ทางการฝรั่งเศสระบุว่านักช้อปต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนก่อนเข้าห้างสรรพสินค้า

เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีของประเทศฝรั่งเศส ออกแผนการและประกาศมาตรการใหม่หลังจากมียอดผู้ติดเชื้อโควิดภายในประเทศจากสายพันธุ์เดลตาเพิ่มมากขึ้น โดยระบุว่าประชาชนต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนก่อนเข้าไปยังสถานที่ต่างๆ ทั้งคอนเสิร์ต ร้านอาหาร รวมถึงศูนย์การค้า

มาตรการดังกล่าวกำหนดให้บุคคลที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน หรือผลการตรวจเชื้อโควิดครั้งล่าสุดที่เป็นลบ โดยเริ่มที่คอนเสิร์ต โรงละคร โรงภาพยนตร์ และสวนสนุกภายในประเทศ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 21 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ หลังจากนั้นภายในเดือนสิงหาคมจะขยายไปยังร้านอาหาร คาเฟ่ ศูนย์การค้า โรงพยาบาล สถานดูแลผู้สูงอายุ และการคมนาคมต่างๆ ทั้งเครื่องบิน รถไฟ และรถบัส อย่างไรก็ตามมาตรการดังกล่าวจะขยายต่อไปอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสถานการณ์

เอ็มมานูเอล มาครง กล่าวในแถลงการทางโทรทัศน์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า “ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน อยู่ใกล้บ้านหรือว่าลาพักร้อน จะมีหรือไม่มีนัดหมาย ขอให้เข้ารับวัคซีนโดยเร็ว! มันเป็นวิธีเดียวที่จะป้องกันตัวคุณและผู้อื่น มันเป็นเรื่องความรับผิดชอบส่วนบุคคลและส่วนรวม และเสรีภาพของเราขึ้นอยู่กับมัน”

ในขณะที่ประชาชนในยุโรปกำลังออกเดินทางพักผ่อนในช่วงฤดูร้อน พร้อมกับมาตรการการเดินทางและการฉีดวัคซีนที่ดีขึ้นตามลำดับ แต่ในขณะเดียวกัน ฝรั่งเศสยังต้องเผชิญกับการติดเชื้อจากพันธุ์เดลตาที่เพิ่มขึ้น โดยสำนักข่าว Reuters รายงานว่าอัตราการติดเชื้อดังกล่าวในฝรั่งเศสสูงถึง 40% ของยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมด จากเดิมที่มีตัวเลขติดเชื้อรายวันลดเหลือเพียง 1,800 ราย กลายมาเป็นแตะระดับ 2,500 รายภายในไม่กี่วัน ซึ่งในขณะที่มีการฉีดวัคซีนครบโดสเพียง 36% ของประชากรทั้งหมด

ส่วนศูนย์การค้าใหญ่ๆ ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งอย่างเต็มรูปแบบ โดยหนึ่งในสถานที่ที่ได้เป็นที่หมายปองของนักท่องเที่ยวและชาวปารีสคือห้างสรรพสินค้า La Samaritaine ห้างสรรพสินค้าสุดหรูและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของฝรั่งเศสที่เพิ่งเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากต้องปิดปรับปรุงซ่อมแซมไปนานกว่า 16 ปี และจะตามมาด้วยอีเวนต์สำคัญอย่าง Paris Fashion Week ฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นปลายเดือนกันยายนไปจนถึงต้นเดือนตุลาคม

ภาพ: Marc Piasecki/Getty Images

อ้างอิง: