ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในเดือนพฤษภาคม 2563 พบว่าอยู่ที่ 16,278 ล้านดอลลาร์ หดตัวร้อยละ 22.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เป็นผลจากมาตรการปิดเมืองของหลายประเทศทั่วโลก ส่งผลให้ 5 เดือนแรก ส่งออกไทยหดตัวร้อยละ 3.7 (YoY) โดยการส่งออกที่หดตัวในเดือนพฤษภาคมนับเป็นการหดตัวลึกที่สุดในรอบกว่า 10 ปี (มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในเดือนกรกฎาคม 2552 หดตัวร้อยละ 25.7 YoY)
ซึ่งการหดตัวดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการส่งออกสินค้าของประเทศในภูมิภาค เช่น ญี่ปุ่น (หดตัวร้อยละ 28.3 YoY) เกาหลีใต้ (หดตัวร้อยละ 23.7 YoY) และอินโดนีเซีย (หดตัวร้อยละ 29.0 YoY) สาเหตุหลักมาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เข้มงวดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งส่งผลให้ห่วงโซ่การผลิตโลกชะงักงัน (Supply Disruption) อีกทั้งอุปสงค์โลกอ่อนแอลงค่อนข้างมากจากมาตรการล็อกดาวน์
อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าไทยในเดือนพฤษภาคม 2563 ยังได้อานิสงส์จากการส่งออกทองคำที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 735.1 YoY หากหักลบมูลค่าการส่งออกทองคำ มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยหดตัวร้อยละ 27.9 YoY
หากพิจารณารายตลาดส่งออกของไทย พบว่าการส่งออกสินค้าไทยไปจีนขยายตัวร้อยละ 15.3 YoY ในเดือนพฤษภาคม 2563 ซึ่งนับเป็นตลาดหลักเพียงตลาดเดียวที่มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยขยายตัวเป็นบวกในเดือนที่แล้ว โดยสินค้าส่งออกไทยไปจีนที่ขยายตัวสูง ได้แก่ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง โดยเฉพาะทุเรียน (ขยายตัวร้อยละ 234.4 YoY) รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ (ขยายตัวร้อยละ 204.2 YoY) และผลิตภัณฑ์ยาง (ขยายตัวร้อยละ 35.6 YoY)
หากพิจารณารายสินค้าส่งออกของไทย พบว่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรยังขยายตัวเป็นบวกจากอานิสงส์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของสินค้าบางประเภท เช่น ผลไม้ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และทูน่ากระป๋อง เป็นต้น ในขณะที่การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไทยหดตัวสูงถึงร้อยละ 27.0 YoY ในเดือนพฤษภาคม 2563 โดยเป็นการหดตัวในทุกหมวดสินค้าส่งออกอุตสาหกรรมศักยภาพของไทย อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (หดตัวร้อยละ 62.6 YoY) และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่พลิกกลับมาหดตัวร้อยละ 14.6 YoY หลังอานิสงส์ของการทำงานที่บ้านสิ้นสุดลง
จากความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกที่สูงขึ้น รวมถึงปัจจัยค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่านับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ยังเป็นปัจจัยที่กดดันการส่งออกของไทยในระยะข้างหน้า โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการไว้ที่หดตัวร้อยละ 6.1 YoY โดยที่ยังต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดรอบ 2 ซึ่งอาจจะทำให้การส่งออกมีแนวโน้มหดตัวมากกว่าที่ประเมินไว้
แม้การส่งออกทองคำจะมีน้ำหนักช่วยพยุงภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยในปี 2563 แต่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนสูงอยู่ โดยเฉพาะในเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในต่างประเทศ ยิ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดยืดเยื้อออกไปจากไตรมาสที่ 2/63 ด้วยแล้ว ยิ่งเป็นความเสี่ยงให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยที่รุนแรงขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้ภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 หดตัวลึกกว่าที่ประเมิน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
