนอาวุธโบราณพลูตันที่เขาเคยครอบครองมาก่อนก็เป็นได้ ทำให้หุ่นไซบอร์กคนนี้กลายเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้ของกลุ่มหมวกฟาง
นอกจากคาแรกเตอร์ที่มีเอกลักษณ์จนเป็นที่จดจำแล้ว แฟรงกี้ยังเป็นหนึ่งในตัวละคร One Piece ผู้มีอดีตอันแสนเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียอาจารย์ผู้เป็นที่รักไปตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อทอมถูกตัดสินประหารชีวิตจากข้อหาเป็นผู้สร้างเรือให้กับราชาโจรสลัด โกล โรเจอร์ ซึ่งความบ้าระห่ำหวังจะช่วยชีวิตอาจารย์ให้ได้ในครั้งนี้นี่เองที่ทำให้แฟรงกี้บาดเจ็บสาหัสจนต้องดัดแปลงตัวเองกลายเป็นมนุษย์ไซบอร์กตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เรื่องราวความผูกพันของแฟรงกี้และทอมที่สร้างความประทับใจให้กับเหล่าแฟนๆ One Piece ยังมีการสอดแทรกประเด็นที่น่าสนใจอยู่เรื่องหนึ่ง คือความภาคภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองทำนั้นสำคัญมากขนาดไหน
หนึ่งในฉากที่ตัวผู้เขียนประทับใจคือฉากคุณงามความดีในการสร้างรางรถไฟเชื่อมเมืองวอเตอร์เซเว่นได้สำเร็จ ทำให้ทอมสามารถขอลดโทษที่ตัวเองได้รับเพื่อเป็นการสดุดีให้กับผลงานของเขา
หากแต่สิ่งที่เขากลับเป็นการขอ ‘ลดโทษ’ ให้กับแฟรงกี้ ลูกศิษย์สุดระห่ำที่เพิ่งตั้งตัวเป็นศัตรูกับรัฐบาลโลกตั้งแต่ยังเด็ก เพราะว่าสำหรับเขา การสร้างเรือให้กับเจ้าแห่งโจรสลัดนั้นไม่ใช่ความผิดที่ต้องถูกลงโทษ หากแต่เป็น ‘ความภูมิใจ’ สูงสุดในฐานะลูกผู้ชาย
“ฉันภูมิใจที่ได้สร้างเรือโอโร่แจ็คสันให้โกล โรเจอร์” เขาตะโกนออกมาอย่างสุดเสียงก่อนสิ้นลมหายใจ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ของตนเองให้แฟรงกี้ได้เห็นว่าทุกสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาล้วนมีคุณค่าเสมอ
ภายหลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดได้จบลง คำพูดของทอมในตอนนั้นเองที่ทำให้แฟรงกี้ผู้ที่ยึดติดกับอดีตและสาบานว่าจะไม่สร้างเรืออีกเป็นครั้งที่สองได้ตัดสินใจสร้าง ‘เรือแห่งความฝัน’ เรือที่สามารถแล่นไปได้รอบโลกตามที่เขาเคยฝันไว้ให้กับพวกลูฟี่
เชื่อได้ว่าในเหตุการณ์ครั้งนี้ที่นอกจากแฟรงกี้ได้เรียนรู้และปลดตัวเองออกจากอดีตแล้ว ตัวผู้อ่าน (รวมถึงตัวผู้เขียน) ก็ได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กับไซบอร์กหัวรั้นคนนี้ในแง่ที่ว่า จะมีใครล่ะที่ภูมิใจในสิ่งที่เราทำ หากว่าตัวเราเองยังไม่เห็นคุณค่าของสิ่งนั้นแม้แต่น้อย
เฉกเช่นเดียวกับแฟรงกี้ที่เขาภูมิใจกับการสร้างเรือเธาซันด์ ซันนี่ เรือแห่งความฝันให้กับพวกลูฟี่ และเฝ้ามองเรือลำนี้ออกเดินทางในท้องทะเลอย่างที่เขาตั้งใจไว้ “พวกมือสมัครเล่นอย่างพวกนายได้เรือเจ๋งๆ ขนาดนี้ เรือคงน่าสงสารแน่ แฟรงกี้คนนี้จะเป็นช่างประจำเรือให้กับพวกนายเอง!”
เมื่อสิ้นเสียงพร้อมท่าประกบแขนสองข้างชูขึ้นฟ้า และวลีเด็ด ‘ซูเปอร์!!!’ การผจญภัยเพื่อพิสูจน์ ‘คุณค่า’ ในสิ่งที่ทำของแฟรงกี้และเพื่อนๆ ก็ได้เริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
