×

ตำรวจฝรั่งเศสจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยใช้อาวุธมีดแทงพลเมืองในปารีสได้แล้ว ด้าน รมว.มหาดไทยชี้เป็นเหตุ ‘ก่อการร้าย’

26.09.2020
  • LOADING...

สำนักข่าว AFP รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สามารถจับกุมตัวชายผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุใช้มีดปังตอสับเนื้อ (Meat Cleaver) เป็นอาวุธเข้าทำร้ายพลเมือง 2 รายเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน

 

โดยมีผู้ต้องสงสัยที่อยู่ระหว่างการสืบสวนในคดีนี้รวมทั้งสิ้น 7 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ต้องสงสัยหนึ่งรายซึ่งเป็นชายชาวปากีสถาน วัย 18 ปี ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพุ่งเป้าเป็นผู้ต้องสงสัยหลัก และถูกควบคุมตัวไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ 

 

ขณะที่มีการเปิดเผยว่าพลเมืองเคราะห์ร้ายทั้งสองรายที่ถูกทำร้ายด้วยมีดเป็นพนักงานของบริษัทผู้ผลิตรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ซึ่งทั้งคู่มีอาการบาดเจ็บสาหัส และได้ถูกส่งตัวเพื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทันที 

 

ด้าน เจอรัลด์ ดาร์มานอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศส ได้เปิดเผยระหว่างให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์สาธารณะแห่งชาติของฝรั่งเศส France 2 โดยประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่าเป็นเหตุก่อการร้ายอิสลาม (Islamist Terrorism) เช่นเดียวกับสำนักงานต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติของฝรั่งเศส (PNAT) ที่ได้เปิดฉากการสอบสวนในข้อหา ‘พยายามฆ่าที่เกี่ยวข้องกับองค์กรก่อการร้าย’ รวมถึง ‘สมคบคิดกับผู้ก่อการร้าย’

 

สาเหตุที่ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศสเชื่อว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้น่าจะเชื่อมโยงกับประเด็นทางศาสนา เนื่องจากบริเวณจุดเกิดเหตุเคยเป็นอาคารสำนักงานเก่าของนิตยสารเสียดสีประเด็นทางการเมืองและสังคมอย่าง Charlie Hebdo ที่เคยสร้างความไม่พอใจให้กับผู้นับถือศาสนาอิสลามจากการตีพิมพ์การ์ตูนล้อเลียน ‘โมฮัมหมัด’ ศาสดาของศาสนาอิสลามเป็นเวลาต่อเนื่องนานหลายปี

 

โดยก่อนหน้านี้ย้อนกลับไปในช่วงเดือนมกราคม 2015 ก็เคยเกิดเหตุการณ์ที่มือปืน 2 รายได้ก่อเหตุกราดยิงที่อาคารสำนักงานนิตยสาร Charlie Hebdo ในกรุงปารีสมาแล้วจนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย (เป็นนักเขียนการ์ตูน 8 ราย) จากโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในครั้งดังกล่าว (ปัจจุบันข้อมูลที่ตั้งออฟฟิศแห่งใหม่ของ Charlie Hebdo ได้ถูกปิดเป็นความลับ)

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising