×

มาครงคว้าชัยเลือกตั้งรอบแรก เตรียมสู้ มารีน เลอ แปน ในศึกชิงเก้าอี้ ปธน.ฝรั่งเศส รอบสอง 24 เม.ย. นี้

11.04.2022
  • LOADING...
เอ็มมานูเอล มาครง

วันนี้ (11 เมษายน) ทางการฝรั่งเศสนับผลคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกไปแล้วราว 97% โดย เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีคนปัจจุบันจากพรรคอองมาร์ช (LREM) คว้าชัยรอบแรก (First Round) มีคะแนนเสียง 27.35% นำอันดับที่ 2 อย่าง มารีน เลอ แปน จากพรรค National Rally (RN) ท่ีมีคะแนนเสียงอยู่ที่ 23.97% โดยทั้งมาครงและเลอ แปน จะเป็นผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้นำฝรั่งเศส 2 คนสุดท้ายในการเลือกตั้งรอบ 2 (Second Round) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24 เมษายนนี้ตามเวลาท้องถิ่น

 

ขณะที่ผู้สมัครอีก 10 รายที่เหลือ มีเพียง ฌอง-ลุค เมลองชง จากพรรค La France Insoumise (LFI) เท่านั้นที่ได้รับคะแนนเสียงสูงกว่า 20% และพอจะมีโอกาสให้ได้ลุ้นเข้าไปเป็นผู้สมัคร 2 คนสุดท้ายในรอบ 2 แต่ก็ต้องพลาดหวังไปในที่สุด 

 

หลายฝ่ายมองว่าคะแนนเสียงที่เมลองชงได้รับ 21.95% ในรอบแรกนี้ จะเป็นปัจจัยสำคัญว่าคะแนนเสียงเหล่านี้จะถ่ายโอนไปที่ผู้สมัครคนใดมากกว่ากันระหว่างมาครงกับเลอ แปน โดยเมลองชงแสดงจุดยืนชัดเจนเรียกร้องให้ผู้ที่ลงคะแนนเสียงให้เขาในรอบแรก อย่าลงคะแนนเสียงในเลอ แปน แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่ได้แสดงจุดยืนสนับสนุนมาครง เหมือนกับผู้สมัครส่วนใหญ่ที่เหลือ

 

โดยโพลหลายสำนักคาดการณ์ว่า ผลการเลือกตั้งในรอบที่ 2 นี้ สัดส่วนคะแนนของมาครงและเลอ แปน จะขยับเข้ามาใกล้กันมากยิ่งขึ้น มีส่วนต่างของผลคะแนนที่แคบลง ซึ่งโพลจาก Ifop ชี้ มาครงจะชนะการเลือกตั้งเหนือเลอ แปน อยู่ที่ 51% ต่อ 49% ขณะที่โพลจาก BFMTV ชี้ ช่องว่างระหว่างคะแนนของมาครงและเลอ แปน จะลดลงมาอยู่ที่ 52% ต่อ 48%

 

คาดว่ามาครงจะได้รับแรงสนับสนุนจากชาวฝรั่งเศสจำนวนไม่น้อย โดย 1 ใน 4 ของคนรุ่นใหม่สนับสนุนเขา แม้ว่า 1 ใน 3 ของผู้ที่มีอายุ 18-24 ปี จะเลือกสนับสนุนเมลองชงในรอบแรกก็ตาม อีกทั้งชาวฝรั่งเศสที่อายุ 65 ปีขึ้นไปก็มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนเขาในการเลือกตั้งรอบ 2 นี้ ส่วนชาวฝรั่งเศสวัย 35-64 ปี ส่วนใหญ่สนับสนุนเลอ แปน ให้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของฝรั่งเศส 

 

ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสเมื่อปี 2017 ทั้งมาครงและเลอ แปน ก็เป็นผู้สมัคร 2 คนสุดท้ายในการเลือกตั้งรอบ 2 ซึ่งในครั้งนั้นมาครงสามารถกวาดคะแนนเสียงไปได้ 66.10% ชนะการเลือกตั้งเหนือเลอ แปน ที่ได้รับคะแนนเสียงไป 33.90% แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าพรรคการเมืองจากประชานิยมปีกขวา (Right-wing Populism) ในยุโรป จะได้รับคะแนนนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา 

 

โดยการเกิดขึ้นของประชานิยมปีกขวา ส่วนหนึ่งเป็นผลที่เกิดจากกระแสโลกาภิวัตน์ เพราะกระแสดังกล่าวไปกระทบกับชนชั้นล่างและบรรดาคนงานในสังคมตะวันตก เราจะเริ่มเห็นการก่อการร้าย ต่อต้านชุดความคิดแบบเสรีนิยม ต่อต้านโลกาภิวัตน์ การต่อต้านผู้อพยพ คนมุสลิม รวมถึงความหลากหลายทางเพศ ส่งผลให้กลุ่มประชานิยมปีกขวาในยุโรปเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว และก่อตัวเป็นสิ่งที่เราเรียกว่า ‘ชุดความคิดชาตินิยมใหม่’ (New Nationalism)

 

ภาพ: Aurelien Meunier / Getty Images, Chesnot / Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X