×

พรรณิการ์โต้ กกต. ปมตั้งกรรมการสอบคณะก้าวหน้า ดำเนินกิจกรรมคล้ายพรรคการเมือง

โดย THE STANDARD TEAM
01.12.2020
  • LOADING...
พรรณิการ์โต้ กกต. ปมตั้งกรรมการสอบคณะก้าวหน้า ดำเนินกิจกรรมคล้ายพรรคการเมือง

วันนี้ (1 ธันวาคม) ที่สำนักงานคณะก้าวหน้า อาคารไทยซัมมิท ชั้น 5 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติตั้งคณะกรรมการสืบสวนคณะก้าวหน้า คดีดำเนินกิจกรรมคล้ายพรรคการเมือง

 

โดยระบุว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการใช้คดีความข่มขู่และปิดปาก ทุกครั้งที่เราโดนแบบนี้ก็ถือเป็นนิมิตหมายว่า เขากำลังประเมินว่าเรากำลังประสบความสำเร็จ เช่นในครั้งนี้ก็คงเห็นว่ามีโอกาสสูงที่คณะก้าวหน้าจะชนะการเลือกตั้งท้องถิ่นในหลายจังหวัด จึงงัดมุกเดิมเอามาใช้ เพื่อประสิทธิภาพการหาเสียงช้าลง ทำให้ประชาชนไขว้เขวในการลงคะแนน แต่อย่างไรก็ตามเรายืนยันว่า ไม่อาจที่จะหยุดยั้งการเดินหน้าหาเสียงใน 42 จังหวัดที่เราส่งผู้สมัครได้ เพราะวันนี้ประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลง และคดีความที่เกิดขึ้นนี้มีแต่จะทำให้ประชาชนให้ความสนใจกับการหาเสียงมากขึ้น ซึ่ง กกต. ควรจะต้องขอบคุณคณะก้าวหน้า ที่ทำให้ประชาชนตื่นตัวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับข้อกล่าวหานี้ ขณะที่ กกต. เองนอกจากขึ้นป้ายแล้ว แทบไม่เห็นงานประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งอื่นใดเลย 

 

“เรายืนยันกับผู้สมัครและประชาชนทุกคนว่า เราทำตามกฎหมายทุกประการ เพราะสิทธิ์ที่เราโดนตัดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นมีเพียง 3 เรื่อง คือ ลงสมัครรับเลือกตั้ง ตั้งพรรคการเมือง และแทรกแซงครอบงำพรรคการเมือง สิทธิ์นอกเหนือจากนั้นยังอยู่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสิทธิ์ในฐานะประชาชน สิทธิ์ในการรวมตัว สิทธิ์ในการแสดงออก ยังอยู่ครบทุกประการ และเราทุกคนขึ้นทะเบียนเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครทุกคน เพราะฉะนั้นทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งก่อนนี้ก็เคยมีตัวอย่างมาแล้ว กรณีที่ผู้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากสุดท้าย กกต. ยืนยันเอาผิดจริงๆ ก็อยากทราบว่าใช้ข้อกฎหมายข้อใดมาเอาผิด” พรรณิการ์กล่าว 

 

พรรณิการ์กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นมีหลายกลุ่มส่งผู้สมัครลงแข่งขัน เพราะข้อบังคับไม่ได้ระบุอยู่แล้วว่าต้องสังกัดพรรคการเมือง ดังนั้น กลุ่มต่างๆ ก็ส่งลงแข่ง ขณะที่คณะก้าวหน้าเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ส่งผู้สมัครลงในหลายๆ พื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องทำได้ แต่ถ้าข้อบังคับของ กกต. ระบุว่าพรรคการเมืองจะต้องส่ง ถ้าไม่ลงในนามพรรคการเมืองจะลงสมัครไม่ได้ แล้วคณะก้าวหน้าเราทำ อันนี้ต่างหากที่จะเป็นพฤติกรรมเข้าข่ายเลียนแบบพรรคการเมือง ดังนั้น จะเป็นไปได้อย่างไรที่มีสารพัดกลุ่มทั่วประเทศไทยส่งเต็มไปหมด แล้วมีคณะก้าวหน้าเพียงกลุ่มเดียวที่ถูกดำเนินคดี ซึ่งถ้ากล้าทำแบบนั้น ก็อยากรู้เหมือนกันว่าประชาชนจะมองเรื่องนี้อย่างไร

 

“อะไรที่ทำให้เรามีพฤติกรรมเหมือนพรรคการเมือง ถ้าเราตั้งกลุ่มขึ้นมาแล้วส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. อย่างนี้สิทำพฤติกรรมเหมือนพรรคการเมือง เพราะเราทำไม่ได้ เราไม่ใช่พรรคการเมือง จึงส่งผู้สมัคร ส.ส. ไม่ได้ แต่ตรงกันข้าม เราส่งผู้สมัครลงรับสมัครเลือกตั้งท้องถิ่น โดยเราไม่ได้เป็นพรรค ซึ่งสามารถทำได้ เพราะโดยปกติ เลือกตั้งท้องถิ่นก็ไม่ต้องลงในนามพรรคการเมืองอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น แทนที่จะถามพวกเราว่า เราจะอธิบายตัวเองอย่างไรว่าเราไม่ได้ทำตัวเหมือนพรรคการเมือง ควรไปถาม กกต. กลับว่า เราทำอะไรเหมือนพรรคการเมือง อยากให้ลองไปเปิดนิยามของพรรคการเมืองดู ใจความสำคัญคือต้องมีสมาชิกพรรค แต่สำหรับเราไม่มี และเป็นกลุ่ม ซึ่งประชาชนทุกคนมีสิทธิ์รวมกลุ่มและขับเคลื่อนทางสังคม ประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเชียร์ผู้สมัครของตัวเอง และเดินทางไปสนับสนุนผู้สมัครของตัวเอง” พรรณิการ์กล่าว

 

ส่วนกรณีที่คณะก้าวหน้ามีการจัดองค์กรเหมือนพรรคการเมือง คือมีกรรมการบริหาร มีเลขาธิการต่างๆ พรรณิการ์ระบุสั้นๆ ว่า “ถ้าอย่างนั้น สมาคมไร่อ้อยก็คงเป็นพรรคการเมือง” เพราะมีประธานและเลขาฯ เช่นเดียวกัน

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising