×

เปิดโผ Fortune 500 Walmart ครองแชมป์รายได้มากที่สุดกว่า 5 แสนล้านเหรียญ

22.05.2018
  • LOADING...

ผลการจัดอันดับ Fortune 500 ครั้งที่ 64 ที่เพิ่งประกาศเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าบริษัทกลุ่มนี้มีมูลค่าของธุรกิจรวมสูงถึง 12.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 2 ใน 3 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของสหรัฐอเมริกา ทำกำไรได้ถึง 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และสร้างการจ้างงานกว่า 28 ล้านคน มีแบรนด์ที่น่าสนใจ 10 อันดับแรกคือ

 

1. Walmart ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ มีรายได้กว่า 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

 

2. ExxonMobil ผู้เล่นรายสำคัญของธุรกิจพลังงาน มีรายได้กว่า 2.44 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

 

3. Berkshire Hathaway ของเจ้าพ่อนักลงทุน วอร์เรน บัฟเฟตต์ มีรายได้กว่า 2.42 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

 

4. Apple อาณาจักรเทคโนโลยีที่ยังมาแรงแม้ไร้เงาสตีฟ จ็อบส์ ยังมีรายได้ที่กว่า 2.29 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

 

5. UnitedHealth Group มีรายได้กว่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

 

6. McKesson มีรายได้กว่า 1.98 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

 

7. CVS Health มีรายได้กว่า 1.84 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

 

8. Amazon อีคอมเมิร์ซระดับโลก มีรายได้กว่า 1.77 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

 

9. AT&T มีรายได้กว่า 1.6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

 

10. General Motors ค่ายยานยนต์ระดับตำนานของอเมริกา มีรายได้กว่า 1.57 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

 

ขณะที่ Tesla ของมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ หลังจากที่ปล่อย Tesla Model 3 ออกมาและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้อันดับของ Tesla ขยับขึ้นมาที่ 260 ซึ่งถือเป็นบริษัทที่อันดับเปลี่ยนแปลงมากที่สุด (Big Jump) คือขยับขึ้น 123 อันดับ ส่วน Netflix บริการสตรีมมิงระดับโลกก็ยังทำสถิติได้ดีอยู่อันดับที่ 261 กระโดดขึ้นมา 53 อันดับ และ Facebook แม้ว่าจะเผชิญกับมรสุมเรื่องข้อมูลผู้ใช้งานรั่วไหลก็ยังปรับอันดับขึ้นมาอยู่ที่ 75

 

นอกจากเรื่องระดับรายได้แล้ว อีกประเด็นที่น่าสนใจคือเรื่องความเท่าเทียมทางเพศและโอกาสของผู้หญิงในการดำรงตำแหน่งผู้บริหาร พบว่ามีซีอีโอหญิงของบริษัทกลุ่ม Fortune 500 เพียง 24 คน หรือคิดเป็น 4.8% เท่านั้น ซึ่งช่วงปีที่ผ่านมาเกิดกระแสในโลกธุรกิจเพื่อเรียกร้องให้เกิดการจ่ายค่าตอบแทนอย่างเท่าเทียมต่อเพศหญิง หลังจากที่มีรายงานพบว่ามีผู้หญิงจำนวนมากที่ได้เงินเดือนน้อยกว่าผู้ชายที่ทำงานในตำแหน่งเดียวกันและความสามรถอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน  

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising